มาเฟียสายเปย์ 2
บรรยากาศในห้องโถงตึงเครียด เหล่าเจ้าของธุรกิจไม่มีใครกล้าเอ่ยห้ามสักคน ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ยืนกุมมือแน่น เพราะพวกเขากลัวไม่มีลมหายใจบนโลกนี้อีก เพราะการหายไปของพวกเขา มันง่ายมากสำหรับกวิน
คนงานเข็นราวผ้าลากวันสุขไปยังห้องที่มีบอร์ดี้การ์ดนำทาง เขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันซวยอะไร ออกจากบ้านก้าวขาผิดข้างหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ลึกในใจเขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนี้ เพราะมีแฟนอยู่แล้วเป็นตัวเป็นตน การลากวันสุขทำไปเพราะกลัวตาย
น้ำตาของหญิงสาวเอ่อคลอ เธอพยายามฝืนแรงฉุดรั้ง ร้องเสียงลั่น ร่างกายสั่นเทาเพราะหวาดกลัว
“เดี๋ยว!” กวินตะโกนตามหลัง เมื่อวันสุขทิ้งห่างจากเขาราวสิบก้าว
เธอสะบัดมือจนหลุดแล้ววิ่งมายืนด้านหลังของกวินในระยะห่างเพียงหนึ่งก้าว เพราะสีหน้าของเขาตอนนี้เหมือนซาตานร้ายที่พร้อมใช้ความรุนแรงกับเธอ หรือไม่ก็อาจจะบีบคอเธอให้ตายได้
“ฉันยังไม่ได้สั่ง วิ่งกลับมาทำไม”
“ไม่นะ ฉันไม่เป็นเมียน้อยของเขา ฉันเป็นภรรยาของนายไปแล้ว” เธอออกปากยอมรับสถานะที่เคยปฏิเสธ
“ก่อนหน้านี้หนักแน่นว่าจะพยายามหาทางหนีไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงดูกลัวนักล่ะ” คำพูดของกวินทำให้วันสุขรู้สึกเสียหน้า เธออยากจิกหัวแล้วตบเขาให้สาแก่ใจ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเธออาจจะเจอหายนะมากกว่านี้อีก
“ถ้าไม่อยากไปเป็นเมียน้อยเขาก็จูบฉันสิ ยืนยันในความเป็นภรรยาของฉัน...อ้อนวอนขอให้ฉันรับเธอกลับมา แสดงให้ดูน่าสงสาร น่าเห็นใจเหมือนตอนที่บีบน้ำตาอย่างวันนั้น” คำสั่งของกวินทำให้วันสุขควันออกจากหู ความเกลียดลุกโชนในใจเธออีกครั้ง อยากจะฆ่าเขาให้ตายลงตรงนี้ แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวย เพราะเธอตกเป็นรอง
วันสุขกัดฟันกำมือแน่น ค่อย ๆ เดินมาตรงหน้าของเขา เขย่งเท้าแล้วจูบลงริมฝีปากของกวินตามที่เขาออกคำสั่ง ทุกคนในห้องโถงได้แต่จินตนาการภาพของชายหญิง ไม่กล้าเงยหน้ามองแม้แต่คนเดียว
ตอนนี้เธอไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัดของตระกูล การยอมจำนนเป็นเพียงหนทางเดียวที่ทำให้เธออยู่ที่นี่ต่อ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และปลอดภัยจากผู้ชายคนอื่น เพราะการที่เขาประกาศกร้าวยกเธอให้คนอื่นเหมือนสิ่งของ หากพวกเขาก้าวขาออกไปจากที่นี่คงพูดถึงเธออย่างสนุกปาก จากนายหญิงของมาเฟีย กลายไปเป็นเมียน้อยของคนงานในช็อปเสื้อผ้า
วันสุขตัดสินใจทิ้งศักดิ์ศรีลงชั่วคราว หากสบโอกาสเธอจะต้องหาทางเอาคืนเขาให้สาสม
“กวินคะ อย่ายกฉันไปเป็นเมียน้อยของเขาเลยนะ ฉันเป็นภรรยาของคุณแล้วทางพฤตินัย”
วันสุขละริมฝีปากจากการจูบ เงยหน้าสบตาแล้วพูดอ้อนวอน ท่าทางของเธอทำให้กวินนึกสนุก เขารู้สึกดีเมื่อเธอเรียกชื่อของเขาอย่างอ่อนหวาน
“คืนนี้ผมจะไปหาคุณตั้งแต่หัววัน” เขากระซิบข้างหูเธอ
คำพูดที่ทำให้เธอสะดุ้ง ขนลุกไปทั้งตัว อยากกรีดร้องใส่เขาให้แก้วหูแตกทั้งสองข้าง อยากข่วนหน้าเขาให้ยับ ตบหัวให้ทิ่มลงกับพื้นแข็ง แล้วจับโขกจนสาแก่ใจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะได้ผู้ชายชั่ว ๆ แบบนี้เป็นสามี
“คุณจะยินยอมผมไม่ขัดขืน จะปรนนิบัติผมด้วยความอ่อนหวานใช่ไหม?”
“ค่ะ ฉันจะไม่ดิ้นรนขัดขืน จะทำหน้าที่เป็นภรรยาที่เชื่อฟังสามี” วันสุขก้มหน้ามองพื้นแล้วตอบรับ เธอรู้สึกอายปากเหลือเกินที่ต้องพูดประโยคที่น่าขยะแขยงแบบนี้
“ผู้หญิงคนนี้กูขอคืนแล้วกัน...มึงกลับไปทำงานตัวเองเถอะ” กวินบอกกับคนที่เขาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งวันสุขด้วยสีหน้าเรียบตึง อีกทั้งยังเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกขาน เขาแอบมองหน้าวันสุขด้วยรอยยิ้มอ่อน แม้ลึกในใจจะอยากหัวเราะเสียงดัง ในท่าทางของเธอก็ตาม
คนงานร้านเสื้อผ้า เหมือนได้เกิดใหม่ เขาโล่งใจดั่งยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก รีบเดินกลับไปยืนจุดเดิม เขาแทบไม่กล้ามองหน้ากวินแม้เพียงเสี้ยวสายตา ยืนกุมมือก้มหน้ามองพื้นด้วยอาการหวาดกลัว
“ของที่ทุกร้านขนมาในวันนี้ ฉันจะเหมาไว้ทั้งหมด แต่ต้องหุบปากให้สนิทกับเรื่องที่เห็นและได้ยินในวันนี้ ถ้ามีใครเอาไปพูดต่อ ฉันจะทำให้มันไปเฝ้ายมบาล...แม็กจัดการเรื่องเงินให้พวกเขาด้วย”
“ครับ”
เขาบอกกับเหล่าเจ้าของร้าน เหมาสินค้าทั้งหมดเป็นการชดเชยค่าเสียเวลา และถือเป็นนัยของรางวัลที่ทำให้วันสุขพ่ายแพ้ยอมศิโรราบแก่เขา
