My honey เธอคนนี้แม่ของลูก ตอนที่1 ไม่นึกว่าจะเจอ
เด็กหญิงตัวอ้วนกลมในชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่องคนนั้น หน้าตาเหมือนเขาอย่างกับถอดแบบกันมา ใช่แน่ๆ... ใช่อย่างที่เขาคิดแน่ๆ
ตัวอย่างบางตอน
ฟึ่บ... ยังไม่ทันที่เพลินฝันจะวิ่งหนีเข้าไปหลังร้านเธอก็ถูกน่านฟ้าดึงเอาไว้ และเป็นอินทัชที่วิ่งมาขวางหน้า สาวเจ้าหลับตาปี๋ขบเม้มริมฝีปากแน่นชาวาบไปทั้งตัว ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเจอน่านฟ้าที่นี่
สองแขนแกร่งรวบพลิกตัวคนตัวเล็กให้หันมาประจันหน้ากับเขา น่านฟ้าจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ตอนนี้ซีดเผือดไร้เลือดฝาดทั้งยังเอาแต่หลับตาไม่กล้ามองหน้าหรือปริปากพูดอะไร เขาจ้องมองเธออยู่แบบนั้นไม่ละสายตา
“แอ้ มา...ม่ะ” เสียงใสของยัยหนูตัวกลมที่ยืนหน้าบานเรียกคนเป็นแม่อยู่ในเปลทำเพลินฝันแทบลมจับ ทั้งเสียงนั้นยังดึงความสนใจจากสองหนุ่มได้เป็นอย่างดี ทำสองหนุ่มจ้องมองไปยังเด็กหญิงตัวกลมในเปลเป็นตาเดียวก่อนจะหันมามองหน้ากันด้วยสายตาฉงนบ่งบอกถึงความสงสัยที่ตรงกัน
เพลินฝันได้แต่ยืนเงียบไม่ยอมตอบรับเสียงเรียกของลูกสาว ตอนนี้เธอรู้สึกหูอื้อตาลาย ในหัวตอนนี้มีเพียงคำว่า ‘ตายแน่’ วนเวียนอยู่ไม่เว้นว่าง
“มา...ม่ะ มา..ม่ะ แอ้ะ!!” ใช่ตอนนี้เสียงเจ้าตัวกลมกำลังเริ่มเพิ่มความหนาของน้ำเสียงเตรียมตัวที่จะดุในไม่อีกกี่วินาที
“หม่าม๊าอยู่ตรงนี้ไงคะ” เพลินฝันที่ถูกขึงเอาไว้ด้วยสองแขนแกร่งเอี้ยวตัวมองกลับหลัง ส่งเสียงหวานปนสั่นเครือเอ่ยตอบลูกรัก คำพูดของเธอที่คุยกับเด็กหญิงตัวกลมในเปลเริ่มทำให้น่านฟ้าเริ่มขมวดคิ้วย่นมากขึ้น
“ลูกคุณ...กับใคร?” เขาเอ่ยถามหญิงสาวเสียงแข็ง ทั้งสายตายังจับจ้องไปที่เด็กหญิงตัวกลมกระโปรงชมพูฟูฟ่องไม่วางตา ดวงตากลมคู่นั้นที่จ้องมองมายังเขาตาแป๋ว ทั้งยังพวงแก้มที่ฟูเป็นซาลาเปา รวมถึงปากเล็กอมชมพู หากเด็กหญิงไม่มีโบว์คาดอยู่ที่หัวก็ไม่ได้ต่างอะไรกับรูปถ่ายของเขาตอนแรกเกิด
เนื้อเรื่อง
ณ ร้านดอกไม้ขนาดกลางแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ในเช้าของวันนี้ที่ร้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะเป็นช่วงเข้าใกล้วันเทศกาลแห่งความรัก ผู้คนต่างก็รุมกันเข้ามาออเดอร์ช่อดอกไม้ล่วงหน้าที่หน้าร้าน บ้างก็โทรสั่ง บ้างก็สั่งทางออนไลน์ จนคนในร้านหัวหมุนเตรียมจัดดอกไม้กันมือเป็นระวิง
เด็กหญิงผิวขาวตัวอ้วนกลมแขนขาเป็นปล้องในชุดเสื้อยืดสีขาวกระโปรงสวมกางเกงเลคกิ้งขายาวสีชมพูสวมทับด้วยกระโปรงชีฟองฟูฟ่องสีชมพู เด็กหญิงคลานตัวป้อมไวๆ เข้ามาหาคนเป็นแม่ที่กำลังจัดดอกไม้อยู่กับพนักงานในร้าน
“แอ้..แอ้..มา..ม่ะ มาม่ะ” มาถึงตัวคนเป็นแม่ได้ก็นั่งเงยหน้ายิ้มโชว์ฟันสองซี่บน ส่งเสียงแหลมใสเรียกแม่คนเป็นแม่ไม่ยอมหยุด เรียกรอยยิ้มจากเหล่าสาวๆ ในร้านที่กำลังจัดดอกไม้กันง่วนได้เป็นอย่างดี
“ว่ายังไงคะ หม่าม๊าก็อยู่นี่ไงคะลูก ไม่ได้หนีไปไหนเลย” เพลินฝันหยิบจับช่อดอกไม้มือเป็นระวิงพลางส่งเสียงตอบลูกสาววัยเก้าเดือนไปด้วย ลองเธอไม่ตอบเสียงของลูกเธอก็จะดังไม่เลิก ดีไม่ดีจากเสียงเรียกจะกลายเป็นเสียงขู่ภายในไม่กี่วินาที
“จ๋า จะ จ๋า จะ” แปะๆ เด็กหญิงยกมือป้อมปรบมือดัง ทั้งเอียงคอส่งยิ้มกว้างส่งเสียงหยอกล้อกับคนเป็นแม่อีกรอบ ยังคงเงยหน้ามองแม่ตาแป๋วเพื่อรอให้แม่นั้นส่งเสียงตอบ
“จ๋าจะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มมองลูกรักด้วยสายตาเอ็นดู และรีบตอบกลับลูกเธอเสียงดัง
“แอร๊ะ..” แปะๆๆ พอเห็นคนเป็นแม่โต้ตอบเล่นด้วยได้เด็กหญิงตัวกลมก็ส่งเสียงหัวเราะพร้อมยกมือป้อมปรบมือชอบใจยกใหญ่ จนคนเป็นแม่อย่างเพลินฝันและพนักงานในร้านมีรอยยิ้มได้ในเวลาที่งานยุ่ง
“อะ พี่ให้พิเศษ วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวันเลย” เพลินฝันยื่นเงินแบงค์พันให้กับหวันยิหวาและกุลนัดดา เพราะวันนี้เห็นว่าทั้งสองช่วยงานกันอย่างเต็มที่ช่วยกันจัดออเดอร์กันมาทังวันไม่ได้หยุด
“ขอบคุณนะคะพี่เพลิน/ขอบคุณค่ะพี่เพลิน” หญิงสาวทั้งสองยกมือไหว้เจ้าของร้านสวยๆ ก่อนจะรีบรับเงินด้วยท่าทางนอบน้อม
“เลิกงานแล้วทำไมไม่เตรียมตัวกลับล่ะ”
“อีกครึ่งชั่วโมงจะมีลูกค้าอีกคนมารับดอกไม้ค่ะ” หวันยิหวาจำได้ว่าช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่เธอจัดเอาไว้ ลูกค้าบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะมารับ เธอเลยจะต้องอยู่ดูแลในส่วนนี้ก่อน
“เดี๋ยวพี่อยู่ดูแลเอง กลับกันได้แล้วถ้าเย็นกว่านี้รถจะรถติดนะ”
“ค่ะ งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ” กุลนัดดายกมือไหว้เจ้านายอีกครั้ง ก่อนจะหันไปหาเด็กหญิงตัวอ้วนกลมที่ยืนยิ้มร่าอยู่บนเปลสีชมพูหวาน
“พี่กลับแล้วนะคะน้องพลอย บ๊าย บ่าย...”
“บาย...” จุ๊บ เด็กหญิงยกมือป้อมโบกไม้โบกมือให้พี่สาวทั้งสอง ก่อนจะดึงมือป้องปากส่งเสียงจูบที่มือดังลั่น พฤติกรรมไร้เดียงสาน่าเอ็นดูของเด็กหญิงพลอยชมพูเรียกรอยยิ้มให้ทุกคนได้ชื่นใจกันอีกครั้ง
ณ ท้องถนนใจกลางเมืองใหญ่ยามใกล้ค่ำ รถบนทางด่วนในเวลานี้ค่อนข้างจะมากเป็นพิเศษ อินทัชเลขาคนสนิทของน่านฟ้าที่กำลังขับรถตู้คันหรูรีบตบไฟเลี้ยวซ้ายก่อนจะค่อยๆ เลี้ยวลงไปทางลาดด้านล่าง และแล้วก็ต้องมาเชิญกับรถที่ติดหนักกว่าเดิม
อินทัชมองเจ้านายที่นั่งน่านิ่วคิ้วขมวดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ทำไมคุณน่านต้องไปหาคุณโมนาด้วยตัวเองด้วยล่ะครับ ให้ผมเอาของไปให้ก็ได้” วันนี้ทั้งวันเจ้านายของเขาต้องออกต่างจังหวัดตั้งแต่เช้ายังไม่ได้พักผ่อน กลับเข้ามากรุงเทพก็ต้องมาเป็นธุระส่งของขวัญให้โมนาตามคำขอร้องของคนเป็นป้าอีก
“ผมรับปากคุณป้าไปแล้วน่ะสิ ท่าทางคุณป้าจะบอกทางนั้นไว้แล้วด้วยว่าผมจะไป” ประธานหนุ่มเอ่ยตอบคนสนิทเสียงห้วน เขาไม่ได้อยากจะพบเจอใครตอนนี้ทั้งนั้น แต่ติดที่หลวมตัวรับปากว่าจะช่วยป้าของเขาโดยที่ไม่ถามเรื่องราวให้แน่ชัดเสียก่อนว่าจะให้ช่วยเรื่องอะไร
จนสุดท้ายเขาก็ต้องเป็นธุระส่งดอกไม้และของขวัญต้อนรับการกลับเมืองไทยให้กับโมนาลูกสาวเจ้าของร้านเพชรเพื่อนของป้า ดูออกว่างานนี้ป้าของเขาจงใจจับคู่ให้เขาแน่นอน
แต่ถึงแม้จะรู้ตัวว่ากำลังจะถูกจับคู่ เขาก็ไม่คิดรักชอบใครง่ายๆ เพราะยังไม่คิดจะมีครอบครัวกับใคร ด้วยเพิ่งจะขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของประเทศแทนคนเป็นพ่อเมื่อไม่นานมานี้ แถมยังมีเรื่องฝังใจเกี่ยวกับความรู้สึกในอดีต จึงยากที่จะเปิดใจมองใครมาเป็นคู่ชีวิต
“มาให้หม่าม๊าหอมให้ชื่นใจหน่อยนะคะ” ฟอด... เพลินฝันรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมในเปลมาหอมฟอดใหญ่ๆ ชอบพวงแก้มนุ่มๆ ของลูกสาวเสียเหลือเกินเพราะมันใหญ่นุ่มฟูจนหอมได้เต็มที่ในคราวเดียว
ฟอด... เด็กหญิงกดจมูกหอมแก้มคนเป็นแม่ตอบ นี่แหละหนาชีวิตของเพลินฝัน เหนื่อยแค่ไหนก็หายเหนื่อยได้เมื่อมีกำลังใจก้อนโตๆ อยู่ใกล้ๆ แบบนี้
“อยู่ในเปลก่อนนะลูก” หญิงสาววางจ้าก้อนกลมลงเปลอีกครั้ง เพราะเห็นว่าตอนนี้ที่หน้าร้านมีรถตู้สีดำคันหรูเข้ามาจอด เธอเข้าใจได้ว่าคนบนรถน่าจะเข้ามารับดอกกุหลาบช่อโตแน่นอน
หญิงสาวรีบเปิดประตูร้านก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้กับสองหนุ่มในชุดสูทที่เพิ่งลงมาจากรถคันหรู
“สวัสดีค่ะ คะ...คุณ” เมื่อสายตาปะทะเข้ากับสองหนุ่มที่คุ้นหน้า สีหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรคราแรกก็เริ่มแปรเปลี่ยนแสดงออกถึงอาการตกอกตกใจจนสองหนุ่มเห็นได้ชัด
