บทที่ 5
“ผู้หญิงบนป้ายโฆษณานั่น สวยดีอ่ะ”
“คนไหน” ปลายฝันพลอยชะเง้อมองหาตามไปอีกคน
“คนบนป้ายบิลบอร์ดใหญ่ๆ นั่นไง”
“อ้อ…ไม่ให้สวยได้ยังไง ก็เจ้าหล่อนเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้โรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องศัลยกรรมว่าเปลี่ยนทุกอย่างบนตัวได้หมด ไล่มาตั้งแต่หัวยันฮีเลยนะยะ” เอ่ยจบก็เบ้ปากใส่บิลบอร์ดที่ว่านั่นทันที
“หืม…หัวยันฮี” ธารบุษป์คิ้วขมวด เริ่มจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่าไหร่ ปลายฝันจึงเฉลยให้
“เออ…พูดหอหีบแล้วมันดูไม่สุภาพเลยเอาฮอนกฮูกตาโตแทน เป็นง่ะ แบ๊วมะ”
“ยัยบ้า แกนี่ก็สรรหาคำมาพูด แต่นางแบบคนนี้ฉันว่าหน้านางคุ้นๆ ว่ะ” พูดจบก็พยายามนึก หรือเธอจะผ่านตาจากหน้าจอโทรทัศน์
“เอ้า! นี่มองมาตั้งนานไม่รู้เหรอว่านั่นคือยัยลันลาเบล”
“ลันลาเบล!” ธารบุษป์อุทานชื่อที่ได้ยินออกมา นั่นเพราะชื่อนี้คือชื่อแสลงหู เป็นชื่อผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมความสวยน้อยๆ อย่างเธอค่อนข้างจะไม่ชอบ
“อดีตดาวโรงเรียนผู้แสนอ่อนหวาน น่าทะนุถนอมของรุ่นพี่ รุ่นน้องหรือแม้กระทั่งรุ่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เป็นไง นมนี่ใหญ่ทะลักล้ำหน้าไปแล้วนั่น”
“เปลี่ยนมาก” จังหวะที่พูดคำๆ นี้ รถก็ขับผ่านป้ายบิลบอร์ดอีกป้ายที่มีลันลาเบลเป็นพรีเซ็นเตอร์ ธารบุษป์จึงเพ่งมองเธอให้เต็มๆ ตา นี่ถ้าเดินสวนกัน เธอคงจำไม่ได้จริงๆ ใครจะไปคิดว่าลันลาเบลผู้แสนจะอ่อนหวาน เรียบร้อย จะมาไกลถึงขนาดนี้
“มาก” ปลายฝันเอ่ยรับ เธอว่าเธอมาไกลแล้ว หน้าตาตอนนี้กับตอนเรียนดูต่างกัน แต่ดูท่าจะแพ้ลันลาเบล
“อาจเพราะอาชีพนางด้วยมั้ง เลยต้องดูสวยตลอดเวลา” ทอมมี่ที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่เอ่ยขึ้น จะว่าไป เธอเองก็เป็นสาวมาดทอมที่เปลี่ยนไปกับเขาอยู่เหมือนกัน
“นางทำอาชีพอะไร แกรู้ก็เล่ามาทอมมี่”
“พริตตี้ นางเป็นพริตตี้เงินล้าน นางสวยและนางก็เลือกได้ เพิ่งแต่งงานกับปั๋วไปหยกๆ แต่ตอนนี้ประกาศหย่าไปเป็นที่เรียบร้อย” ปลายฝันตอบแทนทอมมี่ เพราะเคยเจอลันลาเบลตามงานบ่อยๆ เธอนะจำอีกฝ่ายได้ แต่ท่าทางลันลาเบลจะไม่ค่อยอยากรู้จักเพื่อนเก่าอย่างเธอสักเท่าไหร่
“หูย...แรง เอาลันลาเบลคนเก่าของฉันคืนมา”ธารบุษป์เอ่ยขึ้น นั่นเพราะสมัยเรียนลันลาเบลนี่คือไอดอลสายความใสๆ น่ารักๆ ใครๆ ก็ชอบ ไม่เว้นแม้แต่เธอ
“ลันลาเบลคนเก่าที่แกว่า ตายไปพร้อมมีดหมอแล้วมั้ง” น้ำเสียงของปลายฝันดูจะเคืองๆ จนธารบุษป์จับพิรุธได้ ทอมมี่ก็อีกคน
“เดี๋ยว แล้วแกโกรธอะไรลันลาเบลเปล่าเนี่ย ดูมีอารมณ์เวลาพูดถึง”
“เกลียดที่นางสวยกว่านี่แหละ นอกนั้นไม่มีอะไร”
“ขนาดไม่มีอะไร แต่อินเนอร์แกนี่มาเต็มเลยนะยะยัยฝัน” ธารบุษป์พอยิ้มออกมาได้บ้าง แม้จะมีเรื่องทุกข์ แต่อย่างน้อยๆ คนรอบข้างก็ไม่ทิ้งเธอ
“นิดนึงนะ นานๆ ฉันจะหมั่นไส้คน เพราะปกติก็หมั่นไส้ไอ้ทอมมี่คนเดียว” ไปๆ มาๆ ปลายฝันก็หันมาแขวะทอมมี่เข้าให้ จนธารบุษป์ที่นั่งฟังอยู่ต้องถามขึ้น
“แกนี่ก็แปลก หมั่นไส้เพื่อนสนิท”
“ก็มันจริงนี่ เกิดเป็นหญิงริจะเป็นชาย พูดครับพูดฮะ แล้วดูนางเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นทอมมี่ ประกาศให้โลกรู้ว่าพี่เป็นทอม หมั่นไส้”
“แล้วแกอ่ะ เกิดเป็นชายแต่ร่างกายและจิตใจอยากเป็นหญิง เปลี่ยนชื่อจากประภาสมาเป็นปลายฝัน ชื่อหวานเชียวนะ” ทอมมี่ได้ทีแขวะปลายฝันกลับบ้าง
“แหม...มันคนละประเด็นเหอะ ฉันน่ะรู้ตัวว่าเป็นกะเทยมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว แต่แกอ่ะเพิ่งตรัสรู้เมื่อปีก่อน หลังจากถูกผู้ชายหักอก แล้วแบบนี้แกคิดว่ามันจะเป็นทอมแท้เหรอ ไม่มีทางหรอก” ปลายฝันมั่นใจแบบนั้น เพราะทอมมี่อาจแค่ต้องการสร้างเกราะขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่อยากเจ็บเพราะรักที่ไม่สมหวังอีก
“ทอมแท้ครับ” ทอมมี่ได้ทีแย้ง ยิ่งทำให้ปลายฝันหมั่นไส้ในความมั่นใจนี้เหลือเกิน
“พอทั้งคู่เลย ว่าแต่แกเถอะฝัน เมื่อไหร่จะแปลงเพศ ทำนม ให้มันดูมๆ เหมือนของผู้หญิงเขาจริงๆ เสียที เห็นเก็บตังค์มาก็นานหลายปี ได้ครบยัง” ธารบุษป์เอ่ยถามโครงการอภิมหาใหญ่ของปลายฝัน เพราะการผ่าตัดแปลงเพศมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
“เหลืออีกนิดหน่อย แต่ต่อให้ฉันมีกระปู๋หรือยังไม่มีนม ฉันก็รู้ตัวย่ะ ว่าชอบอะไร เออ...จริงสิ” ปลายฝันเอ่ยหน้าตื่น นั่นเพราะคิดอะไรดีๆ ออกแล้ว
“จริงสิ จริงอะไร” น้ำเสียงของธารบุษป์ดังขึ้น เธอชักจะหวาดผวากับการอุทานของปลายฝันไปทุกที
“ฉันคิดวิธีเด็ดๆ ออกแล้วว่าจะทำยังไงให้แกหาเงินสิบล้านมาไถ่บ้านได้”
“ยังไง” ธารบุษป์คิ้วขมวดถาม ทอมมี่เองก็พลอยสงสัยไปด้วย ผิดแค่ว่าไม่ได้ถามออกไปเท่านั้นเอง
“แกต้องสวยระดับนางงาม สวยให้มากกว่าลันลาเบลด้วย”
“หูย…ให้คนขี้เหร่อย่างฉันสวยเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว” คนขี้เหร่ออกตัวดังเอี๊ยด นั่นเพราะมองทางไหนแผนของปลายฝันก็ต้องล่มแน่นอน คนขี้เหร่แบบเธอนี่เหรอจะสวยได้ในเวลาสามเดือน ไม่มีทาง
“ขี้เหร่ก็ทำให้สวยได้ ไม่เห็นยากเลย” ปลายฝันยักคิ้วให้ นั่นเพราะเธอมีความคิดดีๆ ผุดขึ้นมาในสมองเป็นที่เรียบร้อย
“นั่นแหละที่ยาก”
“ถ้าแกสวย แกจะมีหนทางหาเงินมาไถ่บ้านได้แน่นอน เชื่อฉัน” คนเจ้าแผนการเอ่ยอย่างมั่นใจ แต่ ธารบุษป์กลับไม่ค่อยเชื่อ ก่อนที่เธอจะเอ่ยอีกประโยค
“อย่าทำหน้างง เดี๋ยวตีนกาขึ้น”
“แกพูดน่ะง่าย แต่ทำมันยาก ใครจะเนรมิตให้ฉันสวยได้เร็วขนาดนั้น” คนพูดถอนหายใจออกมาหนักๆ ใช่ว่าจะไม่อยากสวยเสียเมื่อไหร่
“เออนะ สวยก่อน ค่อยมาว่ากัน ส่วนวิธีก็ง่ายจะตาย”
“แล้วฉันจะสวยยังไงเล่า ให้ไปจับผู้ชายล่ำๆ มากรีดเอาเลือดใส่อ่างแล้วให้ฉันลงไปแช่เหมือนในหนัง หรือดื่มเลือดสาวพรหมจรรย์งี้เหรอ บ้า!” คำพูดของธารบุษป์ทำเอาคนฟังขำก้าก ทอมมี่พลอยยิ้มไปด้วย และเลือกที่จะฟังอย่างเดียวตามเคย
