บท
ตั้งค่า

เขาคือใคร? 2

ร่างสูงสง่ามาดแมนลงจากรถยนต์ ก่อนจะเดินมาเปิดประตูฝั่งของวันสุข หวังให้เธอนั้นลงจากรถ ทว่ากลับไร้การเคลื่อนไหวของเธอ วันสุขยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจ และเธอกำลังท้าทายอารมณ์ของกวินให้เดือดพล่าน

“ลงมา” น้ำเสียงเย็นชาสั่งการ ทว่าวันสุขยังคงเธอเมินเฉยไม่ใส่ใจ

“ว้าย!!! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า” วันสุขหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อร่างกายของเธอลอยละลิ่วก่อนจะพาดบนบ่าแกร่งของเขา เธอดิ้นรนพลางทุบตีแผ่นหลังหนานั้นด้วยความรุนแรง

“มีแรงก็ทุบไป พอถึงเตียงผมจะทำให้คุณหยุดเอง” ประโยคพูดที่ได้ยินทำเอาวันสุขแทบหยุดหายใจ กลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ ในใจนึกถึงผู้เป็นพ่อ ภาวนาขอให้ครอบครัวของเธอตามมาช่วยเหลือ

ร่างกายบอบบางที่อยู่บนบ่าหนาแกร่งโอนเอนไปมาตามแรงเคลื่อนไหว น้ำตาของวันสุขเริ่มไหลรินด้วยความเศร้า เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เพราะเหตุใดกันแน่ ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุกับเรื่องราวที่เธอต้องพบเจอ เธอไม่เคยมีศัตรูที่ไหนมาก่อน เพียงสองเท้าเหยียบผืนดินประเทศบ้านเกิด ก็ดันมีเหตุให้เธอต้องประสบพบเจออย่างไร้เหตุผล

“วางฉันลงเดี๋ยวนี้นะ คนสกปรกอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉัน!”

“อย่ามาออกคำสั่งกับผม คุณไม่ได้มีฐานะสูงส่งขนาดที่จะสั่งผมได้ นับจากนี้ไปคุณก็แทบไม่ต่างจากนางบำเรอ”

คำหลังที่ออกจากปากคนแปลกหน้า ทำให้วันสุขนิ่งไปชั่วขณะ เธอหูฝาดไปใช่ไหม คุณหนูตระกูลมั่งคั่งอย่างเธอจะมาเป็นนางบำเรอได้อย่างไร?

ตุบ! ร่างอรชรของวันสุขถูกโยนลงเตียงอย่างไร้ความปรานี เธอกรูถอยหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อสายตาเฉี่ยวดุดันจดจ้องมองเธออย่างกับเสือร้ายที่กำลังโหยหาอาหาร

“หึ...เตรียมใจไว้เลย เพราะผมจะทำยิ่งกว่าแตะเนื้อต้องตัวอีก” รอยยิ้มร้ายมุมปาก ทำให้วันสุขนึกหวั่นกลัว เธอจ้องหน้าเขาตาไม่กะพริบ

วันสุขพยายามตั้งสติที่แทบเหลือน้อยนิด มองโดยรอบของห้อง ชั่วความคิดหนึ่งพลันนึกได้ บ้านหลังนี้ปกติจะมีลุงคนสวนเก่าแก่คอยดูแล ทว่าตั้งแต่ที่เธอเข้ามายังไม่เห็นแม้แต่เงาของลุงคนนั้น การตกแต่งภายในห้องก็เปลี่ยนไป เธอจำไม่ผิดแน่ว่านี่คือบ้านพักต่างจังหวัดที่พ่อของเธอเคยพามาก่อนจะไปเรียนต่างประเทศ เธอไม่ได้ความจำสั้นขนาดนั้น

“ต่อไปห้องนี้จะเป็นห้องส่วนตัวของคุณ ผมสั่งคนออกแบบตกแต่งใหม่ หวังว่าคุณจะพอใจ” เขาพูดหน้าตาย พร้อมกับขยับตัวไปนั่งลงข้างเธอ ใช้หลังมือสัมผัสลูบไล้ข้างแก้มของวันสุข

“อย่ามาลุ่มล่ามกับฉัน...ถึงบ้านของฉันแล้ว หมดหน้าที่ของนาย เสร็จแล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้” วันสุขปัดมือหนานั้นเต็มแรง หยัดตัวลุกยืนท่วมหัวคนแปลกหน้า จ้องตาเขม็ง ตวาดเสียงแข็งชี้นิ้วไปทางประตูขับไล่

“หน้าที่ของผมยังไม่หมดแค่นี้หรอก”

“พ่อฉันอยู่ไหนบอกมานะ ฉันจะไปหาพ่อของฉัน”

“คุณไม่มีทางได้เจอพ่อของคุณ”

“นายหมายความว่ายังไง...ก่อนหน้าฉันถามนายก็ไม่ตอบ พ่อแม่ฉันไปไหน!”

“...แม่ของคุณอยู่บ้านที่ราชบุรี ส่วนพ่อของคุณเขาจากไปตั้งแต่สี่เดือนก่อน” วันสุขนิ่งงันเหมือนถูกสาป เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน สี่เดือนก่อนเป็นช่วงที่เธอเรียนหนักมาก แทบไม่ได้โทรติดต่อกลับมาบ้านเลย ไม่มีใครส่งข่าวให้แก่เธอสักคน...ทำไม? เกิดคำถามในใจ

วันสุขเข่าทรุดแทบเป็นลม ร่างกายของเธอยังไม่ทันได้สัมผัสกับพื้นเตียง คนแปลกหน้าก็เข้ามารับตัวเธอไว้เสียก่อน น้ำตาของเธอไหลอาบสองแก้มอย่างอัตโนมัติ เธออยู่ภายใต้อ้อมแขนของเขาโดยไม่ปัดป้อง ความเสียใจถาโถมประเดประดัง เหมือนไฟกำลังสุมอกเธอให้มอดไหม้ สิ่งที่ได้ยินแทบไม่เชื่อหู พ่อของเธอจะเสียชีวิตได้อย่างไร ในเมื่อท่านดูแข็งแรงดีไม่มีทีท่าจะจากไปเร็วถึงเพียงนี้

“นายหลอกฉัน พ่อฉันจะตายได้ยังไง”

“ผมไม่เคยหลอกใคร”

“ไอ้คนโกหกหลอกลวง”

“ผมดูเป็นคนพูดหลอกลวงอย่างนั้นเหรอ...นับแต่วินาทีนี้ไป คุณต้องอยู่กับผมในฐานะภรรยา”

“!!!” วันสุขตกใจกับประโยคบอกเล่าที่ออกจากปากของเขา น้ำตาแห่งความเสียใจเหมือนหดหายไปทันทีเมื่อได้ยิน เธอจ้องมองหน้าเขาด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธ

“บ้านทุกหลัง ทรัพย์สินทุกอย่าง รวมทั้งธรุกิจทั้งหมดของตระกูลธาราพิพัฒน์ผมเป็นผู้ดูแลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”

เรื่องที่เขาพูดออกมาอย่างไม่อายปาก พ่อของเธอตาย เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาได้สิทธิ์ในทรัพย์สิน และธุรกิจของธาราพิพัฒน์มาด้วยวิธีใด เขาเป็นคนฆ่าพ่อของเธอ

วันสุขรู้สึกเสียใจกับการจากไปของพ่อบังเกิดเกล้า เธอต้องกล้ำกลืนความรู้สึกอย่างอดทน อยากจะร้องไห้โฮปลดปล่อยความเศร้าออกมา ทว่าไม่อาจจะกระทำต่อหน้าฆาตกรอย่างเขา ไม่อยากแสดงความอ่อนให้ศัตรูจับจุดอ่อน ได้แต่เก็บกลั้นความเสียใจเอาไว้ในก้นบึ้งของความรู้สึกเท่านั้น

“นายมันเลว!”

“ต่อให้คุณด่าผมแรงแค่ไหน สุดท้ายผมก็คือสามีของคุณ” เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้ฝ่ามือหนาลูบใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา น้ำเสียงที่ฟังแล้วชวนขนลุก เอื้อนเอ่ยอย่างเย็นชา ทว่ากลับไม่ได้ทำให้วันสุขนึกกลัว ตอนนี้เธอโกรธแค้น เกลียดชังที่เขาทำลายครอบครัวของเธอให้พังทลาย

“ฉันไม่ยอมรับฆาตกรอย่างนายเป็นสามีเด็ดขาด” วันสุขสะบัดหน้าหนีห่าง เธอรังเกียจจนแทบไม่อยากหายใจร่วมกับเขาด้วยซ้ำ “ฉันต้องหาทางไปจากที่นี่ให้ได้”

“มีปัญญาก็เชิญ”

“อย่ามาท้า ไอ้ฆาตกร!...อ๊ะ เจ็บ”

คำว่าแสลงหูทำให้ชายตรงหน้ากัดฟันแน่น เขาปรี่ประชิดตัวเธอด้วยความรวดเร็ว มือหนึ่งจับล็อกสองข้อมือเล็กรวบไว้ภายในมืออันแข็งแรง อีกมือบีบต้นคอของวันสุข ด้วยอารมณ์เดือดพล่าน คำที่เธอตราหน้าสร้างความขุ่นเคืองใจแก่เขาไม่น้อย

“อย่าปากดีให้มากถ้าไม่อยากตาย” เขาขู่เธอ จ้องหน้าวันสุขอย่างกับจะฆ่าเธอให้ตายคามือ

“ปะ ปล่อย...ฉะ ฉันเจ็บ” แรงมือที่กดเน้นหนัก ทำให้วันสุขแทบหายใจไม่ออก เธอพยายามเปล่งเสียงพูดด้วยความดิ้นรน แต่คนตัวใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าจะปล่อยเธอให้หลุดพ้น

“ตอนแรกฉันคิดว่าจะยังให้เธอเป็นอิสระ แต่ปากเธอมันหาเรื่องเอง!”

“ปะ ปล่อยฉัน...อื้อ”

เขาปล่อยมือจากคอของเธอ เอื้อมไปหยิบบางอย่างที่อยู่ในลิ้นชัก ก่อนจะยัดมันเข้าปากของวันสุขอย่างรวดเร็ว ใช้มือปิดปากเพื่อไม่ให้เธอคายทิ้ง วันสุขไม่ทันตั้งรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายกลืนสิ่งนั้นลงท้องไป เขาปล่อยเธอให้หลุดจากพันธนาการ ยืนกอดอกมองคนตัวเล็กนอนหอบเหนื่อยอยู่บนเตียงอย่างเย็นชา

“นะ นายให้ฉันกินอะไร?” วันสุขเอ่ยถาม

“เธอไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอกวันสุข ชีวิตที่เหลือของเธอนับจากนี้ไปเป็นของฉัน”

เพียงไม่กี่นาทีสรรพนามการเรียกขานก็เปลี่ยนไป การถูกตราหน้าว่าฆาตกรสร้างความเคืองใจแก่เขา เหมือนมีคนสาดน้ำมันราดลงกองไฟ ปลุกอารมณ์ร้ายของชายหนุ่ม ทั้งที่เขาพยายามเก็บกลั้นเอาไว้

วันสุขพยายามกระเสือกกระสนลงจากเตียง แต่แข้งขากลับอ่อนแรงลง เธอเกือบจะล้มฟุบแต่ร่างกายยังไม่ทันได้สัมผัสกับพื้น ก็ถูกคนแปลกหน้าที่พาเธอมารับตัวไว้ในอ้อมแขน การถูกสัมผัสจากเพศตรงข้าม ทำให้เธอรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง ร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ยิ่งเห็นใบหน้าเขายิ่งเหมือนปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้จัก

เธอเหมือนกระหายอยากให้เขาสัมผัสในส่วนที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมากกว่านี้ เลือดในกายพุ่งพล่านเรียกร้องบางอย่างมากกว่านี้

“นายเอาอะไรให้ฉันกิน” เธอถามด้วยน้ำเสียงหอบกระเส่า มือเรียวเล็กไม่อยู่สุขลากไล้ไปตามลำคอแกร่งของชายแปลกหน้า ทั้งที่ภายในใจพยายามต่อต้านแต่ร่างกายกลับสวนทาง

“หึ...เธอคิดว่าไงล่ะ” เขากระซิบข้างหูของเธอ จากนั้นก็อุ้มร่างอรชรวางลงบนเตียง

วันสุขเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เธอกลืนลงท้องมันคืออะไร เธอพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมา ทว่าร่างกายกลับไม่เป็นดั่งใจเอาเสียเลย เธอกำลังจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วยมือที่สั่นเทา เขามองเธอด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์

“ปากบอกไม่ยอม เธอถามร่างกายตัวเองหรือยัง?...ทนได้เหรอ?” เขากระแนะกระแหนเย้ยหยัน

“อย่ามาใกล้ฉัน” วันสุขร้องปราม เมื่อเขาเข้ามาใกล้ชิดเธอ

วันสุขได้แต่มองหน้าเขา แต่ไม่อาจหลบหนีเขาได้ ยิ่งเขาเข้าใกล้แนบชิดเท่าไหร่ ร่างกายของเธอก็ยิ่งร้อนเร่าไปทั้งตัว ในใจกรีดร้อง และพยายามเคลื่อนไหวมือเพื่อปัดป้อง ทว่าไม่อาจฝืนความต้องการในตอนนี้ได้เลย ร่างกายเหมือนสมยอมให้เขาจับต้องลูบไล้

บนร่างกายของเขาและเธอตอนนี้ไร้เสื้อผ้าปกปิด ร่างกายกำยำอย่างคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี มัดกล้ามแน่นสวยงามกำลังดี ปลุกปั่นอารมณ์ของวันสุขให้ลุกโชนจนเธอหอบหายใจกระเส่า

“สายตาเธอมันชัดเจน...อยากใช่ไหมล่ะ”

“ปะ เปล่า”

เสียงเย็นเอ่ยอย่างเยาะเย้ย วันสุขพยายามดึงสติตัวเองกลับคืน เธอคว้าผ้าห่มคลุมเรือนร่างขาวใสเอาไว้ด้วยมือที่สั่นเทิ้ม เขาดึงผ้าห่มที่คลุมกายออกอย่างไม่ไยดี จับพลิกตัวของวันสุขให้นอนหงายราบไปกับพื้นเตียงนุ่ม จากนั้นจึงคาบคร่อมแล้วตรึงสองข้อมือของเธอเหนือหัว

“ต่อไปเรียกฉันว่ากวิน และต้องเรียกชื่อนี้ทุกครั้งเวลาที่เธออยู่ใต้ร่างของฉัน” เขาออกคำสั่งทั้งที่เธอไม่อยากจะยอมรับ กวินโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ จดจ้องจนวันสุขรู้สึกหวั่น

กวินประกบริมฝีปากบดจูบอย่างดูดดื่ม วันสุขต่อต้านจนเขาควบคุมเธอให้อ้าปากรองรับเรียวลิ้นที่แสนซุกซน จูบแรกของหญิงสาวถูกเขาครอบครองด้วยความจำยอม กวินซุกไซร้ซอกคอของเธอ ลากไล้เรียวลิ้นขยับลงต่ำเรื่อย ๆ จนถึงเนินนุ่มนิ่ม ทุกการสัมผัสสร้างความรู้สึกแปลกใหม่แก่หญิงสาวแรกแย้ม กระตุ้นให้หัวใจของวันสุขเต้นแรงอย่างกับกลองมโหรี

เธอหลุดเสียงครางแล้วส่ายหน้าไปมา เมื่อเขาสอดนิ้วเข้าไปในเรือนร่างของเธอ ร่างกายกำยำของกวินเสียดสีกับเธอราวกับไม้ขีดไฟกลัดข้างกล่อง ประหนึ่งกำลังสุมร่างกายของเธอให้มอดไหม้ วันสุขเปล่งเสียงหวานเสนาะหู นั่นยิ่งปลุกปั่นความเป็นชายในตัวตนของเขาให้ลุกโชน

มือหนาเคล้นคลึงเนื้อนูนนิ่มอย่างหนักเน้น ใบหน้าของกวินเคลื่อนลง ครอบครองยอดอกที่เขาเฝ้ามองอยู่ ปากดูดดื่มยอดอกสีสวยราวกับมันมีน้ำนมอันแสนหวานให้เขาลิ้มรส

วันสุขเปล่งเสียงครางออกมา ความอิ่มเอมทำให้ร่างกายขับน้ำทิพย์ล้นทะลักจนชุ่มชื้นไปทั่วส่วนสงวนของเธอ กวินเบียดแกนกายความเป็นชายเข้าไปในกายของเธอ ความเจ็บปวดที่สัมผัสทำให้วันสุขกัดต้นแขนของเขาเต็มแรง เพื่อลดหลั่นความเจ็บให้ตัวเอง

“แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

“มันเจ็บ”

น้ำเสียงครางต่ำ ความสุขที่เสพสมจากร่างกายงดงาม ความผุดผ่องที่มองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าเธอสะอาดบริสุทธิ์ แม้จะยังไม่ได้จับต้อง กวินพอใจในเรือนร่างนี้ เขาอัดเพิ่มความแรงขับเข้าไปในร่างกายของเธออย่างกับพายุที่โหมกระหน่ำ จนวันสุขทนไม่ไหวต้องเปล่งเสียงอันเสนาะหูราวกับเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ กวินพอใจเสียงหวานนี้จนเผยยิ้มออกมาดั่งคนมีความสุข

“พอเถอะ อื้อ” วันสุขแทบจะทนไม่ไหวกับแรงที่เขากระแทกใส่ เธอดิ้นรน แต่เขาไม่ยอมผ่อนปรนลงเลยสักนิด

“เรียกชื่อฉันสิ” กวินแค่นเสียงรอดไรฟัน แต่วันสุขก็ยังไม่ยอมทำตามคำสั่ง ทำให้เขาออกแรงโถมกระหน่ำหนักกว่าเดิม เขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าเธอจะยอมเชื่อฟังและศิโรราบแก่เขา

“หยุดสักที...ฉันเจ็บ ขอร้องล่ะ”

“แค่เรียกกวินมันยากนักหรือไง...เรียกชื่อฉัน” เขาพยายามสุดขีดที่จะไม่ให้เขื่อนแตกก่อนที่จะได้ฟังในสิ่งที่ต้องการ ร่างกายของวันสุขสั่นคลอนไปตามแรงเคลื่อนไหว จนเธอแทบวิงเวียน

กวินยังแรงดีไม่มีตก เขาเร่งความแรงและเร็วจนแทบสุดใจ จนท้ายที่สุดวันสุขก็กรีดเสียงเรียกชื่อของเขาออกมา สร้างความพึงพอใจแก่กวินจนเขายกยิ้ม พร้อมกับปลดปล่อยเชื้อพันธุ์เข้าสู่ภายในกายของเธอ

ร่างกายกำยำทาบทับบนตัวของวันสุขด้วยอาการหอบเหนื่อย เขาฟุบหน้าลงตรงซอกคอระหงของเธอ แล้วขยับปากกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงหอบกระเส่า

“นับจากนี้ไปเธอคือภรรยาของฉันตลอดไป มีแค่ความตายเท่านั้นที่สามารถพรากเราสองคนได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel