บทที่5 ต้องตัดสินใจ
วันถัดมา
เปียโนตัดสินใจแล้วว่าข้อเสนอของออสตินนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่พอจะช่วยพ่อของเธอได้รับการผ่าตัด ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ที่เขาเสนอมาแบบนั้นต้องการอะไรถึงแม้ว่าเธอจะถูกเลี้ยงมาราวกับคุณหนูสุขสบายก็ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคนรวย ๆ เสียเมื่อไหร่
ร่างเล็กนั่งชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่เธอจะยกมือถือขึ้นมาแนบที่ใบหู เบอร์โทรที่ต่อสายออกไปนั้น แน่นอนว่าเป็นเบอร์ของหนุ่มหล่อร่างสูง
ตืด ตืด
รอสัญญาณอยู่สักพักทันทีที่ปลายสายกดรับพร้อมเสียงเข้มก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น
"สวัสดีครับ"
"......"
"ฮัลโหล"
ดูเหมือนความกลัวจะวิ่งแทรกเข้ามาทำให้เปียโนแทบจะเปล่งเสียงไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดคำไหนก่อนดีทว่าระหว่างนั้นปลายสายเองก็ทำท่าเหมือนจะว่างเสียด้วยซ้ำ
"สะ สวัสดีค่ะ"
"ครับ"
"เอ่อ คือจำหนูได้ไหมคนที่คุณช่วยในเลานจ์วันนั้น"
ปลายสายเงียบไปสักพักเหมือนเป็นช่วงต่อลมหายใจให้เธอ เปียโนเองก็เริ่มผ่อนลมออกจากปากช้า ๆ
"อ้อ....."
"คือหนูอยากจะฟังข้อเสนออีกครั้งค่ะ"
"ข้อเสนองั้นเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะไม่สนใจมันเสียอีก"
"คือ......"
"เอาเถอะ หากเธอสนใจละก็เย็นนี้มาเจอฉันที่เลานจ์"
"คะค่ะ"
ปลายสายว่างกะทันหัน ทำให้เปียโนไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นักเดาทางไม่ออกเลยว่าเขาสนใจเธอในรูปแบบไหนกันแน่ หรือแค่อยากเล่นสนุกกับพนักงาน
หลังจากที่วางสายเปียโนก็เดินออกมาจากห้องส่วนตัว เพียงแค่ประตูห้องเปิดนิลภพที่นอนพักอยู่ก็รีบถามด้วยความสงสัย
"วันนี้ไม่มีเรียนเหรอลูก ทำไมถึงไม่แต่งตัวเสียละ"
"อ้อ คือ....ที่คณะเขาจัดกิจกรรมน่ะค่ะพ่อก็เลยไม่มีเรียน"
"แล้วหนูไม่ไปร่วมกับเขาหรือไง"
"หนูลารุ่นพี่ไว้แล้วค่ะ อีกอย่างพ่อพึ่งออกจากโรงพยาบาลจะให้หนูทิ้งพ่อได้อย่างไรกัน"
"แต่พ่อก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนะ"
เปียโนทำท่าทางอึดอัดเลิ่กลั่กเล็กน้อย เธอจะบอกพ่ออย่างไรว่า เธอทำเรื่องดรอปการเรียนไว้เพื่อมาหาเงินค่าผ่าตัด ขืนพ่อรู้พ่อของเธอก็คงไม่ยอมแน่
"พ่อค่ะ หนูลืมบอกพ่อไปว่าหนูย้ายงานใหม่ อาจจะกลับดึกหน่อยนะ"
"ย้ายงานแล้วย้ายไปที่ไหน"
"เป็นร้านอาหารค่ะ แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะหนูไม่ทิ้งการเรียนหรอก"
ใบหน้าของนิลภพดูเศร้าหมองลงเล็กน้อย เขาคงไม่คิดหรอกว่าชีวิตจะเดินมาถึงจุดนี้ยอมกัดฟันสู้งานให้ลูกสาวได้สุขสบายจนคิดว่าสร้างฐานะได้มั่นคงแล้ว แต่ความไว้ใจมันดันทำให้ตนกับลูกลำบาก
"พ่อขอโทษนะเปีย พ่อไม่น่าทำให้ลูกลำบากขนาดนี้เลย"
"อย่าโทษตัวเองสิคะ พ่อเลี้ยงหนูมาจนโตขนาดนี้แล้วจะช้าหรือเร็วหนูก็ต้องดูแลพ่ออยู่แล้ว"
"แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้"
"ทุกอย่างคงลิขิตมาแล้ว พ่ออย่าคิดมากสิพักผ่อนเยอะ ๆ ดีเสียอีกหนูจะได้มีประสบการณ์"
ใบหน้าสวยพูดไปยิ้มไป เปียโนเธอคงไม่อยากให้พ่อต้องคิดมาก ไม่อยากให้พ่อต้องเป็นทุกข์แม้เธอเองจะรู้ว่ามันลำบากจริงแต่จะทำอย่างไรได้คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น
เย็นของวันนั้น (เลานจ์)
ใบหน้าของเปียโนเครียดเกร็งด้วยความกดดัน มันก็แน่นอนว่าเธอกำลังจะเดินหน้าเสนอตัวให้ผู้ชาย ณ เวลานี่ร่างเล็กนั่งไม่ติดโต๊ะด้วยซ้ำแม้ว่าตอนนี้เพื่อน ๆ ร่วมงานคนอื่นจะง่วนอยู่กับการแต่งตัวก็ตามที
"เปียทำไมวันนี้มาเร็วนักละ"
เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถาม เมื่อร่างสูงผิวขาวของแมงเม่ากระชับเท้าเข้ามาที่ห้องแต่งตัวก่อนที่จะปฏิบัติงานเหมือนอย่างเคย
"คือ ฉันมีธุระนิดหน่อยว่าแต่ที่มหาลัยมีอะไรหรือเปล่า"
"ก็ไม่มีหรอก เสียดายที่แกตัดสินใจดรอปการเรียนไว้นะสิ รู้ไหมพี่โอโซนมาถามหาแกด้วยบอกว่าโทรหาแกไม่รับ"
คนที่แมงเม่าพูดถึงเป็นรุ่นพี่ที่คณะแถมยังตามจีบเปียโนมาเกือบปี แต่ดูเหมือนเปียโนเองจะยังไม่ตกลงปลงใจด้วย
"ฉันไม่พร้อมจะคุยอะไรตอนนี้ จริงสิคุณออสตินมาหรือยัง"
"เหมือนจะเห็นรถจอดอยู่นะ ว่าแต่แกถามหาเขาทำไม"
"อ้อ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวฉันไปแต่งตัวก่อนแล้วกัน"
เปียโนตัดบท ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งที่โต๊ะแต่งหน้า กระจกที่สะท้อนเงาตัวเองในนั้นมันมีคำถามมากมายที่เธอกำลังตั้งคำถามตัวเอง ไม่คิดเลยว่าเธอจะยอมทำอะไรบ้า ๆ แม้กระทั่งเดินเข้าหาผู้ชายเพื่อเงิน
ผ่านไปสักพักเธอก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว มุ่งหน้ามาที่ห้องส่วนตัวที่มีชายหนุ่มร่างสูงนั่งอยู่ในนั้น คงไม่ต้องเดายากเท่าไร่เพราะห้องนั้นเป็นห้องระดับวีไอพีแถมคนที่ใช้เป็นประจำก็มีแค่ออสตินกับเควินที่เป็นเจ้าของหรือบางครั้งใช้เป็นที่สังสรรค์ของลูกค้าเขาด้วย
ก๊อก ก๊อก
เปียโนเคาะประตูอยู่สองครั้งพร้อมกับพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ก่อนที่เธอจะดันประตูบานใหญ่แทรกร่างเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปแล้วก็เห็นว่าเขานั่งไถไอแพดเครื่องใหญ่พร้อมกับเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ด้านหน้า
หนุ่มหล่อใบหน้าออกลูกครึ่งผิวขาวสะอาดใบหน้าเกลี้ยงเกลาเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นเปียโนยืนนิ่งก็เอ่ยถามเสียงเรียบ
"ฉันนึกว่าเธอเปลี่ยนใจไปแล้วเสียอีก"
หากจะถามว่ามันน่าอายไหม สำหรับเปียโนมันจะน่าอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีแต่เธอไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ
"คือหนูอยากรู้ข้อเสนอที่คุณเสนอมาคืนก่อน"
"ข้อเสนอ...อ้อ" เขากระดิกนิ้วเรียกเธอเข้ามาใกล้ เปียโนเองก็ทำท่าทางเหมือนไม่มั่นใจนัก ทว่าก็สาวเท้าไปข้างหน้าจนกระทั่ง
พรึ่บ!
"อ้ายยย"
เขาโอบกอดเธอแน่นทำเอาเปียโนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี่ แต่ก็ต้องนิ่งเรียวปากอิ่มเม้มหากันแน่น
"ข้อเสนอที่ฉันพูดถึงนะเหรอ ทานข้าว ดูหนัง นั่งรถเล่น อะไรอีกนะ มันถึงจะคุ้มกับเงินห้าหมื่น"
เขาพูดจายียวนพร้อมโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ในขณะที่คนตัวเล็กเริ่มหวาดกลัวแต่ก็ใจสู้เพื่อเงินคำเดียว
"อะไรอีกค่ะ"
"แล้วเธออยากให้ทำอะไรดีละ"
"......."
