บทที่7
สถานการณ์ในตอนนี้ ฉันกำลังอยู่ภายใต้ภาวะโลกใกล้ระเบิด ถ้าเป็นคนธรรมดาก็คงแค่ภาวะโลกร้อน แต่นี่เป็นฉัน!! ที่เพิ่งผ่านเรื่องราวที่น่าอัปยศมาหมาดๆ'' ตอนนี้ฉันกำลังขับไอ้หนูแดงที่กำลังเดือดพอๆกันด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอะไรขวางหน้าฉันชนไม่เหลือซาก เจอหมาฉันชนหมา เจอแมวฉันชนแมว เจอคนหล่อฉันแวะรับ (ไม่ชนเหมือนหมาเหรอ)
หลังจากที่ไอ้บ้านั่นปล่อยให้ฉันห้อยโตงเตงเป็นผีเฝ้าเสาเฮงซวยนั่น พอทุกคนกลับกันหมด ขอย้ำ! ทุกคนจริงๆ ไม่เหลือแม้กระทั่งคนที่จะช่วยแกะเชือกให้ฉัน โชคยังดีที่ยัยป้าหน้าปลาดุกดันลืมกระเป๋าเอาไว้เลยกลับมาเอา พร้อมกับปล่อยฉันให้เป็นอิสระด้วย แต่ตอนนี้คาดว่ายัยนั่นคงใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว
เพราะทันทีที่ฉันหลุดจากไอ้เชือกบ้านั่น อารมท์โกรธทั้งหมดก็พุงปรี๊ดดด!! จนทนไม่ไหวเลยชวนยัยป้านั่นเล่นมวยปล้ำ แค่ครึ่งยก!! ยัยนั่นก็สลบเมือดไปเลย ฉันกลัวถูกจับข้อหากระทำชำเลาคนแก่ก็เลยรีบบึ่งไอ้หนูแดงออกจากสถานที่เกิดเหตุทันที แต่ฉันไม่ใช่คนเลวนะ ฉันโทรเรียกรถพยาบาลให้ยัยป้านั่นด้วย เสียค่าโทรตั้ง 5 บาทแน่ะ''
“เฮ้ย! ไฟแดง! อ๊ากกกกกกกกกก!”
ตึ้งงงง! ว๊ากกกกกกกกกก!!
ด้วยความเซ่อที่เกินพิกัดของฉันที่มัวแต่ระบายให้คุณผู้อ่านฟัง ดันลืมไปว่าตัวเองกำลังขับรถอยู่ ทำให้ไอ้หนูแดงถูกชนโดยไอ้รถคันข้างหน้าเข้าอย่างจัง (ได้ข่าวว่าแกเบรกไม่ทันเองไม่ใช่เหรอ) ฉันรีบลงจากรถทันทีเพราะเป็นห่วง...ไอ้หนูแดง
“ Oh!! No! ม่ายจริ๊งงงงงงงงงงง! โฮๆๆ หนูแดงลูกแม่ เจ็บตรงไหนมั้งลูก? หายใจเข้าลึกๆ คิดถึงพ่อแก้วแม่แก้วเข้าไว้ เดี๋ยวแม่โทรเรียกรถพยาบาลให้นะลูก รอเดี๋ยวน้า!” (มันเป็นรถไม่ใช่คนโว๊ยยยยยยย!!)
ด้วยความที่เป็นคนดีจัดฉันรีบตรงดิ่งไปดูอาการไอ้หนูแดงทันที โดยลืมไปว่ารถคู่กรณียังจอดแง็ก! อยู่ข้างหน้า
“นี่เธอขับรถประสาอะไรเนี่ยห๊ะ” ก็ขับภาษาคนนี่แหละโว๊ยย!
“ขับประสาติ๊กมั้ง ไอ้บ้า! แกทำร้ายลูกฉันแกต้องรับผิดชอบ!” ฉันโวยวายใส่คู่กรณีทันทีโดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ไอ้หนูแดงไม่ยอมเงยหน้ามองดูคู่กรณี
“ไหนล่ะ ลูกเธอน่ะ! เธอยังดูเด็กอยู่เลยมีลูกแล้วเหรอเนี่ย โอ้โห วัยรุ่นสมัยนี้นี่มันไวไฟซะจริงๆ”
“แก! แกฆ่าลูกสาวฉัน ฮือๆๆ หนูแด๊งงงง” ฉันนั่งร้องไห้ชักดิ้นชักงอเหมือนเด็ก ทันทีโดยไม่สนใจสายตาประชาชีทั้งหลายที่เริ่มจอดรถดูกันใหญ่ ”ไทยมุง”
“เฮ้ย! เธอนั่นแหละที่ขับรถมาชนรถฉัน ชนเบาๆ แค่นี้...นะ..นี่ถึงขนาดลูกสาวเธอตายเลยเหรอเนี่ย โอ้ววว! งานเข้าแล้วสิฉัน”ไอ้ฆาตกรตกใจทันทีที่รู้ว่าลูกฉันตาย แต่ไอ้ลูกที่ว่าเนี่ยมันรถโว๊ย! ไม่ใช่คน ขืนเป็นลูกของฉันจริงๆแกคงไม่ได้มายืนทำหน้างงเป็นหมาอมฮอลส์รสมะนาวอยู่อย่างนี้หรอก ฉันคงเอาท่อรถฟาดหัวแกแบ๊ะไปนานแล้วแหละ!
“ไอ้ฆาตกรฉันอุตสาห์เลี้ยงดูปูเสื่อไอ้หนูแดงมาตั้งแต่มันยังแบเบ๊าะ แต่แก๊! แกทำร้ายลูกช้านนนน!” ฉันยิ่งร้องหนักเข้าไปใหญ่เมื่อเอามือไปจับไฟหน้าไอ้หนูแดงแต่ปรากฏว่ามันกลับหักคามือฉันเลยทีเดียว ไอ้บ้านั่นเดินสำรวจทั่วไอ้หนูแดง มันจะหาหวยในรถฉันรึไงฟ่ะ!
“ไหนล่ะ ศพเด็กน่ะไม่เห็นมีใครอยู่ในรถเลย?”
“ศพเด็กอะไรของนาย ห๊ะ! ไอ้บ้า! แล้วช่วยเอามือออกไปจากหนูแดงของฉันเดี๋ยวนี้ นี่นายทำร้ายหนูแดงยังไม่พอ ยังกล้าเอามือมาจับหนูแดงอีกเร๊อะ!” ฉันแวด! ใส่ไอ้บ้านั่นทันทีที่เขาเอามือมาจับหัวหนูแดง (หัวรถน่ะ) เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะเอามือออกจากไอ้หนูแดงของฉัน
“นี่! เธออย่าบอกนะว่า ไอ้หนูแดงที่ว่าน่ะหมายถึงไอ้รถคันนี้น่ะ”
“( -_-')( _ _')( -_-')( _ _')” ฉันได้แต่พยักหน้าตอบ พร้อมกับลูบไอ้หนูแดงไปพรางๆ
“ลูกสาวที่ว่า..คือไอ้รถเต่าล้านปียุคสงครามโลกครั้งที่ 2เนี่ยนะ!”
“ก็เออนะเซ่! แล้วนายคิดว่ามันเป็น…” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเริ่มสนใจหน้าของไอ้คู่อริ ผมสีทองเหลืองอร่ามปานเอาขี้มาเทใส่หัว หน้าขาวกว่าผีญี่ปุ่นบางตัวซะอีกตัวสูงโปร่งหุ้นดีเหมือนเสาไฟฟ้า ตาสีฟ้าที่เหมือนน้ำทะเล จมูกโด่งเป็นสันน่าเอาค้อนมาทุบ ปากแดงสีเหมือนเลือดไก่ สรุปง่ายๆ เลยก็คือ..หล่อโครต!
“นี่! เธอ”
“หยุดทำหน้าปัญญาอ่อนแบบนั้นใส่ฉันซะที! เห็นแล้วมันตลก!”ฉันไปทำหน้าอย่างนั้นตอนไหนย่ะ! หน้าฉันมันก็ปัญญาอ่อนแบบนี้มาตั้งแต่เกิดนั่นแหละ (จะด่าตัวเองเพื่อ)
“ใคร! ใครมองหน้านายกันห๊ะ! พูดงี้มาต่อยกันเลยดีกว่า!”
“วันนี้ฉันไม่ว่างจะมามีเรื่องกับเธอ ฉันต้องรีบไปสนามแข่งรถเพราะวันนี้มีแข่งนัดสำคัญ” ว้าววว!! สนามแข่งรถเหรอ น่าสนุกดีนี่...ป๊อก..ป๊อก...ป๊อก ป๊อก...ปิ๊ง!! (เสียงคิดอะไรออกเหมือนอิกคิวซัง)
“นี่นาย! ให้ฉันไปด้วยคนได้เปล่า สนามแข่งรถเนี่ย! ”
“เธอจะบ้าเหรอมีผู้หญิงสักกี่คนห๊ะ! ที่อยากไปที่นั่นน่ะผู้หญิงที่ไปส่วนมากก็ไปเป็นของรางวัลให้ผู้ชนะเท่านั้นแหละ! เป็นไง? รู้อย่างนี้แล้วยังอยากจะไปอีกไหม” เป็นอีกครั้งที่ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ รู้จักฉันน้อยไปเฟ้ยย!! ฉันจะลบคำพูดเมื่อกี้ของแก! เต่าล้านปีเหรอ เดี่ยวเจอทีเด็ดของลูกสาวฉันแล้วแกจะหนาว!
“เธอนี่มัน! ไม่ได้ยังไงฉันก็ไม่อนุญาตให้เธอไป ส่วนเรื่องรถเราต่างคนต่างซ่อมเลิกแล้วต่อกัน OK ลาแล้วลาลับนะ ยัยติ๊งต๊อง!” เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าด่าฉันว่า ติ๊งต๊องเลยนะเฟ้ยยย! (ถึงฉันจะติ๊งต๊องจริงๆ ก็เหอะ!)
“ตกลงนายจะไม่ยอมให้ฉันไปด้วยจริงๆ ใช่ไหม”
“ใช่”
“ฉันให้นายแก้ตัวอีกครั้งนึง ให้ฉันไปด้วยได้ไหมจ๊ะ”
“ไม่ได้! ยังไงฉันก็ไม่ให้เธอไป ยัยติ๊งต๊อง!” หยุดเรียกฉันว่า ติ๊งต๊องสักทีสิโว้ย คนฟังดูไม่แมนสักนิด
“แสดงว่านายเลือกที่จะอาย มากกว่าจะพาฉันไปด้วยงั้นสิ!”
“เธอนี่มัน! ปัญญาอ่อนจริงๆ ด้วยแฮ่ะ!” ขอโทษที่ฉันปัญญาอ่อน! ฉันไม่ได้ตั้งใจอย่างแรง แต่แกไม่ต้องช่วยย้ำจะได้ไหมฟ่ะ! เขาด่าฉันเสร็จก็เดินไปขึ้นรถทันทีมีเหรอคนอย่างโพลี จะปล่อยไปง่ายๆน่ะ รู้จักไหม...มารยาล้านเล่มเกวียนน่ะ วันนี้ฉันจะให้นายสักเล่มก็แล้วกันไอ้ผู้ชาย..หล่อ!
“อย่าไปนะ!” ฉันทรุดลงกับพื้น พร้อมกับดึงขากางเกงเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะขึ้นรถ! งงล่ะสิ เดี่ยวได้สนุกกว่านี้แน่ไอ้หนู
“เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย ปล่อยขาฉันนะยัยบ้า!”
“นี่นาย! นายเป็นเสี่ยประเภทไหนเนี่ยห๊ะ! ได้ฉันแล้วก็จะทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ไหนเมื่อคืนก่อนที่เราจะ อะจึ้ย อะจึ้ยกัน นายสัญญาว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อฉันอย่างดี พอได้ฉันแล้วนายจะมาทิ้งฉันอย่างนี้น่ะเหรอ ฉันเสียใจ ฮือๆๆๆ (คนเสียใจเขาไม่ยิ้มกันหรอกเฟ้ย!!)”
ด้วยความหน้าด้านแบบไม่เกรงใจใครของฉัน ฉันนั่งทรุดอยู่กับพื้นพร้อมตะโกนดังๆจนผู้คนที่จอดรถมุงดูอยู่ ทำหน้าตกใจกับคำพูดของฉันทันทีพร้อมกับมองหน้าฉันที หน้าไอ้หล่อนั่นที สีหน้าหมอนั่นตอนนี้ถ้าเอาไม้บรรทัดไปวัด (ไม่ได้เอาเอาปิ่นโตไปเหรอ) คงเหลือแค่ 3 เซนติเมตรอย่างแน่นอน นี่แค่เล่มเดียวนะจะบอกให้
