บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ‘ให้เป็นเมียไม่ใช่น้อง’

หลังจากที่ทามไทเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้ว น้ำพิ้งค์ก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมาจากเตียงมองเขม็งไปที่ประตูห้องน้ำที่คนตัวสูงเดินเข้าไปก่อนหน้านี้อย่างขุ่นเคือง เธอไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาพูดก่อนหน้านี้เขาทราบมาจากไหน แต่ก็สืบได้ไม่ยากเพราะเรื่องที่เธอประกาศว่าทามไทเป็นเกย์มีแค่กลุ่มเธอกับเพื่อนร่วมรุ่นสองคนนั้นเท่านั้นที่รับรู้

แต่ก็ช่างเถอะ...ถึงทามไทจะรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวนั้นเธอก็ไม่ตกใจเท่ากับเรื่องตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อภีมแล้วสามีที่คุณแม่ของเธอจัดมาให้อย่างทามไทมองออกว่าเธอแอบปิ๊งผู้ชายคนนั้นอยู่ แล้วที่สำคัญเธอก็ดันโป๊ะแตกเลิ่กลั่กพูดออกไปแล้วด้วย

คราวนี้แหละ เธออาจจะโดนจำกัดอิสระขึ้นกว่าเดิมแน่ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่เธอจริง ๆ

เฮ้อ~

"ไม่น่าโป๊ะแตกเลยพิ้งค์...ไม่น่าเลยจริง ๆ"

น้ำพิ้งค์พึมพำกับตัวเองสายตาละห้อยอย่างหมดแรงก่อนจะถอนหายใจเดินคอตกออกไปนั่งโซฟาข้างนอกแทน

หลายนาทีต่อมา...

ร่างสูงโปร่งของทามไทเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำลังจะเดินไปทางห้องครัวแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นน้ำพิ้งค์ออกมานั่งคอตกยัดขนมเข้าปากเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนโซฟาหน้าทีวีสะก่อน เขาก็เลยหยุดเดินแล้วหันไปถามเธอ...

"เป็นอะไร”

“...เปล่า”

“เหรอ...แค่ฉันรู้ว่าเธอชอบไอ้ภีมถึงกับนั่งหงอยคอตกเลยเหรอ"

ขวับ!

"เหอะ!...เปล่าเถอะ พี่อย่าคิดเองเออเองขอร้อง แล้วที่สำคัญพิ้งค์แค่มองเฉยๆพี่อย่ามาใส่ร้ายพิ้งค์ได้ปะ"

ร่างเล็กบนโซฟาว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้งออกไปก่อนจะตะปบขนมในถุงกินอย่างขึงขังในเวลาต่อมาเมื่อเห็นคนตัวสูงดูจะมีความสุขกับการได้คุมความสุขของเธอแบบนั้น

แค่มองผู้ชายนิดๆหน่อยๆเองทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ทำอย่างกับตัวเองไม่เคยมองผู้หญิงสวยๆแล้วปลื้ม

"หึ ถ้าไม่อยากให้ฉันใจร้ายกับเธอก็เลิกชอบไอ้ภีมสิ อีกอย่างที่แม่เธอยอมให้เธอมาอยู่ตรงนี้ก็เพราะฉัน ถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน ฉันจะรายงานเรื่องวันนี้ของเธอทุกอย่าง รวมถึงเรื่องขับรถด้วย"

นั้นไงเห็นไหมว่าเขาใจร้ายและขี้ฟ้องด้วย

"พี่ทาม! นี่พี่กลายเป็นคนขี้ฟ้องไปแล้วเหรอ"

"เขาเรียกว่ารายงาน"

“เหอะ!”

น้ำพิ้งค์กระแทกลมหายใจออกไปอย่างฉุนเฉียวหลังจากที่ทามไทว่าด้วยสีหน้านิ่งๆจบเขาก็เดินไปทางห้องครัวทันที ปล่อยให้เธอที่เด้งตัวจากโซฟานั่งทำหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ต่อไปที่โดนเขาตอบกลับมาแบบนั้น แต่ไม่วายยังไม่ทันจะได้พิงโซฟากลับตามเดิมก็ได้ยินเสียงคนตัวสูงตะโกนแว่วออกมาอีกครั้ง...

"รีบไปอาบน้ำสะถ้าอยากไปกินหมูกระทะ"

พรึบ!

"พี่ว่าอะไรนะ"

จากที่ทำหน้าบูดบึ้งก่อนหน้านี้พอได้ยินประโยคมีอิทธิพลปุ๊บ....น้ำพิ้งค์ก็หูผึ่งเด้งตัวลุกออกจากโซฟาพร้อมยิ้มแฉ่งทันทีที่ได้ยินคนตัวสูงในห้องครัวตะโกนออกมาว่าจะพาเธอไปกินหมูกระทะตามที่เธอเคยบ่นกับแม่ไปเมื่อคืนนี้ โดยที่ลืมเรื่องที่มีปากเสียงกับคนตัวสูงในครัวก่อนหน้านี้ไปชั่วพริบตา

"ถ้าขี้หูเยอะก็ไปหาที่แขะหูมาแขะออกไป" แต่ก็ไม่วายโดนคนปากร้ายอย่างทามไทตอบกลับมาด้วยความกวนโอ้ยจนได้เมื่อเธอทวนคำพูดของเขา...

แต่ไม่เป็นไรเธอจะทำเป็นไม่สนใจละกันเพราะเธอมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าอย่างหมูกระทะรออยู่

ฟึบ!

เธอจึงรีบก้มลงกอบโกยพวกถุงขนมต่าง ๆ ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาไว้ในอ้อมอกอย่างไวก่อนจะเดินลั้ลล้าไปเก็บในห้องครัวที่มีคนตัวสูงยืนดื่มน้ำเปล่าอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว เก็บเสร็จเธอก็ไม่ลืมที่จะเชิดหน้าใส่คนที่ดื่มน้ำอยู่อย่างทามไทก่อนเดินออกมาจากห้องครัวด้วย

@ร้านหมูกระทะ96 อร่อยสดขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงิน

“อร่อยสดขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงิน”

อึกอึก

หลังจากที่มาถึงร้านหมูกระทะและได้ลงจากรถของทามไทเรียบร้อยแล้ว น้ำพิ้งค์ก็ยืนกลืนน้ำลายตัวเองลงคอดังอึกทันทีที่เห็นป้ายหน้าร้านที่ช่างโปรโมทได้น่าสยดสยองสำหรับกระเพาะอาหารและทวารหนักของเธอเหลือเกิน จนเธอต้องแอบจับก้นกับหน้าท้องด้วยความหวั่นใจ

“เป็นไรจับก้นปวดขี้หรือไง” ทามไทที่เดินลงมาจากรถเดินมาหยุดข้างๆน้ำพิ้งค์ ก่อนจะเอ่ยถามเธอออกไปเมื่อเห็นเธอยืนทำหน้าไม่สู้ดีนัก

“...พี่พาพิ้งค์มาฆ่าหรือเปล่าเนี่ย ดูป้ายโปรโมทนั้นสิ”

น้ำพิ้งค์พยักพเยิดหน้าไปที่ป้ายโปรโมทหน้าร้านที่ทำเธอกลัวจนไม่กล้าขยับเท้าเข้าไปในร้านให้ทามไทดู

“มันก็แค่ป้ายจะไปกลัวอะไร หรือเธอไม่อยากกินแล้วถ้าไม่อยากกินจะกลับก็ได้นะ”

“เปลี่ยนร้านได้ไหม”

“ไม่เปลี่ยน ให้เลือกแค่จะกินกับจะกลับเท่านั้น”

คนบ้าเอ้ย เขาเป็นคนที่ใจร้ายและใจร้ายกับเธอได้เสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ ก่อนหน้านี้อุตส่าห์ดีใจที่บอกว่าจะพามากินหมูกระทะ

แต่ดูตอนนี้สิ....แล้วก็ดูร้านที่พามาสิ ขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงินใครมันจะกล้าเข้าไป

“ว่าไง จะกินหรือจะกลับ”

“กิน”

ใช่ เธอจะกินและถ้าเธอกินไปแล้วเกิดท้องเสียขึ้นมาละก็คนที่ต้องรับผิดชอบและดูแลเธอก็คือเขานั้นแหละ

เพราะฉะนั้นไปค่ะ เดินเข้าร้านไปด้วยความมั่นใจเหมือนพริกไทยเมื่อเช้านี้

“เอ้าเห้ย! ไอ้ทาม! ทางนี้เว้ย ตรงนี้ๆ” ผู้ชายหน้าตาดีท่าทางกวนหน่อยๆนั่งโบกไม้โบกมือเรียกคนตัวสูงข้างๆเธอด้วยหน้าระรื่นตรงบริเวณโต๊ะตรงกลางของร้าน

ซึ่งในโต๊ะนั้นมีผู้ชายที่นั่งด้วยกันอีกอยู่ประมาณสามสี่คนด้วยกัน ประกอบด้วย...

ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ดูท่าทางกวนๆที่นั่งโบกไม้โบกมือแล้วหนึ่ง

ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาดูรวยมีสกุลรุนชาติแต่แอบเท่ห์อีกหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ข้างๆผู้ชายคนแรก

ถัดมาผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาดูอบอุ่นเปรียบเสมือนตู้ไมโครเวฟที่ขนาดยืนอยู่ห่างกันหกเมตรยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเขาอีกหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆคนที่สอง

และสุดท้ายผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ดูนิ่งๆดูสุขุมไม่ค่อยพูดค่อยจาดูๆแล้วบุคลิกก็จะคล้ายๆกับคนข้างๆเธอตอนนี้ที่กำลังเดินไปหาเพื่อนๆที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกหนึ่ง ซึ่งนั่งถัดมาเป็นลำดับที่สี่

สรุปแล้วเขาพาเธอมากินหมูกระทะเนื่องในโอกาสต้องการต้อนรับเธอหรือเขาพามากินหมูกระทะเพราะนัดกับเพื่อนไว้แล้วกันแน่

เฮ้อ~

อุตส่าห์คิดดีนึกว่าจะใจดีพามาให้ แต่ที่ไหนได้มาเพราะนัดกับเพื่อนไว้อยู่แล้ว...

“ไงมึง นัดมาสองทุ่มแต่มาสองทุ่มครึ่งไม่สมกับเป็นเฮดว้ากที่สอนเรื่องเวลากับน้องๆเลยนะไอ้ทาม” คนที่นั่งเก้าอี้ตัวแรกซึ่งมีชื่อว่าแปลนเอ่ยขึ้นทันทีที่ทามไทดึงเก้าอี้ลงไปนั่งฝั่งตรงข้าม

เมื่อเขาซึ่งเป็นคนนัดกับเพื่อนๆว่าจะมาถึงร้านตอนสองทุ่มแต่ความเป็นจริงแล้วสองทุ่มเขายังนั่งรอน้ำพิ้งค์แต่งตัวอยู่ที่ห้องอีก

ใช่ เขาไม่เคยรู้ว่าผู้หญิงจะใช้เวลาในการแต่งตัวได้นานขนาดนั้น เขาคิดแค่ว่าเธออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวออกมาได้เลยแต่เปล่า...เธออาบน้ำเสร็จเธอยังไม่สามารถเลือกชุดได้ว่าจะใส่ชุดไหนออกมา

ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาที่นั่งรออยู่ข้างนอกเมื่อหลายนาทีที่แล้วถึงกับเซ็ง

“โทษทีมีคนไม่รู้จักเวลาพ่วงท้ายมาด้วย”

ขวับ!

“พี่เป็นคนชวนพิ้งค์มาเถอะ” น้ำพิ้งค์ที่รู้ตัวว่าโดนแขวะรีบหันขวับไปแก้ทันทีที่โดนคนข้างๆเม้าท์ว่าเหมือนเธออยากตามเขามาแถมยังว่าเธอไม่รู้จักเวลาอีกด้วย

ก็ใครมันจะไปรู้ละว่าเขาจะนัดเพื่อนๆมากินด้วยเธอก็เลยไม่ได้สนใจเวลาที่จะออกมา รู้แต่ว่าออกจากห้องแล้วคนที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้ก็ทำหน้านิ่งบอกบุญไม่รับแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี จนกระทั่งตอนนี้นี่แหละที่รู้ว่ามีเพื่อนมาด้วย

“แล้วนี่มึงไม่คิดจะแนะนำคนที่มึงพามาด้วยเหรอวะไอ้ทาม” คนที่นั่งเป็นลำดับที่สองที่ดูเท่ห์ๆหน่อยมองไปที่น้ำพิ้งค์นิ่งๆ

...ซึ่งนั้นก็คือตฤณ...

เมื่อตอนเที่ยงเขาเห็นหญิงสาวคนนี้ที่เพื่อนลากไปนั่งที่โต๊ะแล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจถามเพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงทั่วไปที่ชอบเรียกร้องความสนใจกับเพื่อนเฉยๆ แต่พอเห็นเพื่อนพามากินหมูกระทะตอนนี้ด้วยแล้วคงไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปที่ชอบมาเรียกร้องความสนใจกับเพื่อนแน่นอนเพราะมันผิดปกติ

ใช่ ทามไทเพื่อนของเขาถือว่าฮอตมากในหมู่สาวๆ ฮอตชนิดที่ว่าสาวล้อมหน้าล้อมหลังเลยทีเดียว แต่เสียดายเพื่อนเขาไม่ยุ่งกับใครสักคนเพราะเป็นคนเย็นชากับสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้

เขาก็เลยเกิดความสนใจใคร่อยากรู้มาก ๆว่าสาวสวยหน้าตาน่ารักคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเพื่อน เพื่อนถึงได้พามานั่งตรงนี้ด้วยกันได้

“นี่น้ำพิ้งค์” ทามไทแนะนำน้ำพิ้งค์ให้เพื่อนๆทั้งสี่คนรู้จักด้วยสีหน้าเรียบนิ่งหลังจากที่โดนตฤณทวงถาม ซึ่งน้ำพิ้งค์ก็ยกมือไหว้รุ่นพี่ทันทีที่ถูกแนะนำ

“สวัสดีค่ะ”

“หวัดดีครับพี่ชื่อแปลน” แปลนรับไหว้แล้วแนะนำชื่อตัวเองด้วยรอยยิ้ม

“พี่ชื่อตฤณ”

“พี่ชื่อโยธาครับ” เมื่อทุกคนแนะนำตัวกันเป็นทอดๆแล้วต่อมาสายตาเธอก็ไปสะดุดกับคนสุดท้ายที่นั่งกินหมูกระทะอยู่เงียบๆคนเดียว

“...”

“ส่วนไอ้นั้นมันชื่อเธียร” เป็นทามไทที่แนะนำชื่อเพื่อนคนสุดท้ายที่นั่งคีบหมูกระทะเข้าปากแทน ซึ่งเขาเป็นคนนิ่งๆที่ไม่ค่อยพูด ง่ายๆคือพูดน้อยต่อยหนักและมีตำแหน่งเป็นรองเฮดว๊ากคณะด้วย

“ค่ะ”

“แล้วพวกมึงสองคนเป็นอะไรกันวะ” ยังคงเป็นตฤณที่ตั้งคำถามต่อมากับเขา เขาจึงจ้องไปที่เพื่อนซึ่งนั่งตรงข้ามกับเขาพอดีด้วยความเบื่อหน่ายที่เพื่อนมาตั้งคำถามปัญญาอ่อนนั้นกับเขา

และที่สำคัญเขาก็ดูออกว่าเพื่อนอย่างตฤณนั้นกำลังสนใจเรื่องของเขากับน้ำพิ้งค์ตอนนี้มาก มากชนิดที่เรียกว่าเสือกได้เลย และรอยยิ้มที่มุมปากนั้นก็ทำให้เขาเกิดความรำคาญมากเช่นกัน

จนโพล่งบางอย่างที่ทำให้ทุกคนช็อกออกไป

“...ผัวเมีย พอใจมึงยังไอ้ตฤณ”

ขวับ!

“O_O” น้ำพิ้งค์

“ !!! ” แปลน

และคนอื่น ๆ

“O_O”

ทุกคนต่างเบิกตาโตและช็อกไปตามๆกัน ทันทีที่ได้ยินประโยคแสนช็อกจนเส้นเลือดในสมองเกือบจะแตก เมื่อคนที่เย็นชาและแสนหวงตัวอย่างเฮดว้ากคณะวิศวะประกาศกร้าวว่ามีเมียแล้ว

ยกเว้นแต่น้ำพิ้งค์ที่ตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะเปิดเรื่องสถานะให้เพื่อนๆรับรู้ ในขณะที่ตอนเที่ยงเธอพยายามปกปิดเรื่องนี้จากเพื่อนๆแทบตาย

“..เอ๋อ...แล้วพวกมึงเป็นผัวเมียกันได้ไงวะ แต่งงานกันหรือปักๆกันทั่วไปอย่างไอ้ตฤณ”

ผัวะ!

“โอ้ย!”

“อย่าโยงเก่งเป็นแกทแพทไอ้สัสแปลน” ตฤณที่นั่งอยู่ข้างๆแปลนยกมือขึ้นไปผัวะเข้าให้ ทันทีที่แปลนโยงเขาเรื่องของตนเองอย่างเนียนๆ

ส่วนคนที่ถูกโยงอย่างน้ำพิ้งค์ก็ได้แต่นั่งบีบมือตัวเองบนตักเงียบๆอย่างเดียวเพราะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่คนข้างๆเปิดเผยสถานะแบบโจ่งแจ้งขนาดนั้น

เธอไม่เคยคิดว่าคนที่ดูจะต่อต้านการถูกบังคับให้แต่งงานอย่างทามไทจะมาเปิดโปงสถานะอันลับสุดยอดแบบนี้กับเพื่อน และตอนนี้เธอก็งงไปหมดแล้วด้วย ว่าจริง ๆแล้วควรจะเป็นยังไง

ควรจะทำเป็นแต่งแล้วเงียบหรือแต่งแล้วประกาศกันแน่

“เรื่องมันยาว”

ทามไทตอบแปลนกลับไปแบบชิว ๆ แล้วคีบหมูกระทะที่โยธานั่งย่างให้ใส่จานน้ำพิ้งค์ที่นั่งเงียบกริบหลังจากที่เขาเผยสถานะออกไปพร้อมกับเหลือบมองเธอเล็กน้อย

“แต่พวกกูมีเวลาฟัง เล่ามาเลย”

“มึงไม่ค่อยอยากจะเสือกเรื่องของมันเลยนะไอ้แปลน”

“มีใครที่ไม่อยากเสือกเรื่องของเฮดว้ากคณะวิศวกรรมศาสตร์ผู้เงียบขรึมอย่างไอ้ทามที่แม่งไม่เคยมีข่าวว่าควงผู้หญิงมาก่อนเลยบ้างวะ? แต่จู่ๆ แม่งมีเมียเฉย”

!!!

ไม่เคยควงผู้หญิง? น้ำพิ้งค์เบิกตาโตสะดุดกับคำว่าไม่เคยควงผู้หญิงของแปลนทันทีที่บอกว่าคนข้างๆเธอที่สุดแสนจะหล่อเท่ประเสริฐศรีขนาดนี้ไม่เคยควงผู้หญิง

เป็นไปได้เหรอ?

หรือว่าเขา....

“ฉันไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่เธอไปบอกเพื่อนนะยัยตัวแสบ หยุดมองฉันแบบนั้นสักทีเดี๋ยวแม่งก็จิ้มตาให้หรอก”

ทามไทรีบเอ่ยดักทางด้วยความฉุนเฉียวทันทีเมื่อน้ำพิ้งค์มองหน้าเขาแล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่คนเดียวแล้วก็ทำหน้าตกใจภายหลัง

“ฮาร์ดคอกับเด็กปีหนึ่งไม่พอแม่งยังฮาร์ดคอกับเมียด้วยวะ มึงนี่มันสุดยอดจริง ๆเลยไอ้ทาม” ตฤณหัวเราะเบาๆในลำคอหลังจากที่ดูเพื่อนทำหน้าดุใส่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียอย่างน้ำพิ้งค์

“น้องไม่ต้องกลัวมันหรอก กินหมูนี่ดีกว่า” โยธาที่เป็นคนรู้เรื่องคร่าวๆของเพื่อนมาบ้างแล้วยิ้มอบอุ่นให้น้ำพิ้งค์ก่อนจะคีบหมูกระทะให้

“อ้าวเปลี่ยนเรื่องกันง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ กูยังไม่ได้รู้เลยนะเว้ยว่าไอ้ทามได้กับเมียมันยังไง” แปลนที่เห็นเพื่อนๆกำลังจะเปลี่ยนเรื่องคุยโวยขึ้นมาอย่างไม่ยอม

“มันจะได้กับเมียมันยังไงมึงจะไปเสือกอะไรกับมันวะไอ้แปลน แดกหมูไปเถอะมึงอะ” ตฤณว่าพร้อมกับตักเนื้อหมูใส่จานตรงหน้าแปลน

จากนั้นทุกคนก็นั่งกินต่อไปโดยพูดเรื่องสัพเพเหระของเด็กปีหนึ่งที่นัดเจอวันนี้แทนการพูดคุยเรื่องส่วนตัวของทามไท จนกระทั่งที่กินเสร็จและบนโต๊ะก็ไม่เหลืออะไรนอกจากจานและเศษอาหารบางส่วนที่เหลือไว้แค่นั้น

5นาทีต่อมา...

“โคตรอิ่มเลยวะ” แปลนพูดพร้อมกับลูบหน้าท้องด้วยความอิ่ม

“มึงไม่อิ่มก็แปลกแล้วไอ้แปลน หมูที่ไอ้โยย่างเสร็จมึงก็เอาไปแดกหมด”

“โทษทีวะกูอดมื้อเย็นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ”

“สัส...เอองั้นก็แยกย้ายตรงนี้เลยนะ กูกลับละแม่งอิ่มเหมือนท้องจะแตกเลยวะ ไปไอ้เธียร” ตฤณว่า

“เคกลับบ้านดีๆ”

หลังจากที่ทานกันเสร็จแล้วเดินออกมาจากร้านตฤณกับเธียรก็ขอแยกตัวกลับก่อน โยธากับแปลนก็เลยหันมาบอกลาเพื่อนอย่างทามไทเช่นเดียวกัน...

“งั้นกูกับไอ้แปลนกลับก่อนนะ”

“อืม ขับรถดีๆ” ใบหน้าหล่อเหลาของทามไทพยักหน้ารับรู้ให้เพื่อนทั้งสองคนที่เตรียมหมุนตัวเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกลเป็นคู่ต่อไป

และทันทีที่ทุกคนขึ้นรถกลับไปหมดแล้ว น้ำพิ้งค์ก็หันขวับจ้องตาเขียวใส่ทามไททันที

“พี่ทาม! เมื่อกี้พี่พูดบ้าอะไรของพี่ พี่ไปบอกเพื่อนๆพี่ว่าเราเป็นผัว...เอ๋อ..สามีภรรยากันทำไม”

“เธอยังบอกเพื่อนเธอว่าฉันเป็นเกย์ได้เลย”

“แต่มันไม่เหมือนกันนะ พิ้งค์ทำเพราะไม่อยากให้สวยมันชอบพี่”

“แต่เธอก็บอกเพื่อนเธอว่าฉันเป็นพี่เธอ”

“แล้วมันไม่ดีหรือไงที่พิ้งค์บอกว่าเป็นน้องพี่อะ”

“ฉันยอมแต่งงานกับเธอเพื่อให้เธออยู่ในสถานะเมียไม่ใช่น้อง! อย่าโง่”

!!!

ว่าจบทามไทก็เดินล้วงกระเป๋าไปขึ้นรถอย่างฉุนเฉียวปล่อยให้น้ำพิ้งค์ยืนช็อกที่โดนด่าว่าโง่ทั้ง ๆที่ยังงงงวยต่อไป จนกระทั่ง...

ปี๊น!!!!!!!

เฮือก!

“จะกลับไหมบ้านอะ ถ้าไม่กลับฉันจะได้กลับคนเดียว” หลังจากที่กดบีบแตรจนน้ำพิ้งค์ที่ยืนหน้ารถขวัญกระเจิงไปแล้วเขาก็ชะโงกหัวตะโกนถามเสียงหงุดหงิดต่อ จนน้ำพิ้งค์รู้สึกโมโหกระทืบเท้าเดินไปขึ้นรถในที่สุด

ปึก!

“ถ้าเห็นพิ้งค์เป็นเมียรบกวนช่วยอ่อนโยนหน่อย เพราะพิ้งค์เปราะบางด่าโง่แล้วรู้สึกเจ็บ”

“...งั้นก็อย่าฉลาดน้อย กินปลาเยอะๆจะได้ฉลาดว่าเธอไม่ได้แต่งมาเป็นน้องฉัน”

“...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel