ขาอ่อนก่อนกินข้าว
วันสุขกลับขึ้นมาบนห้องนอนที่เหมือนกรงขัง หลังจากเหล่าเจ้าของร้านค้าออกไปจากห้องโถงใหญ่กลางบ้าน การถูกกวินไล่ต้อนทำให้เธออับอายและเสียหน้า จนแทบอยากมุดแผ่นดินหนี ตอนนี้เธอแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีลูกสาวตระกูลใหญ่ ไม่ต่างไปจากทาสหรือของเล่นคนรวย
เธอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานแล้วเกลือกกลิ้งไปมาอย่างคนไม่มีอะไรจะทำ หนังสือในชั้นก็อ่านจนไม่รู้จะอ่านเล่มไหน เพราะเธออ่านจนหมดทุกเล่มแล้ว
เสียงเปิดประตูทำให้วันสุขหันไปมอง ป้านางเดินเข้ามาพร้อมกับสิ่งของมากมายที่กำลังให้คนขนเข้ามา เธอรีบลุกนั่งวางตัวใหม่ให้เรียบร้อย
“คุณกวินบอกให้เอามาให้คุณค่ะ”
“อวดรวย” เธอพูดค่อนขอดแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิน
“เย็นนี้คุณลงไปทานข้าวที่ห้องอาหารนะคะ คุณกวินอยู่ทานข้าวด้วย”
“หนูจะไม่ทำตามคำสั่ง่ของเขาหรอก ป้ายกอาหารมาให้หนูบนห้องเหมือนเดิมเถอะค่ะ”
“อย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ ป้าเป็นห่วงกลัวว่าคุณจะถูกลงโทษอีก แม้คุณเขาจะดูเป็นคนดี แต่ถ้าได้พูดคือทำจริงนะคะ”
คำเตือนของป้านางเธอเข้าใจดี สีหน้าของป้าสะท้อนความรู้สึกได้มากกว่าคำพูดเสียอีก
“หาความดีไม่มีสักนิดแบบนั้นป้าเรียกคนดีได้ยังไงคะ ดูที่เขาทำกับหนูสิ...หนูเกลียดเขาค่ะป้า เกลียดจนเข้ากระดูกดำ วันนี้เขาทำกับหนูแบบไหนป้าก็น่าจะรู้ เขาหยามเกียรติหยามศักดิ์ศรีของหนูแค่ไหน กล้าพูดได้ไงว่ายกหนูให้คนอื่นง่ายดายแบบนั้น” วันสุขเดือนดาลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปไม่นาน
“ป้าเข้าใจคุณนะคะ แต่การที่คุณต่อต้านยิ่งจะทำให้คุณเจ็บตัว...ลงไปทานข้าวข้างล่างตามที่คุณกวินสั่งเถอะค่ะ แค่ทานข้าวแป๊บเดียวเอง” ป้านางพยายามตะล่อม เพราะสงสารหากเธอต้องถูกลงโทษเหมือนอย่างวันนั้น ที่ต้องกลายเป็นเป้ายิงปืน
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างละเหี่ยใจ เมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากคนใจร้ายนี้เสียที
“ไปก็ไป” หวนคิดตามคำเตือนของป้านาง สุดท้ายก็ต้องจำใจยอมทำตาม
วันสุขเดินจากมาจากชั้นสองพร้อมกับหญิงมีอายุ เธอหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ ยิ่งเห็นหน้าของกวินยิ่งปลุกเกลียดชังให้ลุกโชน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“เพราะฉันไม่อยากกินข้าวร่วมโต๊ะกับคนที่ฉันเกลียด” เธอโพล่งคำพูดกระด้างออกมา
“คุณวันสุข” คำพูดที่ไม่น่าฟัง จนป้านางสะกิดมือเธอเพื่อเตือนสติ
“เกลียดขนาดนั้น แล้วทำไมไม่ไปกับไอ้นั่นล่ะ”
“เพราะนายคือคนเดียวที่รู้ว่าแม่ของฉันอยู่ที่ไหน ฉันเลยจำใจต้องอยู่ที่นี่”
“แค่นั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“บางทีเธออาจอยากอยู่กับฉันโดยไม่รู้ตัวก็ได้วันสุข มีผู้หญิงที่ไหนบ้างไม่ต้องการชีวิตที่สุขสบาย ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องคิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ”
“ผู้หญิงแบบฉันนี่แหละ ฉันเกลียดนาย ฉันไม่อยากได้ของพรรค์นั้น นอกจากอยากให้นายหายไปจากโลกนี้ ฉันไม่อยากหายใจร่วมกับนาย นายมันน่าขยะแขยง” เหมือนคำเตือนของป้านางจะไม่เป็นผล เธอลั่นวาจาด่าหยาบมากมาย ในใจอยากมีเหล็กแหลมแทงเขาให้ตายลงตอนนี้ แต่ก็ได้แค่มโนเท่านั้น
“เกินไปแล้ววันสุข เอาล่ะวันนี้ฉันไม่อยากทะเลาะด้วย...เลิกเถียงแล้วเก็บปากไว้กินข้าวเถอะจะได้มีแรงส่งเสียงบนเตียงคืนนี้”
“ฉันไม่กิน”
“หรืออยากกินอย่างอื่นแทนข้าว” น้ำเสียงของเขาเริ่มโมโห
กวินเอียงคอมอง แล้วปรายสายตาไปยังจานอาหารที่มากมายหลายเมนูบนโต๊ะตัวยาว วันสุขรู้สึกได้ทันที สายตาที่เขามองเธอแอบซ่อนการข่มขู่ และคนเช่นเขาพูดแล้วทำได้จริงจนเธอหวั่นกลัว
“ขู่เก่งขนาดนี้ไม่เกิดเป็นหมาให้จบไป” เธอก้มหน้าตักข้าวเข้าปากแล้วแอบบ่นยุบยิบ
กวินยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้กับเหล่าบริวารที่รอบริการ พวกเขาออกจากห้องอาหารในทันทีอย่างรู้งาน
“ปากดี!”
กวินเดินย่างสามขุมเข้ามาประชิด วันสุขสบตาแล้วกลืนเม็ดข้าวลงคออย่างลำบาก เธอคิดว่าเขาไม่ได้ยิน แต่ดันตรงกันข้าม เขาได้ยินมันทุกถ้อยคำที่เธอเอ่ย
กวินจับปลายคางของหญิงสาวยกเชิด แล้วประทับริมฝีปากสัมผัสกลีบปากสวยกระจับของวันสุข เม็ดข้าวที่เปื้อนขอบปากเหมือนกับเด็กน้อย ถูกกวินใช้ลิ้นตวัดเข้าปากตัวเองกลืนลงท้อง จากนั้นจึงรุกเน้นหนักบดจูบเธออย่างดูดดื่ม
วันสุขพยายามยกสองมือป้องกัน ทุบลงอกแกร่งของเขา ทว่าถูกเขารวบไขว้หลังเอาไว้ เธอไม่อาจจะต่อสู้ดิ้นรนให้หลุดพ้น เธอออกแรงเม้มปากแน่น ไม่ยอมให้ลิ้นของชายหนุ่มสอดแทรกเข้ามา แต่เหมือนไร้ผล เธอไม่อาจต้านทานแรงชายชาตรีของเขาได้
“ให้กินข้าวดี ๆ ไม่ชอบ อยากขาอ่อนก่อนกินข้าวก็ไม่บอก” กวินละริมฝีปากออกห่างแล้วพูดขึ้น
“ฉัน...อื้อ” ไม่ยอมให้เธอได้เอ่ยคำใด เขารีบปิดปากเธอด้วยปากของเขาทันที
ร่างบอบบางถูกอุ้มให้นอนราบบนโต๊ะอาหารที่เว้นว่าง สองแขนของหญิงสาวถูกรวบตึงเหนือหัว วันนี้กวินตั้งใจจะไม่ใช้กำลัง แต่เธอดันไม่เชื่อฟังและท้าทาย เขาจำเป็นต้องสั่งสอนเพื่อให้เธออยู่ในโอวาท แค่ผู้หญิงคนเดียวยังไม่สามารถควบคุมได้ เขาจะดูแลลูกน้องมากมายทั้งอาณาจักรได้อย่างไร
โต๊ะอาหารกลายเป็นสนามรบที่เร่าร้อน การเล้าโลมของกวินทำให้วันสุขไม่อาจต้านทาน รสจูบที่ดุดันปลุกปั่นอารมณ์ของเธอให้คล้อยตาม แรงต้านเริ่มอ้อนล้าเมื่อกวินนำพาเธอด้วยนิ้วสองขาอ้าออกกว้างตามสัดส่วนของชายหนุ่มที่ยืนแทรกตรงกลาง
กวินโอบรัดร่างกายของเธอให้แนบชิด เขานำพาเธอจูบแบบผู้ใหญ่ วันสุขเคลิบเคลิ้มการสัมผัสด้วยริมฝีปากอย่างลืมตัว จนเผลอครางเสียงหวานออกมา ทำให้กวินรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
เขาเริ่มหยอกเย้าเธอด้วยปลายลิ้นตรงซอกคอ วันสุขหลับตาพริ้มชวนให้ชายหนุ่มเสน่หา เห็นแบบนั้นกวินจึงยกยิ้มแล้วเอ่ยถามชิดหูเธอ
“มันรู้สึกดีใช่ไหม”
“มะ ไม่ดีเลยสักนิด พอแค่นี้เถอะ ที่นี่ห้องอาหาร คนผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ”
“พวกเขาไม่กล้าเข้ามาหรอก จะอายทำไม”
“ฉันไม่ได้หน้าหนาเหมือนนาย”
“งั้นก็ไปต่อบนห้อง!”
“ไม่!”
พูดจบโดยไม่ถามความเห็นฝ่ายตรงข้าม กวินก็อุ้มหญิงสาว เดินขึ้นบันไดในทันที วันสุขจะอ้าปากต่อต้าน แต่เขาดันเร็วกว่า ปิดปากเธอด้วยปากของเขาจนสนิทในขณะที่ก้าวเดิน
