บท
ตั้งค่า

บทที่5

กลับมาทำให้นายต้องเจ็บปวดเจียนตาย!!

อย่าได้สงสัยไปเลยว่าฉันหายไปไหน

เพราะนับจากวันนี้นายจะไม่มีวันได้เห็นหน้าคนอย่างฉันอีกต่อไป

ฉันกำลังจะเล่นเกมส์กับนาย

จนกว่าจะพบกันใหม่ ฉันขอให้มีชีวิตอย่างไร้ซึ่งความสุข

หลังจากทิ้งจดหมายเอาไว้ฉันก็เดินหอบเอาความเจ็บปวดที่มีลงมาจากคอนโดของแซนไทน์ในทันที พอกันทีสำหรับความรัก นับจากวันนี้ฉันจะไม่ขอเชื่อใจใครแล้วนอกจากตัวเอง

พอกันที!

เสียงบางอย่างที่ดังขึ้นขัดจังหวะดราม่าของตัวเองมันทำให้ฉันต้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะมองไปข้างถังขยะริมทางอย่างสงสัย ไม่นานก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับผ้าสีขาวที่ห่อหุ้มทารกน้อยเอาไว้

เด็กอย่างงั้นเหรอ…

ใครกันนะที่ใจร้ายถึงขนาดทิ้งลูกของตัวเองไว้ที่กองขยะที่น่าโสมมพวกนี้

ฉันคิด ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ถังขยะพลางรีบอุ้มทารกน้อยขึ้นมาไว้แนบอก พร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้หยาดฝนที่โปรยปรายทำให้เด็กต้องเปียกปอนไปมากกว่านี้

“เด็กผู้ชายซะด้วย” ฉันพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปปัดคราบสกปรกออกจากตัวเด็กน้อยที่น่าสงสารตรงหน้าอย่างเบามือพร้อมทั้งหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาเช็ดไรผมที่เปียกเล็กน้อยให้เจ้าตัวเล็ก

“เราสองคนถูกทิ้งวันเดียวกันเลยนะเจ้าหนู ไปอยู่กับฉันเอาไหม” ไม่มีคำพูดใดๆ อีกนอกจากความเงียบ ไม่มีซึ่งเสียงร้องไห้งอแง มีเพียงแววตาเปล่งประกายอย่างสดใสส่งกลับมาให้ฉันเท่านั้น และนั่นก็มากพอที่จะทำให้ฉันยิ้มออกก่อนจะกระชับเด็กน้อยที่อยู่ในวงแขนนี่แน่นขึ้นกว่าเดิม

“ไปอยู่ด้วยกันนะ…เนเวอร์” ต่อจากนี้ไปฉันจะเป็นแม่ให้กับหนูเอง

เช้าวันใหม่ที่กดดันเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อฉันค้นพบว่าจากที่ตัวเองเคยนอนอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แต่ตอนนี้กลับกำลังนอนขดตัวอยู่บนเตียงสีขาว ที่ก่อนหน้านี้เคยมีร่างของผู้ชายสองคนแต่ต่างวัยนอนอยู่

เมื่อคืนกว่าจะได้หลับสาบานได้เลยว่าฉันทะเลาะกับแซนไทน์ถึงครึ่งชั่วโมงเต็ม โดยหัวข้อของเรื่องก็มาจากฉันที่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับเขา แต่ไหงฉันถึงได้มานอนบนเตียงนี้ได้กันนะ

“ไหม้แล้วๆ รีบกลับด้านเร็วเข้าสิครับ!” เสียงตะโกนของเวเนอร์ทำเอาฉันตกใจจนต้องรีบลุกพรวดพราดลงจากเตียงวิ่งไปที่ต้นตอของเสียงที่ดังขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นบริเวณห้องครัว จนไปพบกับสองพ่อลูกที่ตอนนี้กำลังยืนเกาหัวกันอยู่สองคนมองควันที่พุ่งออกมาจากกะทะ

“ทำอะไรน่ะเนเวอร์ ทำไมหน้าตามันถึงได้มอมแมมแบบนี้” ฉันตะโกนลั่นด้วยความตกใจก่อนจะคว้าตัวลูกชายสุดที่รักมาใกล้ตัวพร้อมหยิบทิชชูที่วางอยู่มาเช็ดคราบดำๆ ออกไปให้พ้นหน้าลูกรักอย่างเบามือสายตาจ้องมองใครอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลอย่างคาดโทษ

“เพราะแม่นั่นแหละไม่ยอมตื่นสักที ผมหิวก็เลยปลุกคุณพ่อมาทอดไข่ให้ แต่เราสองคนทอดไม่เป็น มันก็เลย…”

“ทีหลังอย่ามาเล่นกับไฟอีกรู้ไหมเรายังเด็กมันอันตราย”

หน้ามอมแมมจ๋อยสนิททันทีที่ฉันว่าปราม แต่นั่นเพราะความห่วงใยต่างหาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าถ้าเด็กคนนี้เป็นอะไรขึ้นมาฉันจะหายใจอยู่ต่อไปได้ยังไง

“อย่าไปดุลูกแบบนั้นสิ” แซนไทน์ว่าแล้วดึงแขนเนเวอร์เข้าไปกอด พลางหยิบกระดาษทิชชูในมือฉันไปเช็ดให้เจ้าตัวเล็กแทน

“ยอมรับแล้วรึไงถึงได้กล้าเรียกแกแบบนั้น”

“คงงั้นล่ะมั้ง…”

คำตอบที่เย็นชาที่ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเกลียดคนตรงหน้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว นิสัยเย็นชาแบบนี้เมื่อไหร่จะแก้หายสักที

“เดี๋ยวก่อนครับ ผมยังไม่ได้หอมแก้มอรุณสวัสดิ์กับแม่เลย” เนเวอร์โพล่งขึ้นเหมือนเพิ่งนึกบางสิ่งที่สำคัญขึ้นมาได้ พร้อมดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมกอดของแซนไทน์จนเขาต้องยอมปล่อยเจ้าตัวน้อยลงพื้น

จุ๊บ!!

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่ ขอวันนี้เป็นอีกวันที่มีความสุขนะครับ”

“เช่นกันค่ะลูกรัก” ฉันพูดตอบก่อนจะหอมแก้มเวเนอร์ฟอดใหญ่เพราะความดีใจที่เขายังจำกฏเหล็กของเราสองคนได้

“พ่อมาหอมอรุณสวัสดิ์กับพวกเราสิฮะ” คำชวนของเนเวอร์ทำฉันแทบบ้า แต่ดูสิ่งที่หมอนั่นกำลังทำสิ ยิ้มอย่างงั้นเหรอ กล้ามากเลยนะที่มายิ้มเยาะฉันแบบนี้!

จุ๊บ!

“อรุณสวัสดิ์ครับเนเวอร์ พ่อดีใจมากที่ได้เจอหนูกับแม่อีกครั้ง” คำกล่าวนั้นทำฉันตัวชาไปทั่วร่าง อาจจะเป็นเพราะสายตาสีดำคู่นั้นที่กำลังจ้องมองตรงมาที่ฉันอยู่ก็ได้ สายตาของเขาในตอนนี้ มันไม่ได้มีอาการเหมือนเมื่อสี่ปีก่อนเลยสักนิด ไม่มีเลย!

“ขยับเข้ามาใกล้ๆ สิ อยู่ไกลกันแบบนั้นฉันจะหอมได้ยังไง”

“งั้นผมไปรอในห้องน้ำนะครับ พ่อรีบตามไปนะครับ”

ให้ตาย เนเวอร์ไปโน่นแล้ว! ฉันได้แต่มองตามหลังเจ้าลูกชายตัวแสบ ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีตัวเองก็ถูกกระชากให้ร่างเล็กๆ ต้องปลิวไปกระแทกกับแผงอกกว้างของแซนไทน์

“แต่กับแม่ของลูกคนนี้…แค่หอมแก้มเห็นทีคงไม่พอล่ะมั้ง”

“นี่นายจะทำ…อื้อ!”

คำพูดมากมายที่กำลังจะเอ่ยถามถูกกลบไปทันทีที่ริมฝีปากฉันถูกครอบงำโดยร่างสูง มือหนาเอื้อมมือกอดกระชับให้ร่างของเราแนบชิดกันยิ่งขึ้นก่อนรสจูบที่ฉันไม่มีวันลืมจะลึกล้ำเข้ามาใกล้เขตหวงห้ามของหัวใจฉันมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่เคยลืมเรื่องที่เขาทำเอาไว้เลยแม้แต่วินาทีเดียว และก็ไม่เคยลืมจูบที่ทำให้หัวใจฉันเต้นรัวเร็วแบบที่กำลังเป็นอยู่นี้ได้เหมือนกัน

“ฉันหาเธอเจอจนได้ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกเป็นอันขาด!” คำพูดของสุดท้ายของแซนไทน์ มันไม่ได้ช่วยให้ฉันสามารถลืมเรื่องที่เขาเคยทำกับฉันเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อย

ฉันก็แค่อยากจะทำให้เขาสัมผัสความเจ็บปวดที่ฉันเคยได้รับบ้างมันก็เท่านั้นเอง ฉันจะไม่มีวันกลับไปรักคนใจร้ายอย่างนายอีกครั้ง

นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันจะขอลองเสี่ยงบังคับหัวใจของตัวเอง!

“แม่ครับ! พ่อไปไหนแล้ว” คำถามของเวเนอร์ที่ดังขึ้นทำให้ฉันสลัดความคิดมากมายในหัวให้หลุดพ้น ก่อนจะก้มลงมองลูกชายแสนรักที่กำลังเดินขนาบข้างด้วยรอยยิ้มที่บางเบา

“ไปทำงานจ้ะ”

“ทำงานที่ไหนเหรอครับ ที่เดียวกับแม่รึเปล่า” ฉันส่ายหน้าไปมาให้เนเวอร์ก่อนจะเดินกุมมือลูกสุดที่รักไปตามท้องถนนอย่างเรื่อยเปื่อย น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่เวเนอร์เรียกฉันว่าแม่ แต่กับใครอีกคนเขากลับเรียกว่าแด๊ดดี๊ มันจะมีเหตุผลรึเปล่านะที่เขาเลือกที่จะเรียกพวกเราแบบนี้

“วันนี้ก็ตั้งใจเรียนนะครับเด็กดี เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะมารับ”

“แล้วผมจะรอนะครับ” มือน้อยๆ โบกมืออำลาฉัน นั่นทำให้ฉันเริ่มมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก คิดไม่ออกเลยว่าถ้าวันนั้นฉันไม่ได้เจอเนเวอร์จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตของเด็กมหา’ลัยปีสามที่ต้องหยุดการเรียนมาเลี้ยงเด็กที่ถูกทิ้ง

ฉันคิดเสมอว่าเนเวอร์คือคำอวยพรที่พระเจ้ามอบให้กับฉัน ไม่ว่าจะต้องทำงานหนักแค่ไหนฉันก็ยังมีความหวังว่าเขาคงจะอยู่กับฉันตลอดไปฉันไม่ยอมให้พระเจ้ามาพรากเขาไปจากฉันแน่ๆ

สามขวบกับอีกเก้าเดือน

เหลือเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น ที่ฉันจะทำให้ความฝันของเวเนอร์เป็นความจริงให้ได้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel