บท
ตั้งค่า

2 Glittering in the Dark(2)

ในอีกซอกหลืบของเมืองยากจนแห่งหนึ่งไม่มีราชาหรือชาวเมืองคนไหนสนใจบ้านเด็กกำพร้าที่เด็กนับสิบป่วยไข้และกำลังจะอดตาย

“นี่เป็นขนมปังก้อนสุดท้ายที่เราเหลืออยู่” เด็กสาวผู้ดูแลเด็กกำพร้าตัวเล็กๆ บอก

“ข้าให้พวกเจ้า หลังจากนั้นเราก็จะหลับไป” เธอพูดด้วยรอยยิ้มทว่าหัวใจกำลังร้องไห้ รู้ว่าตัวเองและเด็กๆ จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก

ทันใดนั้นเหนือเพดานที่ผุรั่วมวลแสงสว่างสีม่วงจางสาดส่องลงมาพร้อมกับขนมปังและอาหารมากมายที่จัดวางลงบนโต๊ะอย่างน่ากิน เด็กๆ รีบกระโจนตะครุบอาหาร เด็กสาวผู้ดูแลอ้าปากค้าง “ระ...หรือว่าพวกเราตายไปแล้ว!? นี่พวกเราอยู่บนสวรรค์ใช่ไหม..!?”

ทันใดนั้นกระดาษแผ่นเล็กร่วงลงมา

“ท่านได้รับเชิญให้เข้าเป็นพลเมืองแห่งบาลเธีย...” เธออ่านบัตรเชิญ เด็กๆ ที่ยังเคี้ยวอาหารเต็มปากมาร่วมมุงดูด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“บาลเธีย....อาณาจักรที่ทุกคนตายหมดภายในคืนเดียวหรือครับ” เด็กคนหนึ่งถาม

“แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร...สิ่งนี้ช่วยเราไว้ พี่ไม่เชื่อในตำนานอะไรทั้งนั้นนอกจากสิ่งที่มองเห็นได้ และหากบาลเธียห่วงใยเราทำไมเราถึงจะไม่ไปล่ะ”

แล้วเด็กทุกคนยื่นมือออกไปสู่ปริศนาที่น่าหลงใหลแห่งบาลเธีย...!

หนึ่งเดือนหลังจากคำเชิญถูกส่งออกไปบาลเธียได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ สุสานถูกปิดซ่อนด้วยสวนดอกไม้ ความเงียบถูกโอบกอดด้วยเสียงนกแห่งฤดูใบไม้ผลิและเสียงหัวเราะร่าเริงไร้เดียงสา เด็กที่ถูกทอดทิ้งและสิ้นหวังมากมายได้ทำให้บาลเธียแปรเปลี่ยนเป็นอาณาจักรที่สดใสขึ้นมา

ไม่นานบาลเธียก็เต็มไปด้วยผู้คน เด็กก่อนแล้วค่อยตามด้วยผู้ใหญ่ ล้วนแต่เป็นผู้ที่โลกมองข้ามและยากไร้ที่นับรวมได้กว่าสองหมื่นคน และจำนวนเท่านี้ก็นับว่าไม่หนาแน่นเมื่อเทียบกับพื้นที่อันกว้างใหญ่

เฟรเดอริคไม่รู้หรอกว่าบาลเธียควรมีประชากรหนาแน่นแค่ไหน อีกอย่างว่าตามจริงคนมากน้อยก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ในเมื่ออย่างไรเสียหัวใจของเขาก็ยังเหน็บหนาวและว่างเปล่าราวกับาฤดูหนาวที่ยาวนานอยู่ดี

ทว่าเฟรเดอริคพอใจเพียงเท่านี้ ไม่สำคัญว่าหรอกเขามีความสุขหรือไม่ เด็กๆ สิที่ต้องมีความสุข ต้องยิ้ม หัวเราะและกินให้อิ่มสมกับที่อยู่ในอาณาจักรแห่งเทพนิยาย

เพราะฉะนั้นพ่อมดขาวถึงทำบ้านขนมของแฮนเซลและเกรเทลให้ใหญ่โตราวพระราชวัง และเด็กทุกคนได้ครอบครองพระราชวังขนมนั้นอย่างเต็มที่ มีของเล่นเวทมนตร์สารพัดชนิด ไหนจะสัตว์เวทมนตร์ต่างๆ ที่มาเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กอีก เสือฟันทู่ผู้ร่าเริง ม้าพูดได้ หมีใจดี... พวกผู้ใหญ่สร้างเมือง ตลาดและหมู่บ้าน พวกเขาเพาะปลูก ล่าสัตว์และมีชีวิตที่ดี ทุกคนที่นี่เห็นพ้องกันว่าบาลเธียช่างเป็นอาณาจักรที่น่าอยู่เหลือเกิน

อาจมีบางเวลาที่ทุกคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่มองขึ้นไปเหนือระเวียงวังในสายลม นึกขอบคุณชายลึกลับที่นำพวกเขามาและดูแลอย่างดี เขาคนนั้นบอกทุกคนว่าชื่อเฟรเดอริค

หากแต่เฟรเดอริคผู้นั้นคือใครกันนะ คนที่เชิญพวกเด็กๆ มาและสร้างสิ่งที่สวยแบบนี้ ผู้ที่สง่างามราวรูปสลัก... และถึงบางครั้งจะมีเด็กรายล้อมก็ดูห่างไกลอยู่ดี เข้าถึงไม่ได้ และถึงทำได้ทุกอย่างทว่ากลับยังดูหม่นเศร้า

“เขาคนนั้นดูเหงาจังเลยนะ” เด็กๆ พูดกัน หลายครั้งบนระเบียงปราสาทอันเงียบงันเด็กๆ จะเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น นิ่งมองออกไปไกลแสนไกล

“และทั้งที่อ่อนโยนใจดีแต่กลับดูห่างไกลจนเหมือนเหมือนไม่มีใครที่จะกอดเขาได้” เกรเทลพึมพำ

“ไม่เข้าใจเลย ทั้งที่เขาทำได้ทุกอย่างและมีทุกอย่าง ...”

ถูกต้องแล้ว เฟรเดอริคกำลังคิดถึงสิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันลืมได้ และทุกครั้งที่นึกถึงหัวใจก็บีบเจ็บแปลบ นั่นเพราะถึงบาลเธียถูกสร้างขึ้นใหม่ทว่ากลับไม่อาจมอบให้เป็นของขวัญแก่คนที่เหมาะสมจะได้รับที่สุด...โอเดท เอเดลลาเจ้าหญิงแห่งบาลเธียผู้นั้น...

สุดท้ายกลับเป็นเขาที่ต้องโอบกอดบาลเธียเอาไว้ สร้างขึ้นใหม่ และปกป้องอย่างเดียวดาย

...ถึงเธอคนนั้นจะไม่ได้อยู่เพื่อชื่นชมสิ่งนี้อีกแล้วก็ตาม...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel