บทที่5

โอ้วว!! เย่ ~ตาบ้านั่นต้องจูบกับผู้หญิงนับร้อยๆ กว่าจะถึงตาฉันหมอนั่นก็คงหมดแรง เป็นลมตายก่อนจะถึงตาฉันแน่! แต่คนแล้วคนเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าไอ้บ้านั่นจะหมดแรง แถมยัยผู้หญิงทั้งหลายก็ผ่านด่านกันเกือบจะทุกคน คนที่ไม่ผ่านก็คือพวกที่อดใจไม่ไหวเป็นลมล้มพับไป โอ้ววว! นั่นอีก 5 คนก็ถึงตาฉันซะแล้ว

Oh!! No!!!

ฉันไม่มีวันยอมให้ไอ้ผู้ชายหน้าด้านที่จูบผู้หญิงทีเดียวร้อยๆคน มาจูบปากที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของฉันแน่ สู้ตายโว้ย!

“เอาล่ะ คนสุดท้ายแล้วค่ะ” เผลอบ่นในใจแป๊ปเดียวถึงตาฉันแล้วเหรอเนี่ย โอ้วว! สละสิทธิ์ตอนนี้ยังทันไหมนะ ไม่อยากเล่นแล้วอ่ะ แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไป ไอ้บ้านั่นก็เดินดุ่มๆเข้ามาหาฉันพร้อมกับกระชากฉันเข้าไปในสถานที่แสดงทันที

“แหม คนสุดท้ายเนี่ย หน้าตาคุ้นๆ นะทุกคนว่าไหม”

“จะไม่ให้คุ้นได้ยังไง ก็ยัยนี่น่ะ! เป็นหัวหน้าแก้งค์นักเลงหญิงประจำโรงเรียนเราไงค่ะ ฟีโน่” จู่ๆ ยัย เรนนี่ก็ สอ-ใส่-เกือก = ขึ้นมา หล่อนไม่พูดเอากี่บาทย่ะ! ยัยบ้า!

“คนที่ชอบมีเรื่องกับนักเลงโรงเรียนอื่น แถมยังปากจัดที่สุดในโรงเรียนนั่นนะเหรอ ถึงว่าคุ้นๆหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหน” อย่ามาใช้สายตาโรคจิตอย่างนั้นใส่ฉันนะไอ้บ้า ฉันเตือนด้วยความหวังดีเพราะถ้าฉันสติแตกเมื่อไหร่ ฉันอาจจะกระโดดกระครุบนายก็เป็นแน่!

“ฉันกับนายไม่เคยเจอกัน ไอ้บ้า”

“เมื่อวานเธอคงจะกำลังสนุกกับการอัดลูกน้องของฉันอยู่ เลยไม่ได้สังเกตเห็นว่าฉันกำลังนั่งมองหน้าเธออยู่ล่ะมั้ง” ช็อคไปเลย! นี่อย่าบอกนะ ว่าไอ้ควายหมีที่ฉันออกกำลังกายด้วยเมื่อวานนี้คือ ลูกน้องไอ้บ้านี่ ตายแน่ฉัน ทำลูกน้องดันมาเจอหัวหน้าใหญ่ซะงั้น

“แล้วไงล่ะ! ถ้าใช่แล้วจะทำไม นายจะต้อยฉันเหรอ เอาเซ่!” เพราะความปากเก่งที่อยู่เหนือสติ ทำให้ฉันพูดอะไรโดยไม่คิด ฉันตะโกนลั่นพร้อมกับยื่นหน้าไปให้หมอนั่นอย่างท้าทาย

“จัดการเธอน่ะทำเมื่อไหร่ก็ทำได้ แต่จูบเธอนี่สิ! คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยว่าไหม” ไอ้บ้านี่แกคงไม่คิดสั้นจะมาจูบกับฉันหรอกนะ เพราะถ้าแกทำอย่างนั้น ฉันจะ..ฉันจะร้องไห้จริงๆ ด้วย!

“เอาสิ! ถ้าคิดว่าฉันจะยืนเฉยๆยอมให้นายเอาปากที่ไปจูบยัยผู้หญิงกระหายเลือดพวกนั้นมาจูบกับฉัน ก็ลองดู” ปากยังคงทำหน้าที่หาเรื่องอย่างไม่ยอมหยุด!

“แหม ปากเก่งจริงนะแม่สาวน้อย! สาวๆทั้งหลายครับช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ ผมมีเกมส์อะไรสนุกๆ มาโชว์สาวๆ”

“ช่วยอะไรเหรอคะ”

“ช่วยจับยัยสาวน้อยปากเก่งนี่ไปมัดไว้กับเสาตรงนั้นหน่อยได้ไหมครับ ผมขอ!” สิ้นเสียงไอ้บ้านั่นยัยชะนีทั้งหลายรวมเกือบสิบๆ คนก็วิ่งมารุมฉันทันที ปกติฉันสู้ได้นะ แต่วันนี้ดันใส่กระโปรงจะกระโดด เตะ ถีบ ก็ไม่ได้ แถมยัยพวกนี่ยังมาเป็น สิบๆคน อ๊ากกกก! นี่พวกแกจะทำอะไรฉานนนนนนนนนน!

ช่วยด้วยยยยยยยย! ปู่!

ตอนนี้ฉันกำลังถูกรุมล้อมด้วยยัยพวกชะนีทั้งหลาย หลังจากที่ยัยพวกนั้น ทั้งดึง ทั้งลาก ทั้งฉุด จนฉันมึนหัวไปหมด!! มารู้ตัวอีกทีฉันก็ถูกมัดติดเสา ด้วยเชือกไอ้ใหญ่เท่าควายเรียบร้อย แล้วดูไอ้บ้านั่นสิ ยืนยิ้มอยู่ได้ อย่าให้ฉันหลุดออกไปนะเฟ้ย! แกตายศพไม่หล่อแน่

“นี่นาย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า! นายกำลังทำผิดกฏหมายว่าด้วยเรื่อง..กดขี่ ข่มเหง ทารุณ กักขังหน่วงเหนี่ยวฉันรู้เอาไว้ซะด้วย นายอาจจะต้องถูกจำคุกเป็นเวลาสามเดือนถูกปรับไม่เกินสองพันบาทหรือไม่ก็ทั้งจำทั้งปรับ!”

“เธอก็กำลังทำผิดกฎหมายเหมือนกัน ว่าด้วยเรื่อง..ปากจัดไม่เกรงใจใคร บู๊แหลกเกินกว่าความเป็นหญิง นิสัยก้าวร้าวขั้นรุนแรง ซาดิส วิปปริส ซกมก โซโครก และบราๆๆ” อะ…ไอ้หมอนี่!!กฏหมายบ้านป้าแกเหรอย่ะ! ไอ้บ้าด่าซะไม่เกรงใจความเป็นผู้หญิงของฉันเลยนะ! พูดซะเห็นภาพลางๆอยู่ตรงหน้าเลย

“นี่! นายจะบ้ารึไงห๊ะ! ไอ้โรคจิต”

“เอาล่ะสาวๆ เรามาเริ่มเกมส์ที่ระทึกขวัญ เขย่าประสาท ยัยผู้หญิงปากร้ายคนนี้กันดีกว่านะครับ” นี่แกตั้งใจฟังที่ฉันพูดรึเปล่าเนี่ย! แล้วเกมส์บ้าบออะไรของแก

“เกมส์บ้าอะไรของนายห๊ะ!”

“เกมส์นี้มีชื่อว่า จูบอย่างไรให้มีความหมาย” นี่ช่วยฟังที่ฉันพูดหน่อยไม่ได้รึไงฟ๊ะ! แล้ว เกมส์บ้าอะไรของนายนั่นน่ะ อยากจูบให้มีความหมาย ก็ไปจูบกับยัยชะนีพวกนั้นสิ รับรองว่ามีความหมายลึกซึ้งแน่ๆ

“เอาล่ะ สาวๆ ทุกคนครับ คำถามข้อที่ 1 ถ้าคุณจะมีแฟน อยากให้แฟนจูบที่ไหนมากที่สุดเอ่ย ถามสาวสวยคนนั้นน่ะ เสื้อลายสีส้มน่ะครับ” ดูหน้ายัยคนถูกถามสิ! ดีใจซะเวอร์ นี่ถ้าไอ้บ้านั่นขอแต่งงานจะไม่ช็อคตายเลยรึไง๊นะ

“จะ..จูบที่ตาค่ะ เพราะดวงตามี 2 ข้างเปรียบเสมือนคู่รักทุกคู่ ถ้าหากขาดตาข้างใดข้างหนึ่งไป ตาอีกข้างคงจะมองเห็นไม่ชัด จริงไหมค่ะ”

แหมตอบซะเวอร์เชียวนะยัยหน้าแมว จมูกก็ 2 รูนะย่ะถ้าขาดรูใดรูหนึ่งไปก็อาจจะหายใจติดๆขัดๆ ว่างๆ ก็ให้แฟนเธอจูบที่รูจมูกเธอดูสิ! เผื่อจะได้รักกันยืนยาว

“จำไว้นะยัยตัวแสบ จูบที่ตา” เกมส์บ้าอะไรของเขาเนี่ย ท่าทางจะประสาทให้ฉันจำอะไรไร้สาระ นายไม่มีสมองจะจดจำเองรึไง รึเอาสมองไปใส่ความทรงจำที่แสนหวานกับจูบที่ดูดดื่มไปซะหมด! เช่อะ!

“ย่ะ”

“คำถามต่อไปนะครับ ถ้าแฟนคุณใกล้จะตาย แล้วขอให้คุณจูบเขาเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะจูบที่ไหนของเขาครับ?? ถามน้องส้มสุดสวย เสื้อแดงครับ”

“จูบปากค่ะ ส้มคิดว่าการจูบปากเป็นการแสดงความรักที่มั่นคง และชั่วนิรันด์” โอ้ววโห! หน้าตาอย่างยัยนี่ ไม่น่าจะพูดอะไรซึ้งๆออกมาได้ แต่ถ้าเป็นฉัน ถ้าแฟนฉันใกล้จะตายนอนพะงาบพะงาบอยู่ ฉันจะจูบที่หูพร้อมกระซิบบอกรักเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะตาย (แกเป็นคนที่แปลกมาก) เขาเรียกว่าโรแมนติกแบบไม่เหมือนใครย่ะ!

“จูบปาก! จำไว้นะ” ฉันรีบพูดตัดหน้าเขาเพราะเห็นว่าหมอนั่นกำลังจะหันหน้ามาสั่งฉัน (รู้หน้าที่ดี) หมอนั่นทำหน้าหล่อใส่ฉันก่อนจะหันไปสนใจยัยพวกชะนีทั้งหลายต่อ

“เอาล่ะครับ คำถามสุดท้าย..คุณเคยโดนแฟนหึงไหม แล้วเวลาเขาหึงเขามักจะทำอะไรคุณ ถามน้องเรนนี่ ก็แล้วกันครับ!”

“ถามเรนเหรอคะ เรนเคยมีแฟนคนนึงเขามักจะโกรธมากที่เห็นเรนนี่คุยกับผู้ชายอื่น เขาจึงชอบทำ 'คิสมาร์ก' ให้เรนนี่อยู่บ่อยๆ น่ะค่ะ”

คนสมัยนี้มันยังไงนะ จูบอะไรไม่จูบชอบจูบต้นคอกัน นี่เหรอ! วิธีแสดงความรักเป็นฉันหน่อยไม่ได้จะให้แฟนกราบแทบเท้า ทุกเช้าและก่อนเข้านอนเพื่อเป็นการแสดงความรัก (ฉันสงสารคนที่เป็นแฟนแก!)

ยัยเรนนี่! ฉันจะไปฟ้องปู่แก!

เพราะความบังเอิญที่ปู่ยัยเรนนี่เป็นเพื่อนกับปู่ฉัน แต่ยัยนั่นคงจำฉันไม่ได้หรอกเพราะครั้งที่สุดท้ายที่เจอกับยัยนั่นน่ะ ตอนฉันอายุ 7 ขวบ ฉันแกล้งเอารองเท้าหล่อนไปจิ้มขี้แค่นิดเดียว ร้องไห้ซะบ้านแทบแตก! ขืนยัยนั่นรู้ว่าฉันเป็นหลานคุณปู่และเป็นคนที่เอารองเท้าหล่อนไปจิ้มขี้ ชีวิตฉันคงไม่เป็นอันสงบสุขแน่! ว่าแต่ ตั้งแต่มาฉันยังไม่เจอยัยโซดาเลย

ยัยโซดาเป็นหลานของปู่เหยินเพื่อนของปู่ฉันเหมือนกัน แต่ยัยนั่นน่ะอ่อนแอ ขี้แยชะมัด!