บทที่4
“คำถามบ้าบออะไรของเธอ…ไร้สาระ” นอกจากจะไม่ยอมตอบคำถามของฉันแล้วเขายังเบี่ยงเบนมันด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ฉันยิ่งเข้าใจนิสัยของผู้ชายคนนี้มากขึ้นไปอีก แต่ก็ยอมที่จะหยิบแก้วค็อกเทลทรงก้านยาวที่เขาส่งให้มาจิบนิดๆ
“น้ำนี่อร่อยดีนะคะ รุ่นพี่น่าจะได้ดื่มมันด้วย” พูดจบฉันก็ส่งยิ้มหวานในแบบที่ไม่เคยยิ้มมาก่อนให้เขา และนั่นมันก็พอที่จะทำให้เขาอึ้งกับคำพูดและท่าทางของฉันไม่น้อย ก่อนฉันจะอาศัยจังหวะนั้นกระดกค็อกเทลสีฟ้าเข้าปากอีกอึกใหญ่พลางมือเรียวยาวก็เอื้อมไปรั้งต้นคอของร่างสูงให้เข้ามาไกล้ พร้อมกับครอบงำริมฝีปากของเขาไว้อย่างแนบแน่น
ฉันพยายามให้เขาได้ลิ้มรสสิ่งที่พยายามจะมอบให้กับฉันกลับคืนไปบ้าง แต่ไม่ใช่รสชาตินุ่มกลมกล่อมของค็อกเทลหรอกนะที่ฉันอยากให้เขาได้สัมผัส แต่เป็นรสชาติของความอึดอัด ความผิดหวัง และความเจ็บปวดที่ฉันมีต่างหากล่ะ
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!”
“รุ่นพี่ไม่ชอบเหรอคะ” จบคำพูดฉันก็ยิ้มหวานออกมาอีกครั้งจนคนตรงหน้าโมโหหนักเข้าไปใหญ่ ก่อนจะกระชากแขนฉันออกจากคลับนรกนี่อย่างแรง
นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นค่ำคืนนี้มันยังอีกยาวนานทีเดียว!
[คอนโด]
อาจเป็นเพราะฉันดูไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนที่ตัวเองถูกลากขึ้นมาที่คอนโดสูงเทียมฟ้าแห่งนี้ เลยทำให้รุ่นพี่ยิ่งมีทีท่าโมโหหนักไปกันใหญ่ทันทีที่มาถึงห้องเขาก็เหวี่ยงฉันล้มไปที่เตียงอย่างแรงก่อนจะยืนจ้องหน้าฉันอย่างเดือดดาล สายตาที่เคยเย็นชาตอนนี้กลับมีแวววาวโรจน์ด้วยความโกรธจนฉันอดหวั่นใจไม่ได้
“เธอเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่!”
“แล้วรุ่นพี่คิดว่าไงละคะ…” ไม่พูดเปล่าฉันเอื้อมมือเตรียมจะปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่ใส่อยู่ให้หลุดออกแต่ก็ถูกมือหนากระชากเอาไว้ก่อนซะได้
“นี่คือตัวตนของเธอรึไง!”
“อย่าพูดเหมือนพี่ไม่ชอบมันอย่างงั้นสิคะ เพราะนี่คือสิ่งที่พี่ต้องการมาโดยตลอดไม่ใช่รึไง”
“เธอ…”
“ขอบคุณนะคะที่ทำให้ฉันได้เข้าใจว่าตัวเองดูน่าสมเพชมากแค่ไหนในสายตาของพี่ ขอบคุณจริงๆ” ไม่มีคำพูดอะไรที่ฉันอยากจะพูดอีกในเวลาแบบนี้ ฉันยอมรับว่ารักผู้ชายตรงหน้านี้อย่างไม่มีเหตุผล รักเขาตั้งแต่แรกเห็นทั้งๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แล้วนี่น่ะเหรอสิ่งตอบแทนที่ฉันควรจะได้รับ
“บ้าชิบ! ในเมื่อรู้ทุกอย่างแล้ว เธอก็ควรจะกลับไปซะ”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”
“ไอริส!!”
“หยุดเรียกชื่อฉันสักที คนใจร้ายอย่างนายไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ พ่อแม่นายไม่เคยสอนรึไงว่าบาปกรรมมันมีจริง สักวันนายจะต้องเสียใจที่เอาความรักของคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้”
“เธอว่าไงนะ! ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงแข็งกระด้างเริ่มทำให้ฉันมีความรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยอมเสี่ยงตายเชิดหน้าสู้กับคนตรงหน้าอีกจนได้
“แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกนะที่เป็นแบบนี้ เรื่องแบบนี้ต้องโทษที่พ่อแม่นายอาจจะทำงานจนลืมสั่งสอนลูกของตะ…อื้อ!!” ไม่ทันจะได้พูดต่อจนจบประโยคร่างสูงก็ถลาเข้ามาทาบทับร่างฉันเอาไว้ทั้งตัวก่อนริมฝีปากหนาจะครอบงำปากบางที่เย็นเฉียบของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ฉันต้องดิ้นพล่านเพราะความตกใจสุดขีด กับการกระทำที่แสนจะป่าเถื่อนของคนตรงหน้า
“แล้วเธอจะได้รู้ ว่าการปากดีกับคนอย่างฉัน มันจะจุดจบยังไง” จบประโยคที่แสนเลือดเย็นร่างสูงก็ครอบงำริมฝีปากของฉันอีกครั้ง จนฉันต้องหวีดเสียงร้องพลางพยายามดิ้นเอาตัวให้รอดพ้นจากเงื้อมมือปีศาจร้ายอย่างเขา
“ปล่อยนะ…อื้อ!” ไม่เป็นผลเลยที่ฉันจะมาทำปากเก่งในห้องของเขาแบบนี้ น่าสมเพชที่ฉันจะต้องตกเป็นเหยื่อในเกมส์ของเขาเพราะคำพูดที่ปากเก่งของตัวเอง ไม่มีอะไรจะน่าสมเพชไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ทว่าไม่ทันไรร่างของแซนไทน์ก็ค่อยๆ ผละออกไปจากตัวฉันก่อนที่เขาจะค่อยๆ ล้มลงอีกฟากหนึ่งของเตียง
ยานอนหลับที่เขากะจะหลอกให้ฉันดื่มไปพร้อมกับน้ำเมาแก้วนั้น…ออกฤทธิ์แล้วสินะ
ลาก่อนแซน...สักวันฉันจะกลับมา
