บท
ตั้งค่า

CHAPTER 2

HUNGRY

คลาสบ่ายเริ่มแล้ว

ยูกิสะตอบคำถามอาจารย์ได้ถูกต้องทั้งหมดจนทุกคนนึกอยากลาออกขึ้นมา ตอนท้ายชั่วโมงกลายเป็นว่าอาจารย์ต้องถามเขาเพื่อขอความรู้จากเขาเสียงั้น

“ยูกิสะช่วยอธิบายสูตรนี้ที”

และ...

“เมื่อยกกำลังแล้วก็จะกลายเป็นค่าอนันต์ใช่ไหมยูกิสะ”

แล้วก็...

“ใช่ไหมยูกิสะ...”

“ใช่ครับ”

หมั่นไส้...ฉันหรี่ตามองนักศึกษาใหม่ด้วยความทึ่งแกมอิจฉา

ฉันไม่น่าพาเขามาเรียนด้วยเล้ย! นี่เขาไปเอาความอัจฉริยะที่ไหนมา ให้ตายเหอะเขามีดีทั้งสมองและหน้าตาจริงๆ สิน่า

หากแต่เมื่อฉันหรี่ตามองเขาด้วยความอิจฉาแกมทึ่งก็รู้สึกราวกับกำลังดูภาพเขียนชิ้นเยี่ยมเลยจริงๆ นะ

อา…แต่ลายมือของเขาไม่สวย ลายมือของฉันสวยกว่ามาก อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันชนะ!

ตกเย็นฉันคิดจะกลับบ้านคนเดียวเหมือนทุกทีแต่แล้วกลับหันไปเห็นยูกิสะดูเหมือนตัวคนเดียวในโลก วันก่อนฉันเป็นคนจองที่พักหรูให้เขาตามแบบที่เขาต้องการ ฉันเป็นคนพาเขาไปที่นั่นและบอกวิธีมาเรียนหรือไปไหนมาไหนจากคอนโดหรูใจกลางเมืองรวมถึงบอกวิธีไปหาของกิน ไปช้อปปิ้ง ไปห้าง...

เขาจะได้กลับคนเดียวได้และไม่มายุ่งกับฉันไงล่ะ?

แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงได้ดูอย่างกับไม่มีใครคบเลย? ถ้าฉันมาเรียนวันแรกแล้วถูกทอดทิ้งแบบนี้คงเศร้าสุดๆ

“นายกลับคอนโดเองถูกไหม?” ฉันอดห่วงยูกิสะไม่ได้“แล้วหิวหรือยังล่ะ?”

ที่ฉันถามก็เพราะนึกเป็นห่วงที่ตอนเที่ยงเขาไม่ได้กินข้าวแม้แต่คำเดียว เป็นฉันถ้าข้ามข้าวเที่ยงแบบนั้นคงหมดแรงหรือไม่ก็เป็นโรคกระเพาะไปแล้ว

“ก็หิวอยู่เหมือนกัน”

“จริงเหรอ!?” ฉันใจชื้นขึ้นมา ถ้าหากเขามาป่วยเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้คงไม่พ้นฉันที่เดือดร้อนต้องพาเขาไปส่งโรงพยาบาลใช่ไหมล่ะ ไหนจะปัญหาสารพัดอย่างเช่นโรคเลือดจางหรือขาดสารอาหาร “งั้นจะไปหาอะไรกินกันไหม?”

จริงอยู่ที่เขามาจากโรมาเนียแต่ฉันคงไม่ต้องถึงขั้นหาอาหารโรมาเนียในโตเกียวให้เขากินมั้ง ฉันรู้จักร้านแบบนั้นที่ไหนกัน

นัยน์ตาสง่างามของผู้ถูกถามลากมองใบหน้าของฉันชั่วครู่ ให้ตายเหอะนัยน์ตาสีเทาหม่นของเขาสวยจัง...มันผสานด้วยทั้งเฉดเข้มและอ่อนที่รวมกันเป็นฟ้าอมเทาอันแสนจะลึกลับและลงตัว...

คงเพราะเขามีเชื้อยุโรป...

ว่าแต่ทำไมเวลาใกล้ค่ำแบบนี้เขาถึงดูโดดเด่นและสง่างามกว่าในเวลาที่แดดจัดนะ?

หรือฉันคิดไปเอง?

“ไปหาอาหารยุโรปกินกันเนอะ อย่าบอกนะว่านายต้องกินอาหารโรมาเนียอย่างเดียว”

“อาหารก็ดูน่ากินทุกชนิดนั่นล่ะแต่มีไม่กี่อย่างหรอกที่ฉันกินได้ ฉันจะเลือกเอง ตามมาก็แล้วกัน”

“ก็ได้” ฉันเดินตามเขาไป

ว่าแต่คนจากต่างประเทศอย่างเขาจะมารู้จักร้านอาหารมากกว่าฉันที่เป็นเจ้าถิ่นจนถึงกับเป็นฝ่ายเดินนำฉันจริงสิ? แบบนี้ฉันคงไม่ต้องดูแลอะไรเขามาก ปล่อยๆ ให้ช่วยตัวเองไปเลยก็ได้มั้ง

ฉันลืมไปว่าเขาเป็นอัจฉริยะเพราะงั้นอาจรู้จักที่ทางในโตเกียวหมดแล้ว

ร่างสูงเดินนำฉันเข้ามาในโรงยิมที่ปิดไฟมืดสนิท ที่นี่เงียบและไม่มีใครเลย

“ยูกิสะทำไม...”

จู่ๆ มืออุ่นแกร่งของเขาเคลื่อนประคองใบหน้าของฉันแล้วรั้งให้เงยขึ้น “ชู่ว...”

ดวงตาคมคายจ้องมองฉันและสะกดฉันให้อยู่นิ่ง เขาจะจูบฉันเหรอ? ทำไมเขาถึงโน้มใบหน้าลงมาใกล้แบบนั้น…?

ฉันก้าวถอยแต่แผ่นหลังกลับชนเข้ากับผนัง ถึงเราจะจูบแก้มกันไปแล้วครั้งหนึ่งในพิธีแต่งงานแต่การที่จู่ๆ เขาจะมาจูบฉันแบบไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้มัน...

ใบหน้าคมคายเคลื่อนต่ำเลยลงไปจากริมฝีปากของฉันก่อนจูบแผ่วเบาเหนือลำคอ

“อึก...ยู...” ฉันเกร็งขืนและอยากผลักเขาออกแต่ทำไมมือฉันถึงไม่ขยับล่ะ...?

มันเหมือนกับว่าฉันถูกมัดไว้ยังไงยังงั้น

ตึกตัก...

ริมฝีปากร้อนยังทาบทับสนิทกับลำคอของฉัน ทำไมจูบของเขาถึงได้ละมุนและร้อนราวกับเปลวไฟเผาผลาญ...?

“ด...เดี๋ยว...” ฉันเกร็งขืน

“อา...ฉันหิวมากกว่าที่คิด ขอโทษด้วยนะ” ได้ยินเสียงทุ้มครางเมื่อร่างแกร่งผละริมฝีปากจากผิวบางของฉัน ก่อนที่มือหนาร้อนจะรั้งปกเสื้อของฉันพ้นจากลำคอจนเปิดเผยหัวไหล่ไปถึงระดับข้อศอก

ได้ยินเสียงกระดุมขาดสะบั้นออกจากกัน

กึก!

“อ๊ะ...!?”

ยูกิสะกดจูบลาดบ่าเปลือยเปล่าของฉันก่อนไต่ริมฝีปากต่ำลงเหนือตะเข็บบราเซียร์ที่ถูกเปิดโล่ง

“ย...ยูกิสะ...อึก...!” ฉันหายใจขาดห้วงรุนแรงเมื่อความเจ็บรวดร้าวแล่นปราดจากผิวใต้ริมฝีปากที่จูบฉันอยู่ “อ๊ะ!”

มันคืออะไร...!?

รู้สึกเหมือนถูกมีดคมกริบบาดไม่มีผิด!

“ย....ยู....แฮ่ก...อื๊อ...!”

ฉันหายใจกระชาก สัมผัสร้อนแรงและเจ็บวูบวาบกดฝังลงในเนื้อเหนือหัวใจของฉัน! มือเล็กที่ไม่อาจผลักร่างสูงออกจิกเสื้อเชิ้ตเหนือแผ่นอกแกร่งแน่น

ตึกตัก...

“ย...ยูกิสะ...อ...อ๊า...!”

มันคืออะไรฉันไม่เข้าใจ!? อยากเกร็งขืนและวิ่งหนีแต่ไม่ได้เลย มันราวกับว่าฉันถูกตรึงด้วยพลังบางอย่างที่กำลังเรียกชื่อฉัน...เรียกและดึงมือให้เดินไปหรือแม้แต่กระโดดลงสู่ห้วงเหวเพื่อไปหาสิ่งนั้น

มันเป็นพลังดึงดูดที่ไม่อาจปฏิเสธ…!

“หวานเหลือเกิน...เลือดของเธอ”

“ว่าไงนะ!?”

เขาบอกว่าเลือดฉันหวาน!? ความเจ็บแปลบเมื่อครู่คือเขากัดฉันและดื่มเลือดของฉัน!?

สิ่งที่ดื่มเลือดก็มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น...

ยูกิสะเป็นแวมไพร์!?

“ปล่อย...ปล่อยนะ...อ๊ะ...!”

ตุบ!

ฉันอยากจะดิ้นแต่เข่ากลับไร้เรี่ยวแรงเพราะเลือดถูกแย่งชิงไปอย่างนั้นเหรอ? ฉันร่วงทรุดลงกับพื้นในอ้อมแขนกำยำของแวมไพร์ที่กำลังดื่มเลือดของฉัน...!

“ป...ปล่อยที อ...อือ...แฮ่ก...” อยากเปล่งเสียงดังแต่สติกลับกำลังจะดับวูบ

ยูกิสะเป็นแวมไพร์...!!??

มืดเหลือเกินและราวกับมีดแห่งเปลวไฟคมกริบบาดผิวเนื้อบางขณะที่แวมไพร์ดื่มเลือดจากหัวใจของฉัน

“ทุกอย่างในร่างกายของเธอเป็นของฉัน”

ได้ยินเพียงเสียงแว่วข้างหูก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนลับและวูบดับ

“นานามิ”

“เฮือก! อย่านะ!”

ฉันร้องออกมาดังลั่นบนเตียงนอนของตัวเองในตอนเช้า

“แฮ่ก...แฮ่ก...!”

ตึกตัก...!

หัวใจยังเต้นแรงด้วยความหวาดกลัวราวกับถูกโบยตี

ตึกตัก...!

สิ่งที่อยู่ในความทรงจำสุดท้ายของฉันยังชัดเจน ฉันถูกยูกิสะดื่มเลือด! แวมไพร์ดื่มเลือดของฉัน!

ไม่สิ...มันไม่น่าจะเป็นความจริง!

ในเมื่อแวมไพร์ไม่มีจริงเพราะงั้นภาพหลอนในหัวฉันคงเป็นแค่ฝันประหลาดๆ บางทีอาจเพราะฉันชอบคิดเรื่องแปลกและเรื่องที่ไม่มีในโลกอย่างเช่นกุหลาบดำ

คิดได้อย่างนั้นฉันจึงลุกขึ้นถอดเสื้อและลงไปอาบน้ำอุ่นในอ่าง

สบายจัง...

แต่เดี๋ยวก่อน! เมื่อกี้เสื้อที่ฉันถอดมันไม่ใช่ชุดนอนแต่เป็นชุดนักศึกษานี่! ฉันไม่เคยเข้านอนด้วยชุดนักศึกษาสักหน่อย!

ราวกับว่ามีห้วงเวลาหนึ่งที่ขาดหายไป

อึก...มันคือช่วงเวลาที่ยูกิสะกัดฉัน...!

ห้วงเวลานั้นน่าจะเป็นความฝันหากแต่…

“อ๊ะ...!!!” จากเงาที่สะท้อนน้ำใสในอ่างฉันเห็นรอยคมเขี้ยวสองจุดเหนือหัวใจตัวเอง สีของร่องรอยนั้นเรื่อแดงราวกับกลีบกุหลาบ

เมื่อได้เห็นก็พลันรู้สึกถึงความร้อนและเจ็บปลาบที่ยังไม่เลือนหายจากการชำแรกของคมเขี้ยวที่เคยได้รับ

มันไม่ใช่ความฝัน!

จริงเหรอที่ยูกิสะเป็นแวมไพร์!?

นี่ฉันพลาดท่าแต่งงานกับแวมไพร์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์งั้นเหรอ!!??

“อ๊า!!!!!!!!!!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel