CHAPTER 4 เด็กแว่นคนนั้น
Martin Talk
"แค่มึงเปิดใจให้น้องเค้าสักหน่อย มันจะตายหรือไงวะ?” ไอ้ปืนยังคงพูดต่อ
"นั่นสิพี่ ถึงแม้ว่าผมกับไอ้มีนจะรู้จักกันมาไม่นาน แต่มันก็ไม่ใช่คนที่มีใจโลเลนะพี่ ผมไม่เคยเห็นมันมองผู้ชายคนไหนเลยนอกจากพี่” ไอ้มาวินเสริม
“แล้วกูจะรู้ได้ไงว่าน้องเค้าพูดความจริง บางทีน้องเค้าอาจหลอกกู เหมือนที่กูโดนหลอกมาตลอดก็ได้”
“แต่ผมว่าผมรู้จักไอ้มีนมันดีพอ ๆ กับที่ผมรู้จักพี่นะ”
เอาจริง ๆ ไอ้มาวินมันรู้ว่าผมเป็นพี่รหัสมันตั้งนานแล้วแหละ ผมชวนมันมากินเหล้าด้วยกันบ่อย ๆ และเพราะมันมีนิสัยคล้าย ๆ กับผมเลยทำให้สนิทกันง่ายขึ้น เวลาเจอกันที่คณะผมก็ไม่เคยเจอมีนอยู่กับมันเลยสักครั้ง และเพราะผมไม่ค่อยไปยุ่งเรื่องของมันด้วยผมเลยไม่รู้ว่ามันกับมีนเป็นเพื่อนกัน ผมก้มมองคนที่ซบอยู่กับอกผมอยู่ตอนนี้ เธอยังคงพึมพำเรียกชื่อผมไม่หยุด
“นี่...นายรู้จักพี่มาร์ตินมั้ย?” มีนพูดขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมาจับแก้มผมไว้แล้วยิ้มหัวเราะอย่างคนไม่มีสติ
“....”
“พี่มาร์ตินเป็นคนดีมาก ๆ เลยนะ” ผมมองหน้าเธอที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“ฉันชอบเขามาก ๆ เลย” ริมฝีปากบางที่ยังคงพูดไม่หยุดนั่นทำให้ผมยังคงมองใบหน้าหวานของคนตรงหน้าไม่ละสายตา และมันทำให้ผมนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา
3 ปีที่แล้ว...
“พี่มาร์ตินคะ กิ๊กขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ”
“ปรางมาก่อนขอถ่ายก่อนนะคะ”
“ไม่! ฉันมาก่อนฉันต้องได้ถ่ายก่อนสิ”
เสียงถกเถียงกันดังไม่ขาดสายจากปากเด็กผู้หญิงที่รายล้อมตัวผมอยู่ในตอนนี้ วันนี้เป็นวันแสดงความยินดีกับพี่ ม.หก ที่กำลังจะจบการศึกษา และตอนนี้ผมก็ถูกเด็กรุ่นน้องรุมล้อมขอถ่ายรูปจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
ผมค่อย ๆ อาศัยจังหวะที่พวกหล่อนเถียงกันว่าใครมาก่อนมาหลัง แทรกตัวหนีออกมา แล้วชิ่งหลบไปบนห้องเรียนทันที
“เข้าไปหาพี่เค้าสิแก! มัวยืนอายอยู่ได้”
เสียงแว่ว ๆ ดังขึ้นมาจากประตูหน้าห้อง ทำให้ผมหันไปมอง ก็เจอกับเด็กผู้หญิงสองคนยืนหลบอยู่ที่ประตู คนหนึ่งใส่แว่นหนามาก ๆ ตัดผมหน้าม้าเต่อ มือถือกล่องของขวัญ ส่วนอีกคนก็พยายามดันให้น้องคนนั้นเข้ามา ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครเลยในห้องนอกจากผม ถ้าไม่มาหาผมแล้วจะมาหาหมาตัวไหน
“ไม่เอาอ่ะ ฉันว่าฉันกลับดีกว่า”
เด็กคนที่ถือกล่องของขวัญกำลังจะหันหลังกลับ แต่ดันไปสะดุดอะไรสักอย่างแล้วล้มลงไปกระแทกพื้น
ตุบ!
“ว้าย!”
“แก! เป็นไรเปล่า?”
ผมเลยรีบลุกออกไปหาน้องเขา ก่อนจะก้มย่อตัวลงนั่งยอง ๆ แล้วเอ่ยถาม
“เป็นไรมากเปล่า?”
“เอ่อ...” น้องคนนั้นมองหน้าผมด้วยสีหน้าอึ้ง ๆ
“น้องโอเคเปล่า?”
“อะ..โอเคค่ะ” เธอตอบและในขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นอย่างรีบร้อน และนั้นก็ทำให้เธอล้มลงมาอีก ผมที่ดูท่าทีอยู่ใกล้ ๆ จึงรีบอ้าแขนรับตัวน้องเขาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกระแทกพื้นได้ทัน
“ดูเหมือนขาน้องจะเจ็บนะ ป่ะ..พี่พาไปห้องพยาบาล”
พอพูดจบผมก็ดึงน้องเขามาประคองไว้โดยที่มีเพื่อนน้องเขาช่วยประคองอีกแรง และในจังหวะนั้นเองที่ผมกับน้องเขาสบตากันโดยบังเอิญ
ปัจจุบัน
เหมือนมาก
มันคือคำเดียวที่ดังอยู่ในหัวผมตอนนี้ แววตาของมีนในตอนนี้มันเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนนั้นมาก ถ้าเธอกับเด็กผู้หญิงคนนั้นคือคนคนเดียวกัน ทุกเรื่องที่เธอพูดมามันก็คือความจริงน่ะสิ
“แล้วถ้าฉันเป็นพี่มาร์ตินของเธอ เธอจะทำอะไรกับฉัน” ไวกว่าสมองประมวลผล ปากผมก็พูดออกไปแล้ว อยากจะตบปากตัวเองจริง ๆ
“อืม...ก็เหมือนอยู่นะ” เธอตอบพร้อมกับจับใบหน้าผมพลิกไปพลิกมาเหมือนกับกำลังพิจารณาใบหน้าผมอยู่
“....” ผมยังคงมองใบหน้าเธออยู่อย่างนั้น
“ฉันอยากจะบอกให้หมดเลยว่าฉันรู้สึกอะไรบ้าง นี่...นายรู้มั้ย ว่าฉันเก็บเรื่องนี้มาเกือบสามปีแล้วนะ”
“บอกว่าอะไร?” ถึงแม้ผมจะรู้คำตอบนั้นอยู่แล้วก็เถอะ
“ไม่บอกหรอก.. อย่ามาหลอกถามฉันนะ!” เธอพูดจบก็หันไปยกแก้วเหล้าของผมที่วางอยู่ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“อี๋ นายกินอะไรอ่ะ... ทำไมมันบาดคอแบบนี้ล่ะ!”
เธอบ่นก่อนจะวางแก้วลงแล้วหลับไป
เวรล่ะ...สถานการณ์คุ้น ๆ
“ภาพตัดอีกตามเคย” ไอ้มาวินเอ่ยขึ้นขำ ๆ หลังจากที่มีนหลับไป
“กินแล้วเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?” ผมถามออกมาด้วยใบหน้า นิ่ง ๆ แต่ในใจมันก็หงุดหงิดยังไงไม่รู้ ซึ่งผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ไม่นะพี่ มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มันเศร้าเรื่องพี่อ่ะ ปกติมันไม่ค่อยเมาหรอก มันเซฟตัวเองดีจะตาย แล้วมันก็สร่างเร็วมากด้วย”
เออ..ค่อยโล่งใจหน่อย ว่าแต่..แล้วผมจะโล่งใจทำบ้าไรวะ?
“มึงก็กลับไปได้แล้วไป พาเพื่อนมึงกลับไปด้วย กูจะกลับแล้ว” ผมบอก
“ไหงงั้นอ่ะ วันนี้ผมจะกินข้ามปีกับพี่ปืนครับ”
“แล้วมึงจะปล่อยเพื่อนมึงไว้งี้?” ผมเลยถามต่อ เอาจริงดิ?
“พี่ก็เอามันไปส่งดิ มันอยู่คอนโดเดียวกับพี่อ่ะ”
“เออใช่” ไอ้ปืนเอ่ยเสริม
“แล้วทำไมต้องเป็นกู?”
“ก็มึงจะกลับ” ไอ้ปืนเสริมอีกครั้ง แหม..ทีงี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมึง
“เออ ๆ ก็ได้วะ”
ผมตอบเพียงแค่นั้น ก่อนจะพยุงร่างของมีนขึ้นมาประคองไว้ พร้อมกับรับกระเป๋าของเธอที่ไอ้ปืนยื่นส่งมาให้ แล้วพาเดินออกไป
“ส่งน้องดี ๆ นะมึง ส่งให้ถึงที่ล่ะ” และนั่นคือเสียงไอ้ปืน
