นาทีที่ 3 ขอตามใจตัวเอง
นาทีที่ 3
ขอตามใจตัวเอง
หลังจากที่งานศพของเทพทัตย์จบลงทรัพย์สมบัติที่เทพทัตย์ยังเหลืออยู่ก็ตกเป็นของทิวทั้งหมดเพราะทิวคือทายาทเพียงคนเดียวที่มี อำนาจเข้ามาอยู่ในกำมือของทิวทั้งหมดรวมถึงบริษัทเก่าของเทพทัตย์ที่นายท่านตัดสินใจยกให้ทิวเพื่อเป็นการตอบแทน แค่นั้นยังไม่พอนายท่านยังยกคฤหาสน์หลังนั้นให้กับทิวอีกด้วย
“กูดีใจด้วยนะทิวที่วันนี้มึงมีทุกอย่างเป็นของตัวเองแล้ว แล้วก็ขอบคุณที่วันนั้นมึงช่วยคนดี” สองพี่น้องนั่งดูดบุหรี่ด้วยกันที่สวนหลังบ้านอย่างผ่อนคลาย เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งพวกนี้ พอทุกอย่างจบลงสองหนุ่มเลยอยากลองทำตามใจตัวเองบ้าง
“เหอะ กูจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกูรู้แค่ว่ากูช่วยมึงกับแม่มึงออกมาไม่ได้ พอมึงหนีไปกูก็รู้สึกโกรธที่มึงทิ้งกูให้ตกนรกคนเดียว กูก็เลยเห็นแก่ตัวไปช่วงนึง ทั้ง ๆ ที่ชีวิตกูก็มีแค่มึงแท้ ๆ”
“กูขอโทษ ถ้าวันนั้นกูย้อนกลับไปได้กูคงไม่ทิ้งมึงไว้กับมัน” นายท่านยอมเปิดใจเป็นครั้งแรกเมื่อรับรู้มาจากคนดีว่าคืนนั้นคนที่ช่วยคนดีออกมาคือทิว ถึงแม้จะช่วยด้วยความเข้าใจผิดแต่เขาก็ทำให้ความฝันของนายท่านได้ครองคู่กับคนดีเป็นจริง
“ช่างเถอะ ยังไงเขาก็เป็นพ่อกูสักวันเขาก็ลากตัวกูกลับไปอยู่ดี”
“ตอนนี้มันก็ฆ่าตัวตายไปละ เรื่องมันจบแล้วทิว”
พอทุกอย่างมันจบลงด้วยดีวันเวลาก็กลับมาหมุนเวียนผ่านไปไวอีกครั้ง ทุกอย่างกลับคืนไปในสิ่งที่ควรจะเป็นจากนี้หวังว่าเรื่องร้าย ๆ จะไม่เกิดขึ้นอีก
“หึ ความจริงแล้ว...”
“กูเป็นคนทำเอง”
“....”
“กูฆ่ามันด้วยมือของกูเอง”
นายท่านชะงักไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำรับสารภาพที่น่าตกใจก่อนที่จะกระตุกยิ้มออกมาอย่างมีชัย เพราะเขาเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเหตุใดทิวจึงขอร้องให้เรื่องนี้เขาเป็นคนจัดการ สุดท้ายแล้วทิวก็เป็นคนที่จบความแค้นลงด้วยตัวเองจริง ๆ การตายของเทพทัตย์ถือว่าสาสมแล้วที่ต้องตายด้วยมือของลูกชายตัวเองเหมือนกับที่แม่ของนายท่านต้องตายด้วยมือของสามี...
“หึ มึงนี่จริง ๆ เลยนะไอ้ทิว ช่างแม่งเถอะกูไม่อยากสนใจแล้ว ตอนเย็นเจอกันบ้านไอ้ดลนะเว้ยห้ามเบี้ยวล่ะ เดี๋ยวกูก็กลับจีนแล้ว”
“เออ แล้วเจอกันไอ้น้องชาย”
@ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
กลับเข้าสู่ปัจจุบัน เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอเมื่อวันที่นายท่านต้องกลับไปทำหน้าที่ที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายท่านมีความสุขที่สุดในชีวิตเมื่อกำลังจะเดินทางไกลแล้วมองเห็นบุคคลคนที่มาส่งเขาที่สนามบินดังภาพที่เคยฝันไว มีดลและชีวาที่เป็นเพื่อนสนิท อีกทั้งยังมีเหล่าครอบครัวของคนดีแต่จะขาดคนนี้ไปไม่ได้เลยนั่นก็คือทิว สมาชิกใหม่ของครอบครัวใหม่ของนายท่านนั่นเอง
“โห มากันครบเลยเหรอ อันที่จริงไม่ต้องมาส่งก็ได้เกรงใจ”
“ไม่ได้หรอก อีกตั้งสองปีนู่นมึงถึงจะกลับมาอีก พวกกูก็ต้องมาส่งสิวะ” ดลกล่าว
“ขอบคุณนะ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะครับ”
“พวกกูอะแค่มาส่งมึงนะ แต่ว่าไอ้เนี่ยนี่เมื่อไหร่มันจะเลิกกอดขามึงสักที ไอ้ดีลุกได้แล้วอายคนอื่นเขาบ้าง” ชีวาดึงแขนคนดีให้ลุกขึ้นเมื่อเขานั่งกอดขานายท่านเอาไว้แบบนั้นเป็นชั่วโมงเนื่องจากพยายามรั้งนายท่านให้อยู่ต่อแต่ก็ไม่เป็นผล
“ไม่เอา จะรั้งไว้จนกว่าจะเปลี่ยนใจไม่ไป”
“นายเขาไม่ไปไม่ได้นะลูก ถึงแม้ว่าที่เมืองไทยนายเขาจะเป็นนายท่านของพวกเขา แต่ที่จีนเขาเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเฉิน นายต้องกลับไปดูแลงานของตระกูลเขา”
“ฮึก ไม่สนไม่ฟัง”
“เออ ๆ เดี๋ยวนายขึ้นเครื่องแล้วเจ้เลี้ยงหม่าล่า เลี้ยงทุกคนเลยดีไหม”
@ร้านหม่าล่า
“กินแซบเลยนะไอ้ดี” ดลแซวไอ้ดีเป็นแรกเลยเพราะมันคงอดที่จะพูดไม่ได้เมื่อเห็นว่าคนปากเล็ก ๆ อย่างไอ้ดี กำลังยัดห่าหมูสามชั้นสไลด์เข้ากระพุ้งแก้มจนกลมเหมือนซาลาเปาสองลูก คราบน้ำตาที่เปื้อนบนแก้มยังไม่หายเลยตอนนี้มันปรับอารมณ์เป็นร่าเริงได้อย่างลื่นไหล ไอ้ชีวาคนนี้ขอคารวะเลยล่ะ
“ก็ร้านนี้มันอร่อยนี่หว่า ไม่เชื่อมึงก็ลองกินดิไอ้ดล”
“มึงกินเถอะ กูกลัวมึงไม่อิ่ม”
“ใช่ซี้ มึงคงอิ่มอกอิ่มใจอยู่แล้วสิช่วงนี้ ตอนนี้กูก็ไม่มีใครเคียงข้างเหมือนไอ้วาแล้ว มึงคงสะใจมากสินะ”
“มากเลยล่ะ”
“ไอ้วาดูไอ้ดลสิ มันกำลังเย้ยพวกเราสองคนอยู่นะเว้ย”
“มึงไม่ต้องพูดเลยไอ้ดี สองอาทิตย์ก่อนพวกมึงยังรักกันนักกันหนาอยู่เลย พอตอนนี้ห่างกันแล้วจะให้กูปลอบใจเหรอ ฝันไปเถอะสาว”
“อดทนหน่อยนะคนดี อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจเรียนแล้วก็ทำตัวให้เป็นน้องที่ดีของเจ้ด้วยนะ”
“เจ้คนรักอ่า ฮือ ๆ คิดถึงนานท่านอีกแล้วอ่า อ้ากกกก”
นั่นแหละครับ ถึงแม้ว่าสมาชิกของกลุ่มเราจะกลับไปที่ฐานทัพดังเดิม แต่ความสนุกสุดหรรษาและความวุ่นวายมันยังเหลืออยู่เพราะตอนนี้เราก็กำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมกลุ่มในเทอมหน้า นั่นก็คือน้องลลันแฟนของไอ้ดลนั่นเอง กลุ่มที่มีเมะเพียงคนเดียวแต่ถูกรายล้อมไปด้วยเคะถึงสามคน แค่คิดก็น่าสนุกแล้วสิ!
