บทนำ 2.2 - สงครามชี้ชะตาโอลิมปัส
ร่างเงาดำทมิฬพลางร่างปรากฏเลือนลางจนกระทั่งชัดเจน แววเนตรของเทพซูสหันไปยังร่างของผู้มาเยือน โดยมิได้เชื้อเชิญ และเทพีเฮร่าหันตามไปเช่นกัน เทพเฮดีส เทพผู้ครองนครแห่งความตาย เดินทางมายังหุบเขาโอลิมปัสด้วยตนเอง มีศึก ณ แห่งใด ย่อมมีคนตายและวิญญาณมากมาย ให้เขาเดินทางมารับได้ทุกคราไป...
“เฮดีส! เจ้าจะมาช่วยข้ารบกับพวกปีศาจพวกนั้นแล้วใช่มั๊ย? เหมือนครั้งก่อนที่เราสามพี่น้องร่วมมือกันกำจัดคราเคน และโครนอส!!!” ราวกับขวัญกำลังใจที่จะได้ร่วมแรงร่วมใจอีกครั้ง เทพซูสรู้สึกมีความหวังมากกว่าจะมีเทพีอเธน่าและเทพสงครามแอรีสอยู่ในศึกนี้
“โอ้... พระเชษฐา!!! ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่มารับวิญญาณผู้วายชนม์ในสนามรบครานี้ และข้ามั่นใจเลยว่าเกินครึ่งของวิญญาณต้องเป็นโอลิมปัสส่วนใหญ่แน่นอน” น้ำเสียงเย็นเยือกชวนหนาวพระอัฐิ เกริ่นออกมาราวกับรู้ว่เขาจะได้วิญญาณฝ่ายใดมากกว่ากัน ในหัตถ์ทมิฬสีทึบกำคราดประจำกาย เริ่มใช้อำนาจจำกัดวิญญาณชาวโอลิมปัสไว้ เพื่อนำทางผู้ตายเดินทางไปยังอีกฝั่งในโลกวิญญาณ
“ท่านช่วยข้าได้! ช่วยโอลิมปัสได้ อย่ากล่าวอะไรแบบนั้นเลยนะ ข้าขอร้องล่ะ” เทพซูสประสงค์ทัพเสริมมาช่วยอีกแรง พร้อมประสงค์ให้มีการรวมตัวสามพี่น้องกันอีกครั้ง เพื่อสู้ศึกรบกับปีศาจ
“โพไซดอนไม่มาร่วมปกป้องโอลิมปัส เห็นทีความเป็นพี่น้องเราจะจำกัดความ... แค่เหตุผลบางประการ” เทพเฮดีสกล่าวเชิงบอกลา รู้เพียงแค่ว่าศึกนี้ย่อมไม่เกี่ยวกับตัวเขาและโพไซดอน
“ข้าเชื่อว่า ถ้าหากเราสามพี่น้องร่วมมือกัน ย่อมปกป้องโอลิมปัสได้แน่ ร่วมรบกับข้าเถอะ เฮดีส!!!ได้โปรดเชื้อเชิญโพไซดอนมาช่วยเหลือข้าและโอลมิปัสก่อน” เทพซูสพยายามชักชวนเทพเฮดีสมาร่วมแต่ เขายังปฏิเสธเทพซูสเช่นเดิม
“ท่านพี่! ข้าไม่เห็นว่าโพไซดอนจะสนใจความอยู่รอดของโอลิมปัส ข้าเชื่อว่าโพไซดอนคงจะหลบอยู่ในอาณาจักรใต้น้ำให้ปลอดภัยก่อน” เทพเฮดีสไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับสงครามท้ารบจากองค์จักรพรรดิ์ปีศาจหมายรุกรานโอลิมปัสในครานี้
“เจ้าดึงวิญญาณของพวกปีศาจไปให้หมดเลยสิ! เจ้าทำได้นิ” เทพีเฮร่าออกความเห็นว่า จะได้กำชัยจากศึกนี้ได้โดยง่ายหากไร้ชีวิตของพวกปีศาจมากมายเหล่านั้น
“มิได้ พระเชษฐภิคินี! ในดินแดนแห่งความตาย เป็นพันธมิตรกับเหล่าปีศาจแห่งเฮเดน ทำให้มีสนธิสัญญาปรากฏว่า ข้ามิอาจรับวิญญาณปีศาจของพวกเขาได้... ปีศาจแห่งเฮเดนพิเศษยิ่งนัก หากเพียงล้มตายในการศึก พวกเขาจะได้รับการชุบชีวิตในสนามรบขึ้นมารบต่อไป หากไม่ได้รับอนุญาตให้ตาย!... ข้าไม่มีวันได้วิญญาณของปีศาจเฮเดน นอกจากวิญญาณศัตรูในสนามรบเท่านั้น” เทพเฮดีสกล่าวอธิบายให้ชัดเจนว่า การมาของเขาในวันนี้เพื่อมารับดวงวิญญาณวายชนม์ของชาวโอลิมปัสเท่านั้น!!!
เสียงกระหืดกระหอบหื่นกระหายใคร่อยากฆ่าฟัน กลิ่นอายความตายจากเหล่าปีศาจกำลังส่งสัญญาณออกมา ข่มขวัญเหล่าทวยเทพ สัมผัสรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัว จับเข้ากระดูกสันหลัง แม้พระพักตร์รูปงามจะนิ่งสงบเพียงใด หัวใจหวั่นไหวสั่นคลอนหวาดผวา จนแทบอยากจะละทิ้งศาสตราวุธในหัถต์ตน รีบเผ่นหนีราวเด็กน้อยหลบซ่อนล่วงหน้าไปก่อนแล้ว...
******
เวลาทำการศึกกำลังจะเริ่มในอีก...ไม่ช้า แสงตะวันลับขอบฟ้าแล้ว... หมาสามหัวพาหนะของเจ้าชายปีศาจรูปงาม เริ่มแหงนหน้าสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมพ่นไฟทั้งสามหัวพร้อมกัน ราวกับส่งสัญญาณออกรบบุกตีเมืองทวยเทพได้
พาหนะของเจ้าชายปีศาจ ยังคงหยุดยืนอยู่กับที่ ปล่อยให้ทัพปีศาจอันหิวโหย บุกตะลุยวิ่งฝ่าทุกสิ่งทุกอย่าง ความบ้าคลั่งโกลาหล เพื่อพยายามวิ่งฝ่าไปเบื้องหน้า เพื่อปีนขึ้นสู่หินผาสูง บุกเข้าเมืองแห่งทวยเทพ... แววพระเนตรสีทองแสนงามคู่นั้น ของเจ้าชายปีศาจนิ่งสงบ จรดจ้องฝ่ายตรงข้ามอย่างใจเย็น รอยยิ้มหวานเหยียดตรงบางเบา เฝ้ามองเป้าหมายเบื้องหน้าพระพักตร์ หาใช่เทพซูสและเทพีเฮร่าไม่
เจ้าชายปีศาจรูปงาม กำลังมองหาเทพีผู้ชาญฉลาด ผู้เคยถูกปราบเมื่อศึกที่แล้ว นางอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ตลอดเพลา ในศึกนี้พระองค์ยินดียิ่งนัก เมื่อค้นหานางพบอีกคราแล้ว...
“เกาทัณฑ์!!!” เทพีออกคำสั่งหวาน สุรเสียงกังวานใสทั่วหุบเขา เหล่าทวยเทพตระเตรียมอาวุธคู่กาย สู่หัตถ์ทั้งสองพร้อมยิงออกไป ทัพเกาทัณฑ์มากมายเรียงรายตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ เรียงแถวกระดานหลายสิบชั้น เพื่อง่างธนูเอพิรุส [6] สู่ทิศตะวันตก ทัพเกาทัณฑ์ชั้นกำแพง และภาคพื้นดินพร้อมยิงแล้ว ณ วินาทีนี้
“น้ำแข็งพิษ!!!” อีกคราที่มันมิใช่เกาทัณฑ์ธรรมดา ธนูทองคำเอพิรุสมากมาย พร้อมยิงเกาทัณฑ์ตามสั่งของเทพีในศึกนี้ ผู้รับบัญชาจากเทพีอเธน่า คือเทพีวีนัส [7] พรานสาวผู้แข็งแกร่ง นางคือแม่ทัพฝ่ายเกาทัณฑ์ ภายใต้คำสั่งรบของเทพีอเธน่า
“ยิง...!!!!” สุรเสียงก้องกังวานสนั่นเมือง พร้อมด้วยคำสั่งย้ำของเทพีวีนัสออกคำสั่งเหล่าทหารเกาทัณฑ์ทั้งหลายขานรับ เกาทัณฑ์ยิงออกไปมากมายไม่ต่างกับห่าฝนภาคพื้นดิน เป้าหมายคือไพร่พลปีศาจวิ่งเข้ามา หลั่งไหลราวกับเกลียวคลื่นบนบกทมิฬ อันเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวของเหล่าปีศาจผู้หิวโหย รูปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัว ชวนเขย่าขวัญจนอยากจะทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งหนี...
มีเพียงหน้าที่และความหาญกล้า จากเทพีอเธน่าผู้อยู่รบเคียงข้างพี่น้องโอลิมปัส... นางปักหลักไม่ถดถอย ยืนหยัดร่วมเป็นร่วมตายกับทหารทุกตน แม้ว่าจะมีเพียงเทพีไม่ถึงห้าพระองค์ร่วมรบในสนามนี้ โดยมีเทพสงครามแอรีสอยู่ไม่ห่าง เขาจะเป็นฝ่ายรับทัพบุกหน้าเมือง โดยมีโลหะโล่หนาแข็ง ป้องกันสุดกำลัง
ห่าพิรุณเกาทัณฑ์ยิงพุ่งทยานสู่ท้องฟ้า โน้มแรงถ่วงตกลงมาดั่งพิรุณสีเงินประกายหมอกเขียว แม้ไม่หวังเป้าหมายให้ถูกสักทีเดียว ด้วยแรงเหนียวจากเกาทัณฑ์เอพิรุส จะเสาะหาเป้าหมายเองไม่มีพลาด
เสียงร้องโอดครวญจากเหล่าปีศาจ ระหว่างเคลื่อนที่ดังระงม บ้างบางตนยังทนบาดเจ็บวิ่งต่อให้ถึงที่หมาย สองมือกำอาวุธแล้วยังคงพยายามปีนป่ายอย่างง่ายดาย ใกล้เป้าหมายพร้อมบุกเข้าเมืองโอลิมปัส
ทัพสีทองบนหินผาสูงใหญ่เตรียมพร้อม วัวเอพิศ [8] บรรจุน้ำมันกรีกอันร้อนแรง ถูกขนมายังเหนือกำแพงหุบเขาโอลิมปัส เพื่อเตรียมเผาผลาญปีศาจให้วอดวายสิ้น มันถูกขนมามากมายจากภายในเมือง ส่งต่อเนื่องตลอดเพลา เพียงเปิดช่องท้องน้ำมันกรีกเหลวร้อนดุจลาวา หลั่งไหลอาบร่างทมิฬ ทั้งร้อนทั้งดิ้น สลายกายสิ้นดั่งฝุ่นไม่เหลือผง หากร่างพวกมันยังคงอยู่... จะไร้ความเจ็บปวดใดๆ เพื่อต่อสู้สุดชีวิตจนสิ้นไร้รูปกาย
ด้วยพิษเกาทัณฑ์ทำงาน หลังจากเกาทัณฑ์น้ำแข็งละลายในร่างปีศาจ ทัพทมิฬมากมายล้มลงอ่อนแรง ลมหายใจรวยรินหมดสิ้นพิษสง เทพีผู้รู้จุดอ่อนในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม นางไม่อาจชะล้าใจปล่อยให้พวกมันเข้ามาในโอลิมปัสโดยง่าย
ทัพปีศาจล้มระเนระนาดมากเพียงใด ไม่นานนักกายพวกมันได้รับการเพิ่มพูนชีวิตให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดทั้งปวง ลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกโดยไม่รู้จักความเจ็บปวดใดๆ พวกมันกลับมาจากความตายในวินาทีเริ่มแรก พร้อมจะขยับร่างกายด้วยฝีเท้าหนัก วิ่งเข้าไปยังด่านหน้าหุบเขาโอลิมปัสต่อไปโดยไม่หมดความกล้า
สีพระพักตร์เทพซูสเริงร่า เมื่อพบว่าลูกครึ่งเทพีของพระองค์ ยังคงฉลาดการรบอยู่เสมอ เทพีเฮร่าเริ่มแย้มสรวลราวมีหวังว่าศึกนี้ได้กำชัย... ช่วงเพลาที่ฝ่ายโอลิมปัสยังคงปักหลักป้องกันเมืองในเพลานั้น... แม้จะหลงดีใจได้เพลาหนึ่ง แต่เมื่อพวกปีศาจลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง ราวกับการโจมตีเมื่อสักครู่เริ่มไม่ได้ผลอีกต่อไป
สีพระพักตร์ของเทพซูสกลับมามีหทัยวิตกหนักกว่าเดิม บรรดาลโทสะให้แก่เทพีเฮร่าอีกครา เมื่อการรบครั้งนี้ไม่ต่างจากทุกๆ คราที่เคยพ่าย... หรือครานี้จะถึงกาลโอลิมปัสพ่ายสูญมาตุภูมิรึ... เทพซูสไม่ประสงค์ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเลย
ทัพนภากาศเคลื่อนพลดุจพายุทมิฬ โจมตีทัพวาลคีรีประจำเมืองร่ายรำบนนภาแตกกระจาย เสียไพร่พลไปกว่าครึ่ง แม่ทัพใหญ่มิคาเอลถูกเพลิงมังกรพ่นไฟได้รับบาดเจ็บ ร่างกายถูกเผาจนไหม้ไปกว่าครึ่ง เห็นท่าไม่ดีจึงรีบล่าถอยหลบไป
ด้วยเพลิงร้ายจากไฟมังกรรุมกระหน่ำ ปีกขาวสะอาดทัพเทพมอดไหม้สลายกลายเป็นผง ความร้อนแรงที่มากกว่าลาวาใต้พิภพกระหน่ำลง ดุจดาวตกเพลิงร้อนแรงร่วงหล่นจากนภา สู่ภายในเมืองโอลิมปัสลุกไหม้
เพราะไม่มีอะไรป้องกันจากนภากาศ ไฟจากมังกรมากมายราวกับห่าพิรุณดุจอุกกาบาต โจมตีกระหน่ำจากท้องฟ้า โอลิมปัสกำลังจะถึงจุดวอดวาย จากเผ่าทัพมังกรสามัคคีเผาเมืองเหล่าทวยเทพ ซูสและเฮร่าคงต้องหาโอกาสเผ่นหนี เพื่อรักษาชีวีก่อนจะวอดวายเป็นแน่นอน... ไม่มีอะไรต้านเพลิงลาวาจากมังกรของปีศาจเฮเดนได้!
เทพีเฮร่าเห็นว่ามาตุภูมิจถูกเผาผลาญ หัถต์นางร่ายเวทย์บันดาลเกราะป้องกันเพลิงลาวาจากมังกร ต่างรุมกระหน่ำคลายเสลดมังกร ร้อนแรงดั่งเพลิงร่วงหล่นจากท้องฟ้า ไม่ต่างกับอุกกาบาตทั้งร้อนทั้งแรง ตกในเกราะป้องกันนครโอลิมปัสต่อเนื่อง เกราะเวทย์อาจต้านเพลิงมังกรได้ไม่นาน เพลานี้จึงต้องรีบต่อต้านทัพปีศาจให้ด่วนที่สุด ก่อนทัพโอลิมปัสจะแตกพ่ายเพราะการโจมตีอันหนักหน่วงจากทัพปีศาจแห่งเฮเดน
******
[6] ธนูเอพิรุส คันธนูโค้งสวยงาม ดั่งเขาวัวเอพิศสีทอง แข็งแกร่งไร้เส้นสายด้วยพลังเวทย์มนต์ ไม่จำเป็นต้องขึ้นสายขึงปลายเกาทัณฑ์ทั้งสองด้าน จึงทำให้การดึงสายธนู เสกเกาทัณฑ์ดังใจนึก ปรากฏในหัตถ์เกิดเป็นธนูชนิดใดก็ได้ดั่งใจปรารถนา
[7] เทพีวีนัส สตรีพรานสาวผู้เป็นฝาแฝดกับเทพอพอลโล่ บุตรีตนแรกของเทพซูสกับเทพีเฮร่า ผู้เข้าร่วมรบศึกนี้กับเทพีอเธน่าฝ่ายเกาทัณฑ์ นางมีเรือนเกศาสีทองคำบริสุทธิ์หยักศกยาวสลวย ถูกมวยเปียเก็บเรือนเกศามิให้กระเซิง เช่นเดียวกับเทพอพอลโล่ มีเนื้อวรกายงามขาวผุดผ่องดั่งน้ำนมบริสุทธิ์ ดวงเนตรสีทองเป็นประกาย เรือนร่างงามภายใต้ชุดเกราะอ่อน ทับด้วยเกราะแข็งพิเศษ นางต้องได้รับการดูแลอย่างดีในศึกนี้
[8] วัวเอพิศ คือวัวทองคำตัวใหญ่ สร้างด้วยทองคำเหลืองแข็งแรง ภายในเป็นโพรงใหญ่เพื่อใส่น้ำมักกรีก เผาด้วยความร้อนจนน้ำมันละลายไหลลื่น ความร้อนของมันแทบจะเผาผลาญละลายกายเนื้อของฝ่ายศัตรูให้ดับได้ในเวลาอันรวดเร็ว
