บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

คนไม่สวยยืนออกับมนุษย์กินเงินเดือนหรือชาวออฟฟิศคนอื่นๆ เพื่อรอสัญญาณไฟให้ข้ามถนน แต่ระหว่างนั้นเสียงข้อความไลน์ก็ดังขึ้นพร้อมๆ ระบบสั่น บ่งบอกว่ามีคนส่งข้อความหาเธอในเวลานี้ แต่เธอรอจนกระทั่งข้ามถนนเสร็จ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูข้อความ

“พ่อเหรอ” ธารบุษป์อุทานชื่อคนที่ส่งข้อความมาหาในเวลาเลิกงานเช่นนี้ สามข้อความคือจำนวนที่พ่อส่งมา มือเล็กๆ กดเปิดอ่านทันที

“พ่อจะไปบวชที่วัดป่า” คือข้อความแรก

“ไม่มีกำหนดสึก” คือข้อความที่สอง ส่วนข้อความที่สามคือรูปภาพของวัดป่าที่ว่านั่น ธารบุษป์อึ้งแล้วก็อึ้ง ก่อนจะรีบโทรศัพท์หาผู้เป็นพ่อ แต่ทว่า…

“โอ๊ย! จะปิดเครื่องทำไมเนี่ยพ่อจ๋า พ่อสุดที่รัก” ธารบุษป์บ่นพึมพำ จากที่จะนั่งรถไฟใต้ดินกลับบ้านมีอันต้องเปลี่ยนมาโบกแท็กซี่แทน

“ไปห้วยขวางพี่” เมื่อบอกพิกัดเสร็จ เธอก็ปิดประตูพร้อมๆ กับยังคงกดโทรศัพท์หาผู้เป็นพ่ออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เช่นเดิม

ในขณะที่เจ้าของรูปติดบัตรสองนิ้ว กำลังนั่งไขว่ห้าง จิบชาร้อนๆ รอคนนัด ที่วันนี้มาแปลก นัดเขาถึงในตัวเมือง นั่นทำให้รามิลเลือกที่จะใช้บริการรถไฟฟ้า เพราะรู้ว่าที่นี่หาที่จอดรถยากมาก หรือถ้ามีค่าที่จอดรถก็แพงหูฉี่

“เล็ก…มาถึงไวดีนี่เพื่อน” เสียงของดนัยดังขึ้น พร้อมกับโบกมือทักทายเพื่อนเก่า ตั้งแต่สมัยประถมที่ยังคบหามาจนถึงตอนนี้

“ข้ามันคนตรงเวลา ว่าแต่เอ็งนัดข้าไกลถึงที่นี่...มีอะไร” เสียงห้วนๆ ของชายหนุ่มที่ชื่อเล่นว่าเล็กดังขึ้น ชื่อที่ไม่ค่อยสมตัวสักเท่าไหร่ เพราะรามิลนั้นเป็นคนรูปร่างใหญ่ ตัวสูง 185 เซนติเมตร หน้าตาก็หล่อเป็นนายแบบหรือพระเอกได้สบายๆ แต่หลังๆ กลับชอบซ่อนใบหน้าหล่อๆ ไว้ภายใต้แว่นตา หรือไม่ก็หน้ากากอนามัย สงสัยติดมาจากที่ทำงาน

“ขอข้าดื่มน้ำแก้คอแห้งสักแก้วก่อนได้ไหมเพื่อน”

“เออ...ตามสบาย” รามิลเอ่ยรับ ดนัยหันไปสั่งน้ำกับพนักงาน ไม่นานน้ำที่สั่งไปก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ชายหนุ่มคงคอแห้งมากถึงดื่มรวดเดียวจนเกือบหมดแก้วแบบนี้

“ค่อยหายคอแห้งหน่อย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนดื่มน้ำเสร็จแล้ว รามิลก็ถามขึ้นอีกครั้ง

“ว่าไง สรุปจะบอกได้หรือยัง เอ็งมีอะไรแดน”

“นี่” เอ่ยจบ ดนัยก็ยื่นการ์ดสีชมพูให้คนตรงหน้า

“อะไร การ์ดสีชมพู อย่าบอกนะว่าเอ็งจะแต่งงานไอ้แดน”

“เออ”

“ไปทำลูกสาวบ้านไหนท้องล่ะเอ็ง ถึงต้องไปขอเขามาทำเมียแบบนี้” รามิลเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะรับการ์ดสีชมพูมาถือไว้

“เปล่าโว้ย เอ็งนี่ปากหมา น่าจะเป็นหมอหมามากกว่าหมอฟันจริงๆ”

“เออๆ ว่าแต่เอ็งแต่งกับคนไหนว่ะ” ที่ถาม เพราะดนัยเปลี่ยนแฟนบ่อยมาก มากเสียจนรามิลจำหน้าแฟนคนปัจจุบันของเพื่อนไม่ได้

“น้องพลอย ดาวคณะบริหารไง จำไม่ได้เหรอ”

“จำไม่ได้ว่ะ” คนถูกถามส่ายหน้า ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้ทีร่ายยาวถึงที่มาความรักครั้งนี้ของตนเองให้รามิลได้ฟัง

“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่า น้องพลอยคือรักแรกของข้า ตอนเรียนอยู่ ข้าไม่กล้าจีบ แต่พอตอนนี้เราได้กลับมาเจอกัน อะไรๆ มันก็ลงตัว ข้าเลยอยากแต่งงาน แม้มันจะเร็วไปหน่อยก็เถอะ แต่เอ็งเชื่อในพรหมลิขิตไหม เมื่อก่อนข้าไม่เชื่อแต่ตอนนี้ข้าเชื่อ เพราะเจอเองกับตัว เรื่องความรักบางทีระยะเวลาคบกันจะสั้นหรือยาวมันก็ไม่สำคัญ”

“หวานมาเลยนะเอ็ง ยังไงข้าก็ยินดีด้วยแล้วกัน” เรื่องความรักรามิลคงออกความคิดเห็นมากไม่ได้ นั่นเพราะตัวเขาเองก็ด้อยประสบการณ์ ตั้งแต่โตมา ผู้หญิงที่เขาพูดได้เต็มปากว่าเธอคือแฟน มีไม่กี่คนนักหรอก

แม้จะรักกันแค่ไหน สุดท้ายเขาก็ต้องอยู่คนเดียว นั่นเพราะเขาบ้างาน ไม่มีเวลาให้เธอ สวรรค์คงลงโทษให้อยู่เป็นโสดมาจนอายุจะสามสิบแบบนี้

“เอ็งอ่ะ ฟันคนมาก็เยอะ เมื่อไหร่จะแต่งงาน...หืม”

“พูดจาให้มันดีๆ หน่อย ข้าทำฟันไม่ได้ฟันใคร เดี๋ยวถีบ” พูดจบก็ยกเท้าพร้อมถีบคนตรงหน้า ดนัยเองก็รับมุกด้วยการแกล้งหลบ

“เออๆ ทำฟันคนมาก็เยอะ ลูกค้าสาวๆ สวยๆ ก็เพียบ ไม่ถูกใจเลยหรือไง”

“ข้าไม่จีบลูกค้าว่ะ เดี๋ยวเสียเครดิต”

“ไอ้นี่ เกิดมาหล่อเสียเปล่า ไม่ใช้ความหล่อ ความรวย ให้เป็นประโยชน์เอาเสียเลย” ดนัยส่ายหน้าให้คนหล่อแต่ไม่เอามาใช้ประโยชน์

“ว่าแต่เอ็งเป็นว่าที่เจ้าบ่าวประสาอะไร ไม่เอาการ์ดไปให้ข้าเอง กลับชวนข้ามาที่นี่” รามิลส่ายหน้าให้ เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติ ว่าที่เจ้าบ่าวต้องเอาการ์ดไปเชิญแขกถึงที่ไม่ใช่เหรอ

“ก็แค่อยากหาเรื่องให้เอ็งออกจากถ้ำก็เท่านั้นแหละ”

“ไอ้นี่ เสียเวลางานข้าจริงๆ”

“นานทีปีหนนะเอ็ง แล้วอีกอย่าง ข้าอยากคุยกับเอ็งตามประสาเพื่อนบ้างไม่ได้หรือไงครับคุณเล็ก” ดนัยเอ่ยล้อ รามิลส่ายหน้าให้อีกที

“หึ…มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ได้มั้ง”

“งั้นไปกัน ข้ามีร้านเด็ดแนะนำ รับรองแจ่ม” ว่าที่เจ้าบ่าวยักคิ้วให้

“เออ...งั้นวันนี้เอ็งเป็นเจ้าภาพแล้วกัน ตกลงตามนี้” รามิลมัดมือชกอย่างรวดเร็ว มีหรือที่ดนัยจะปฏิเสธได้ทัน แต่ระหว่างที่รอเช็คบิล รามิลก็ก้มๆ เงยๆ เหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง

“แล้วนั่นแกหาอะไรของเอ็งวะเล็ก”

“บัตรประจำตัวข้าหายไปว่ะ แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวข้าค่อยไปทำใหม่” ชายหนุ่มเอ่ยรวบรัด แต่คนฟังรู้ว่ามันไม่ใช่แค่บัตรประจำตัวของเพื่อนเท่านั้นที่หาย

“บัตรหาย งั้นก็แสดงว่าคีย์การ์ดเข้าห้องที่คอนโดเอ็งก็หายด้วยนะสิ”

“เออ...จริงด้วย” รามิลเพิ่งตระหนัก ชายหนุ่มหัวเสียเล็กๆ แต่มันหายไปแล้ว จะทำไงได้

“งานเข้าแล้วไหมเอ็ง บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเอาคีย์การ์ดไปเสียบไว้หลังบัตรทำงาน” ดนัยได้ทีจึงเหน็บเพื่อนไปเล็กๆ นั่นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รามิลทำบัตรประจำตัวหายไปพร้อมกับคีย์การ์ดคอนโดมิเนียม

“ก็มันสะดวกดีนี่หว่า”

“ทำไงล่ะทีนี้”

“คงต้องไปขอการ์ดสำรองที่สำนักงาน” แค่พูดถึงสำนักงานคอนโดมิเนียม รามิลก็แอบขนลุก ส่วนดนัยนั้นคล้ายจะรู้ทัน

“ระวังถูกมนุษย์ป้าวัยใกล้หมดประจำเดือนลวนลามเป็นค่าเสียเวลานะเอ็ง”

“เอ็งพูดซะข้าขนลุก งั้นกินข้าวเสร็จไปส่งข้าด้วย แล้วเอ็งก็ต้องไปเอาการ์ดสำรองเป็นเพื่อนข้า ตกลงนะไอ้แดน”

“เฮ้ย! ทำไมงั้นล่ะ” ดนัยแย้งไม่ทันเสียแล้ว รามิลหัวเราะชอบใจ นั่นเพราะดูเหมือนเจ้าหน้าที่ของคอนโดมิเนียมจะชื่นชอบดนัยมากกว่าเขาเป็นไหนๆ เห็นดนัยทีไร เป็นต้องยิ้มหวานให้เสียทุกทีไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel