บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

ความคิดมากมายถาโถมเข้ามาในหัวของคนดีชวนให้เขาคิดหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มาอธิบายเรื่องราวที่ค้างคาใจ จากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เขาหาเรื่องทะเลาะกับนายท่านด้วยเหตุผลงี่เง่า ไหนจะอีกหลาย ๆ คำพูดที่คนดีเหน็บแนมแซะเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ยอมวาง พอนึกได้ตอนนี้นายท่านก็ดูเหมือนจะเกลียดเขาไปแล้วไม่ใช่แค่โกรธเหมือนคนอื่น ๆ ตอนนี้คนดีได้รู้ซึ้งแล้วว่าเขารับน้องนายท่านแรงเกินไป แต่มันก็สายไปแล้วที่จะกล่าวขอโทษ

“หึ ทำไมทำหน้าหงอยแบบนั้น รู้สึกผิดเหรอ”

“ทำไมมันถึงเลี้ยงกูวะไอ้ดล วันนี้กูด่ามันเยอะมากเลยนะเว้ย”

“ก็มันเป็นคนดีมีมารยาทไง หรือไม่ก็มันอาจจะไม่ได้สนใจคำพูดแย่ ๆ ของถึง เพราะมันเหมือน…”

“เหมือนอะไรวะไอ้ดล”

“คำพูดของเด็กไม่รู้จักโต”

หลังจากนั้นดลและชีวาก็เดินแยกไปยังรถสปอร์ต เหลือไว้เพียงแค่เขาที่อยู่โรงจอดรถคนเดียว ตอนแรกเขาก็กะว่าจะกลับด้วยกันแต่พอนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นยังมีธุระที่ร้านรับซื้อเครื่องประดับอยู่ ก็ตัดสินใจปลีกตัวออกมาทันที เพราะจะให้ทั้งสองคนนั้นรู้ไม่ได้ว่า เขาเอาของโจรไปขาย

“มันไม่ถือสาจริง ๆ เหรอวะ”

พอเขาได้อยู่กับตัวเองสักพัก ก็นึกถึงหน้าของนายท่านขึ้นมาอีกแล้ว คนดีได้แต่หวังเล็ก ๆ ว่านายท่านจะยังไม่ได้กลับไป จึงทำได้แค่ชะเง้อมองหารถของเขา ซึ่งคนดีจำรถคันได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะพบว่ารถของนายท่านยังจอดอยู่ที่เดิม

ปั่ก

“โอ้ย!”

“ไอ้นาย”

“ของกูอยู่ไหน!”

นายท่านกดไหล่ทั้งสองข้างของคนดีไว้กับเสาขนาดใหญ่ด้วยแรงมหาศาล เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ส่งมาจนจำต้องหลับตาปี๋เมื่อตัวกระแทกกับเสาดังปั่ก นัยตาคมกริบดังเหยียวจ้องมองเขาด้วยความอาฆาต แข็งกร้าวดุจหินผา จนคนที่ถูกเขาเพ่งเล็งเกร็งไปทั้งตัว คนดีลอบกลืนน้ำลายคงคอด้วยความหวาดกลัวหลายต่อหลายหน แต่นายท่านก็มองเขาไม่กระพริบตาเลย

“ขะ...ของอะไร แล้วนี่มึงจะทำอะไร จะทำร้ายกูเหรอ กูว่าแล้ว ว่ายังไงมึงก็ต้องทำร้ายร่างกายกู”

“เลิกพูดเพ้อเจ้อแล้วเอาแหวนกูคืนมา”

แหวน? ไอ้นายมันหมายถึงแหวนอะไรกันนะ คงไม่ใช่....

“วะ...แหวนอะไรวะ ไม่มีหรอกโว้ย”

“ก็แหวนที่กูให้มึงเมื่อคืนนี้ไง ที่กูยัดใส่ปากมึงอะ เอามา!”

“เมื่อคืน?” คนดีนึกย้อนไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เขาถูกชายปริศนาที่มากับความมืด ช่วงชิงเอาจูบแรกของตนไป อีกทั้งยังปิดท้ายด้วยการขู่ฆ่าอย่างเลือดเย็น

“มึงนี่เอง ไอ้คนฉวยโอกาส!”

“นี่มึงจำกูไม่ได้จริงดิ จำไม่ได้แต่ด่ากูทั้งวันนี่นะไอ้เวร”

“ใครมันจะไปจำได้วะมืดขนาดนั้น เห็นแค่ตาก็บุญแล้ว”

“จำได้แล้วก็เอาแหวนของกูคืนมา”

“กูขายไปแล้ว”

“ขาย? ใครอนุญาตให้มึงขาย กูบอกให้มึงเก็บไว้ดี ๆ ไม่ใช่เหรอ”

“หึ ของโจรหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วกูจะเก็บไว้ทำส้นตีนอะไรล่ะ”

“ไอ้เหี้ยคนดี!”

“ไม่อยู่แล้วกู อ๊ากกก!” คนดีวิ่งหนีไม่คิดชีวิตเมื่อดิ้นจนตัวหลุดในตอนที่เขาเผลอ ขณะวิ่งไปในหัวก็นึกท่องบทสวดมนต์ไปด้วยเพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลเขารอดจากเงื้อมมือคนตัวสูง

“ฮึ่ย แม่งเอ้ย!”

 

@ร้านจอยเวอร์

หมดแรงอ่อนล๊า~

วันนี้เป็นวันที่ผมเหนื่อยที่สุดตั้งแต่เกิดมาก แถมยังมีเรื่องราวหลายเรื่องเกิดขึ้นภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง นี่มันบ้าอะไรกัน! ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เมื่อคืนนี้ไม่น่าเอาแกงพะแนงเนื้อมาให้พี่จอยเลย จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรซวย ๆ แบบนี้

หลังจากกลับมาผมก็มุ่งตรงมาที่ร้านพี่จอยเลย เพราะวันนี้รู้สึกเบื่อ ๆ เลยอยากจะมาทำงานแลกเค้กมะพร้าวอ่อนกับช็อกโกแลตเย็นสักแก้ว ทุกครั้งที่ผมหมดเอนเนอร์จี ที่นี่จะคอยเติมเต็มให้เสมอ

“อ้าวดี ทำไมวันนี้เลิกเรียนค่ำจังอะ”

“พอดีแวะไปกินชาบูกับเพื่ิอนมาอะพี่ มีไรให้ช่วยป้ะ เซ็ง ๆ อะ”

“งั้น พี่วานเอาเค้กช็อกโกแลตไปเสริฟให้ลูกค้าโต๊ะนั้นหน่อยสิ”

“ได้ดิ” ผมหยิบเค้กช็อกโกแลตที่วางบนเคาน์เตอร์ชิ้นดังกล่าว แล้วเดินดุ่มมุ่งหน้าไปยังโต๊ะมุมด้านขวา ซึ่งมันจะอับสายตาหน่อย ๆ ถ้าเรามองจากข้างในเพราะที่ตรงนั้นลูกค้าจะนั่งหันหน้าออกไปมองด้านนอก

“เค้กช็อกโกแลตมาแล้วครับ”

แผ่นหลังคุ้นจัง คงไม่ใช่...

“ไอ้นาย!”

“ไง ตกใจอะไรขนาดนั้น”

“นี่มึงตามกูมาเหรอ”

“กูก็นั่งของกูตั้งนาน มึงนั้นแหละที่ตามกูมา”

ก็จริง ไม่ ๆๆ มันตั้งใจแน่นอน

“มึงจะตามกูไปถึงไหน กูบอกแล้วไงว่ากูขายแหวนมึงไปแล้ว”

“กูเคยบอกมึงไปแล้งไง ถ้ามึงเก็บไว้ไม่ดีมึงต้องตาย”

“แค่แหวนวงเดียวมึงก็จะฆ่ากูเลยหรือไง โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว”

“นั่นมันแหวนแม่กู แม่กูทิ้งไว้ให้ก่อนตาย”

“…”

ชิบหายแล้วไงไอ้ดี มึงล้อเล่นจนความตายมาเยือนซะแล้ว

“ไปเอามาคืนกู ไม่งั้นกูจะเผา-”

ในขณะที่ไอ้นายมันกำลังสาธยายอะไรก็ไม่รู้ยืดยาว จู่ ๆ ก็มีผู้ชายรูปร่างกำยำสองคนแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีดำมิดชิด สวมหมกกันน็อคเสร็จสับซ้อนท้ายบิ๊กไบค์มา มองแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเป็นพวกคนไม่ดีแต่ผมก็ไม่ได้ชะล่าใจอะไร จนกระทั่งมันเล็งปืนกระบอกสั้นขึ้นมาเล็งใส่ไอ้นายทางด้านหลัง

“ไอ้นาย”

ปั๊ง!

ตุบ

“กรี๊ด!”

จังหวะนั้นผมคิดจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากกระโดดไปชนไอ้นายจนมันกองลงมานอนที่พื้น โดยมีผมนอนทับร่างมันไว้อยู่ เหล่าลูกค้าทั้งหลายกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ต่างกผ้พากันหมอบลงที่พื้นเพราะตื่นกลัว ทันทีที่พวกมันขับรถออกไปผมก็รีบเช็คดูคนใต้ร่างผมทันที

“ไอ้นาย มึงเป็นไงบ้าง”

“กูไม่เป็นไร มึงล่ะ”

“กูไม่เป็นไร แต่เลือดมึงออกเต็มเลยไอ้นาย” ไอ้นายถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นของเหลวสีแดงไหลพรั่งพรูออกมาเต็มแขนเลอะเสื้อนักศึกษา

“ไอ้สัส มันเป็นใครวะมายิงเพื่อนกู กูจะตามไปเผาบ้านแม่ง”

“มึงไม่ต้องตามมันไป จะไปให้มันยิงตายห่าหรือไง”

ก็จริง คนอย่างผมจะเอาอะไรไปสู้ใครได้

“เจ็บมากไหมวะ”

“ยุ่ง!” ปากยังดีได้อยู่ แบบนี้เมื่อกี้น่าจะปล่อยให้โดนยิงตายไปเลย แต่ผมยังมีความเป็นคนอยู่บ้างหรอกถึงช่วยมันไว้ ถึงแม้ว่าความจริงจะกลัวว่ามันตายในร้านพี่จอยแล้ว ผมจะไม่มีเพื่อนเม้าท์ก็เถอะ เวลาเพียงแค่สิบกว่าชั่วโมงก็โกงความตายมาได้แล้วสองครั้ง ชีวิตไอ้ดีทำไมมันซวยแบบนี้วะเนี่ย!

 

 

แสดงสปอยล์

คนที่ซวยที่สุดแห่งปีได้แก่ แท่นแทแดแดแดแด่น แท่นแท่นแท๊นนนน น้องคนดี~~ คอมเม้นมาพูดคุยให้กำลังใจกันหน่อยน๊า

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel