รู้สึกดีเมื่อมีเธอ 2/2
//หลายวันต่อมา//
“ว่าไงคลิก” ชื่อที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทำให้อิงฟ้าไม่ปฏิเสธที่จะรับสาย
(“ตอนนี้พี่ทำอะไรอยู่”)
“ดูหนัง”
(“วันนี้หยุดหรือไง ถึงได้มีเวลาดูหนัง ปกติไม่เห็นจะว่าง”)
“อืม...หยุด” ครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะยืนยันในคำถามของปลายสาย
(“ฟ้าถล่ม โลกแตกแน่ คุณอิงฟ้าหยุดงาน ปกติเห็นทุ่มเทแม้วันหยุดก็ยังทำงาน”)
“ไม่ต้องมาแซว แล้วแกมีอะไรถึงโทรมา” เริ่มชักน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อปลายสายพูดแขวะ
(“คิดถึง”)
“ทะลึ่งละ...ตกลงมีอะไร” สองคำทำสะดุ้ง จนรีบบ่ายเบี่ยงย้อนถามเข้าประเด็น
(“หยอกเล่นก็ไม่ได้”)
“ถ้าไม่คุยฉันจะวางสาย”
(“เดี๋ยวสิ..พี่จำเรื่องที่ผมเคยคุยกับพี่เมื่อเดือนก่อนได้ไหม?”)
“เรื่องอะไร?”
(“ก็ที่ผมเคยชวนพี่มาทำงานกับผมไง...ผมยังไม่เปลี่ยนใจนะ ผมยืนยันคำเดิมว่ายังต้องการพี่”)
“ช่วงนี้ฉันยุ่ง ๆ น่ะ ขอคิดดูก่อนแล้วกัน”
(“ข้อตกลงเหมือนเดิม เปลี่ยนใจเมื่อไหร่โทรหาผมได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมรอพี่อยู่นะ”)
“โอเค โอเค...บาย”
การสนทนากับรุ่นน้องคนสนิทจบสิ้น อิงฟ้าวางสายวางโทรศัพท์มือถือลงโซฟาจนกระดอนตกพื้น ไม่ไยดีว่ามันจะได้รับความเสียหายหรือไม่ ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจจะขยับตัวทำอะไร ทุกอย่างดูเลื่อนลอยเมื่อเธอไม่มีงานประจำทำ
เสียงกริ่งดัง บ่งบอกถึงมีผู้มาเยือน อิงฟ้าลุกจากโซฟาเพื่อไปเปิดประตูต้อนรับ
((เซอร์ไพรส์)) เสียงประสานดังลั่นแสบแก้วหู กลุ่มเพื่อนซี้เพื่อนรักประจันหน้าพร้อมรอยยิ้ม แต่สำหรับอิงฟ้านั้นกลับไม่มี เธอโพล่งเข้ากอดเพื่อนทั้งสี่คนด้วยน้ำตา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพียงเห็นเหล่าผองเพื่อนก็ทำให้นึกถึงงานที่เสียไปด้วยความเสียดาย เสียดายเวลา เสียดายโบนัส และสุดแสนเสียดายความรู้สึกที่ทุ่มเทให้กับบริษัทมานานนับหลายปี
((อิงฟ้า)) เสียงเรียกทั้งสี่เสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง โดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อเห็นกิริยาของอิงฟ้าไม่สู้ดี
“ใครทำอะไรแกอิงฟ้า” มาย เพื่อนรักคนที่หนึ่งเอ่ยถามทันที เมื่อเห็นน้ำสีใสของอิงฟ้ารื้นขอบตา
“เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ” ลดา เอ่ยขึ้น
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเล่าให้พวกเราฟังได้นะฟ้า” อัยวา พูดขึ้นเมื่อทุกคนเข้าในบ้านเรียบร้อยแล้ว
“หรือนทีมันทำอะไรแก!” แก้วเกล้า สาวห้าวในกลุ่มถามอีกเสียง เธอเป็นคู่ปรับของนทีมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ชอบขี้หน้า ทว่าก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะนั่นคือแฟนของเพื่อนรัก
“เปล่า เปล่า ไม่ใช่นทีหรอก...ตอนนี้ฉันตกงานแล้วพวกแก ฉันลาออกจากบริษัท ฮือ” อิงฟ้ารีบปฏิเสธ ก่อนจะบอกถึงสาเหตุให้เหล่าเพื่อนรับรู้เบื้องต้นทั้งน้ำตา ยิ่งนึกก็ยิ่งเสียใจ
“เพราะหัวหน้าแกอีกหรือเปล่า?” ลดาย้อนถาม
“อืม...ฉันทนไม่ไหวจริง ๆ รอบนี้มันเกินที่ฉันจะรับไหว โปรเจกต์ใหญ่ห้าล้านของฉันถูกโยนให้คนอื่น ทั้งที่ฉันนั่งหลังขดหลังแข็งทำกราฟิก เพื่อเสนอลูกค้า แต่หัวหน้ากลับใส่ชื่อหลานตัวเองลงแล้วไป สุดท้ายอะไรรู้ไหม...ลูกค้าสั่งให้แก้งาน เป็นฉันนี่ต้องมานั่งแก้ไขให้ ยิ่งเจ็บใจกว่านั้น ” อิงฟ้ายกมือเช็ดน้ำตา ตั้งสติบอกเพื่อนถึงเหตุการณ์ที่พบเจอ
“สารเลวจริง ๆ” มายสบถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เจ็บแค้นแทนเพื่อนที่โดนรังแก
“ที่จริงออกมาจากตรงนั้นก็ดีแล้วนะ แกจะได้หลุดพ้นจากสัมภเวสีพวกนั้น ที่มันคอยเกาะเสาขอส่วนบุญจากแกไม่หยุดหย่อน” แก้วเกล้าออกความเห็น
“จริง ฉันเห็นด้วย...เก่ง ๆ แบบแกสมัครงานที่ไหนก็ได้” อัยวาพูดเสริมให้กำลังใจ
“เอาล่ะ ๆ อย่าไปคิดมาก วันนี้ที่พวกเรามาเพราะคิดถึงแกสุด ๆ อิงฟ้า เราไปหาของอร่อยกินกันดีกว่า...วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” มายย้ำถึงจุดประสงค์ เพื่อสลัดความเศร้าของเพื่อน
“ขอบใจพวกแกมาก ๆ เลยนะ...งั้นฉันไปอาบน้ำก่อน รอแป๊บนะ” อิงฟ้าปรับความรู้สึกให้เป็นปกติ บอกกล่าวกับเหล่าผองเพื่อน
“รีบไป ฉันเริ่มหิวแล้ว” ลดาพูดต่อด้วยความหยอกเย้า
อิงฟ้าปลีกตัวเพื่อจัดการธุระส่วนตัว การมีเพื่อนดีคอยสนับสนุน อยู่เคียงข้างในยามลำบาก นับเป็นโชคดี เป็นรอยยิ้มในยามที่เธอทุกข์ใจ
