บท
ตั้งค่า

4 The Rose Red Horizon(2)

“เจ้าเป็นห่วงข้าใช่ไหมโอเดท...เจ้ารักข้า รักที่สุดจนไม่อยากให้ไป” ดวงตาสีอะความารีนมองเธออย่างห่วงใย เคลื่อนใบหน้าราวรูปสลักงดงามในแดดสว่างเข้ามาใกล้...ใกล้จนเกินไป...

ตึกตัก...เสียงหัวใจและใบหน้าที่เรื่อแดง...ไม่ใช่ของเจ้าหญิงหากแต่เป็นใบหน้าคมคายของลาริคต่างหากที่เปลี่ยนสีไป ก่อนที่ร่างสูงในชุดนายพลสง่างามจะรีบคำนับและเร่งฝีเท้าออกจากตรงนั้น

เจ้าชายมองตามพลางหัวเราะแผ่วในลำคอ ลาริคเป็นแค่เด็กหนุ่ม เขาไม่ควรรู้จักความรักและไม่ควรเห็นหญิงชายกอดกัน แล้วเมื่อพ้นสายตานายพลเจ้าชายก็วางร่างเจ้าหญิงลงก่อนจะกอดเธอ ปลายนิ้วแทรกใต้กลุ่มผมหนาและรั้งแผ่นหลังของอีกร่างไว้ ได้ยินเสียงร่างสูงผ่อนลมหายใจยาว

ถึงจะพยายามทำตัวร่าเริง...ทว่าเจ้าหญิงรู้ดีว่าหัวใจของซิกฟริดครุ่นครียดแค่ไหน และเมื่อร่างนั้นกอดแน่นเธอก็ได้ยินเสียงหัวใจที่ราวกับสับสนและแสวงหาใครสักคนที่จะเข้าใจ...

“แต่ข้าเป็นเจ้าชายแห่งเอเดลริค เป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องปกป้องแผ่นดิน เหมือนกับที่ข้าจะปกป้องเจ้า” ร่างที่กอดแน่นคล้ายกลั้นการถอนหายใจ

“ข้ารู้ แต่ถึงอย่างนั้น...”

“ข้าจะไม่เป็นไร พระผู้เป็นเจ้าจะปกป้องข้า และวันนี้ข้าแค่ไปออกตรวจให้ความช่วยเหลือเด็กที่ถูกละเว้นชีวิตเท่านั้น หากไปช้าพวกเขาอาจตายก็ได้”

“ซิกฟริด...” หัวใจของเจ้าหญิงวูบไหว เขาอ่อนโยนและเป็นห่วงคนอื่นเสมอ เธอไม่เคยรู้สึกเคว้งคว้างและเป็นห่วงขนาดนี้เลยเมื่ออีกฝ่ายคลายอ้อมกอดเพื่อรั้งต้นแขนแทนและนิ่งมองใกล้ๆ

“อยู่ที่นี่และภาวนาให้ข้า” ใบหน้าราวรูปสลักเอ่ยแผ่ว และอย่างอ่อนโยนเคลื่อนต่ำลงมาก่อนจะทาบทับริมฝีปากลงเหนือหน้าผากของเจ้าหญิง รู้สึกราวแสงแดดที่กำลังลาจากไปเมื่อริมฝีปากอุ่นเคลื่อนออกอย่างเชื่องช้า “และจงคิดถึงข้า เพราะข้าเองก็เหมือนกันจะคิดถึงเจ้าตลอดเวลา”

แล้วเจ้าชายคลายมือที่รั้งร่างของเธอไว้ ทำให้รู้ว่าอ้อมกอดเมื่อครู่สั้นแค่ไหน ขณะเดียวกันกับที่แววตาอ่อนโยนเมื่อละจากใบหน้าเจ้าหญิงเพื่อเดินกลับหลังวูบหาย แทนที่ด้วยเงาว้าวุ่นที่ยากจะอธิบาย

เจ้าชายจากไปแล้ว ปล่อยเจ้าหญิงไว้กับสายลมที่พัดแรงจนเส้นผมปลิวกระจายไม่ต่างจากหัวใจที่ไหววูบ สงครามเริ่มขึ้นแล้ว ทำให้ความสงบสุขและงานเต้นรำเมื่อไม่กี่เดือนก่อนราวกับเป็นแค่เรื่องเล่าห่างไกล

เมื่อไม่มีเฟรเดอริคเอเดลริคก็ราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย แล้วเจ้าชายจะทำอย่างไรเมื่อพ่อมดที่ปกป้องเอเดลริคอันเปราะบางไว้อย่างเข้มแข็งและเปลี่ยนมันขึ้นจนรุ่งโรจน์ราวกับเปลวไฟตายจาก ทว่าทุกสิ่งไม่มีวันย้อนกลับมา เวลาเดินหน้าต่อและไม่มีใครฉุดรั้งไว้ได้

เช่นเดียวกับสายลมที่พัดผ่านไปแสนไกลเมื่อเจ้าหญิงมองตาม สุดสายตาเคียงข้างทะเลคือทุ่งดอกไม้ไร้จุดจบที่ลากจากปลายขอบฟ้าขึ้นมาถึงยอดเขาเหนือปราสาท ดูสวยงามอ่อนหวาน

“ดอกไม้บานตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ...?” ร่างที่เหน็บหนาวเพราะสายลมพึมพำ ความคิดถึงเฟรเดอริคทำให้เจ้าหญิงลืมเวลา ไม่ได้รู้เลยว่าฤดูใหม่ได้มาถึงแล้วอย่างสง่างาม

แล้วสายลมพัดผ่าน พากลีบดอกไม้ปลิวสู่ท้องฟ้าเวิ้งว้างราวเริงระบำ ทว่าทันใดนั้นลมหายใจของเจ้าหญิงถูกช่วงชิงไป ราวกับถูกบีบคอให้หายใจไม่ได้...!

โอเดททรุดร่างลงในทันที เธอรู้แล้ว...อาจไม่ใช่แค่เอเดลริคเท่านั้นที่เปราะบางและตกอยู่ในอันตราย หากแต่เธอเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อกลีบดอกไม้ฟุ้งกระจายก็ราวกับตกอยู่ใต้คำสาปแสนน่าสะพรึงกลัวอีกครั้งเมื่อเขาคนนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้าง และบางทีเธอเองก็อาจกำลังตามเฟรเดอริคไป ก้าวข้ามไปสู่ดินแดนที่คนมีชีวิตไม่มีวันก้าวข้ามไปถึงได้

...ความตาย...

แล้วร่างของเจ้าหญิงก็ทรุดลง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel