บทนำ 1.3 - ที่มาแห่งสงคราม
ภายในทรวงเทพีโฉมตรูงดงามกำลังอึดอัดอีกครา เตรียมตัวเจอกับศึกหนักหนา รู้อยู่เต็มทรวงแก่หทัยภายในลึกๆ ว่า กำชัยยากกว่าทุกครั้งเช่นเดิม ยิ่งไปกว่านั้น! นางยังมีความทรงจำกับทหารเอกฝ่ายจักรพรรดิ์ปีศาจได้ ทั้งดุดัน รบอย่างรวดเร็ว โหดร้าย น่าเกรงขาม นางยังจดจำปีศาจตนนั้นได้... เทพีอเธน่า ยังเคยประมือแล้วครั้งหนึ่ง นางไม่น่าจะรอดชีวิตมาจนถึงวันนี้ แต่ครั้งนั้น...
ปีศาจหน้าตาอัปลักษณ์น่ากลัวตัวนั้น ยั้งมือไม่ปลิดชีพนาง ด้วยเหตุอันใดที่ยังคลางแครงหทัยจนถึงทุกวันนี้ ปลายศาสตราวุธควรจะหั่นชีพนางให้ขาดสะบั้น ยุติบทบาทเทพีแห่งสติปัญญาและความฉลาด นางจะได้พ้นทุกข์จากการเป็นลูกครึ่งทวยเทพแห่งโอลิมปัสในครานั้นแล้ว... แต่กลับได้รับความเมตตาจากปีศาจแสนอัปลักษณ์ตนนั้น ยื่นมือหนาสีคล้ำน่ารังเกียจ เพื่อให้นางพยุงตัวขึ้นมาเสมอปีศาจตนนั้น
เทพีอเธน่าไม่กล้ากล่าวคำใด กับปีศาจแปลกหน้าตนนั้น ในป่าทึบรกร้างห่างไกลจากสงครามอันน่าสะพรึง ร่างของนางกับปีศาจทหารเอก กระเด็นกระดอนไกลออกจากศึกในครั้งก่อน มาตกในป่าทึบรกร้างแสนเงียบสงบ นางคิดว่าอาจจะต้องตายแล้วแท้ๆ แต่...สิ่งที่นางได้รับพึงปฏิบัติ ปีศาจตนนั้นกลับปลดปล่อยให้นางเป็นตัวของตัวเอง
“เลิกทำท่าประหัตประหารข้า เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่า ไม่ได้อยากรบ!!!” น้ำเสียงขึงขังแหบเข้ม ชวนฟังน่าสยดสยองบอกห้ามนางมิให้ทำการสู้ต่อ แม้ว่าเรือนวรกายนางในเพลานั้น ทั้งบาดเจ็บและชุดก็พัก ร่างของนางค่อนข้างเปลือยบางส่วนช่วงไหลกับเรือนหน้าท้อง ชุดสีขาวสะอาดเต็มไปด้วยฝุ่นตลบ กับเกราะพังบุบ บางจุดเสื่อมสลายเพราะพลังเวทย์ คละไปด้วยเศษโคลนปะปนไปทั่ว ร่างของนางเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกมากมาย แต่ก็ยังพร้อมจะสู้ต่อไปไม่ลดหย่อน เฉกเช่นบุรุษมิปาน
แต่เมื่อปีศาจทหารเอกตนนี้ ลุกขึ้นตั้งหลักบอกห้ามปรามนางให้หยุดรบ เทพีอเธน่ารู้สึกถึงความสัตย์จริงจากคำนั้น แฝงไปด้วยคำห้ามที่มิได้เกรงกลัวนาง เสมือนดั่งไม่อยากโต้ตอบสู้รบฆ่าฟันต่อกันเสียมากกว่า ความเป็นจริงแล้ว... นางหยุดเพราะปีศาจทหารเอกตนนั้น กล่าวถูกต้องตามความรู้สึกของนาง
ปีศาจอัปลักษณ์ตนนั้น มีทีท่าสบายๆ ราวกับเห็นเทพีอเธน่าเป็นมิตรมากกว่าจะรบต่อในสนาม เขาหันไปรอบๆ มองเห็นน้ำใสๆ ในบ่อเล็กไม่ไกลมาก จึงเดินไปคว้าใบไม้ใหญ่กว่ารูปร่างหนาของเขา มือหนาหักกิ่งเด็ดออกมา รวบเข้าหากันเพื่อรวมเป็นกรวยช้อนน้ำใสนั้นขึ้นมา มอบให้นางดื่มด่ำ เช็ดถูทำความสะอาดเสีย
ด้วยแววเนตรหวาดระแวง นางถอยพร้อมส่ายหน้า ยินดีคว้าหยิบคฑาที่แตกหัก สู้กับปีศาจทหารเอกของจักรพรรดิปีศาจต่อไป... รอยยิ้มกรีดหวานแทบน่าขนลุกขนพองฉีกกว้าง ปีศาจตนนั้นยกน้ำในใบไม้นั้นขึ้นดื่มให้หายกระหายน้ำ และพร้อมจะช้อนน้ำในบ่อเดิม ส่งให้นางเช่นเดิม...
“พักดื่มน้ำในบ่อหน่อยเถอะ คฑาเจ้าใช้การไม่ได้แล้ว!” น้ำเสียงเข้มขึงบอกให้นางฟังเขาบ้าง อย่างน้อยๆ นอกสงคราม ก็น่าจะหยุดพักสักหน่อย หลังจากรบแบบเต็มกำลัง ด้วยเหตุเรื่องสาระไม่เป็นเรื่องสาระ
ท่าทีของเทพีอเธน่าเปลี่ยนไป เมื่อเห็นปีศาจทหารเอกตนนี้ ยังคงปฏิบัติแก่นางด้วยความสุภาพ เทพีอเธน่าไม่รู้สึกสัมผัสถึงการฆ่าฟัน หรือความตายใดๆ กลับวางใจและรู้สึกถึงความเป็นมิตรมากกว่าเดิม... คฑาในมือลดผ่อนต่ำลง แววเนตรมองด้วยความระแวดระวัง แต่ก็ยังยื่นหัตถ์รับใบไม้อุ้มน้ำในมือปีศาจทหารเอกนั้นอย่างว่าง่าย นางยกกรวยใบไม้ขึ้นมาดื่มอย่างกระหายน้ำ ชำระล้างความร้อนและหิวโหยลดลงได้บ้าง
สายน้ำลดความร้อนระอุภายในกาย ความเย็นของมันทำให้ความดุดันของเทพีลดหย่อน เป็นภาพน่าประทับใจในป่าทึบนี้ มีเพียงปีศาจทหารเอกตนนี้ อาจจะโชคดีที่สุดกว่าทวยเทพใดๆ ได้แลเห็นเทพีสรงน้ำงดงามน่าจับใจ แววตาเอื้ออาทรจากปีศาจทหารเอก มองดูนางด้วยความเป็นมิตร เป็นคราแรกที่ได้มองเทพีผู้งดงามกำลังสรงน้ำเบาๆ ชวนระรื่นเนตร ปีศาจทหารเอกเผลอยิ้มมองดูอย่างสุขใจ หากไม่ใช่เพราะสงคราม คงไม่ได้พบเทพีในภาพแบบนี้โดยง่าย
สักพักที่รอยยิ้มหุบลงกลับสู่เรือนหน้าปกติ แต่มิได้คิดจะต่อสู้กับเทพีอเธน่าต่อ... มือหนานั้นหันไปหยิบอาวุธของตนขึ้นมา เพื่อเก็บชิ้นส่วนต่างๆ เผื่อเอามาซ่อมเพื่อใช้ต่อ เขาคิดว่าจะต้องเอาไปซ่อมในเมืองปีศาจของตน เทพีอเธน่าระแวดระวังว่าปีศาจทหารเอกตนนี้จะเล่นงานนางทีเผลอ อีกมือคว้าไปหยิบคฑาทองแตกหักขึ้นมาป้องกันตัวอีกครั้ง... เสียงหัวเราะของปีศาจทหารเอกเกริ่นสำราญออกมา
“ลุกขึ้นเถิด เทพีแห่งโอลิมปัส! ถึงเพลาพวกเราแล้วต้องกลับมาตุภูมิ สงครามจบลงแล้ว!” มือหนายื่นหา เพื่อรองรับหัตถ์เทพีอย่างเป็นมิตร แววเนตรเทพีอเธน่ามองอย่างระแวดระวังไม่ไว้ใจ แต่แววตาจากปีศาจทหารเอก เอ็นดูนางไม่มีกลิ่นอายแห่งการสู้รบ หัตถ์บางจึงยื่นไปสัมผัสกับปีศาจทหารเอกคราแรกในครั้งนั้น เพื่อพยุงตนให้ลุกขึ้นราวกับเป็นมิตรต่อกัน
มือหนาหยาบกร้านปีศาจร่างใหญ่ เริ่มนวลนุ่มเมื่อได้สัมผัสหัตถ์เทพี หทัยนางสะดุดเพลาหนึ่งรู้สึกว่าปีศาจทหารเอกเบื้องหน้าคงจะไม่ใช่ยศธรรมดาๆ แต่ก็ถึงเพลาปีศาจตนนั้นกล่าวคำอำลาต่อนางเสียที
“ศึกหน้าอย่าพลาดท่าอีกล่ะ เพราะข้าไม่รู้ว่าจะมีปีศาจตนใด... ปรากฏเบื้องหน้าเจ้า” ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลลง น่าฟังกว่าคราแรก เสียงนั้นเปลี่ยนไป กับแววตาที่ดุดันน่าเกรงขามอ่อนโยนลง ยังไม่ทันเทพีอเธน่าจะมีโอกาสถามไถ่รายละเอียดอื่น... ปีศาจทหารเอกตนนั้นก็รีบวิ่งหนีผละจากนางไปไกล แถมยังเหาะเหินเดินอากาศได้อีก ราวกับติดปีกสง่างามสีขาวไว้ด้วย
“เจ้ามันเป็นปีศาจพันธ์ไหนกันแน่!!! เขาไว้ชีวิตและดีกับเราทำไม...” เทพีอเธน่ามีเพียงแค่ปุจฉา แต่มิอาจหาวิสัชนาได้เลยว่า นางคงไม่ได้คุยกับปีศาจทหารเอกรากหญ้าธรรมดาๆ เพราะว่านางได้รับความเป็นมิตรจากปีศาจตนนั้น เสียดายมิได้ถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนาม หากเจอกันอีกครา นางมั่นใจว่าจะต้องจำปีศาจทหารเอกตนนั้นได้อีกอย่างแน่นอน
******
การศึกสู้รบครานั้น เกิดขึ้นเพียงเพราะเทพซูสอยากครอบครองจักรพรรดินีปีศาจ นางเป็นสตรีผู้เลอโฉม งดงามยิ่งกว่าเทพีเฮร่าแห่งหุบเขาโอลิมปัส ความประสงค์ต้องหทัยครอบครองสตรีที่งดงาม นางล้ำค่าเพราะมีพลังเวทย์มากที่สุดในมิตินี้ จึงเกิดสาส์นท้ารบเพื่อพยายามเอาชนะในครั้งนั้น
ไม่มีเทพตนใดอยากสู้ศึกด้วยเหตุอันไร้สาระ แต่เนื่องด้วยทวยเทพโอลิมปัสบัญชา จึงต้องออกรบเพื่อกู้ชื่อเสียง เกียรติยศ มิให้เสื่อม เหตุนั้นเองที่มีผลต่อความรู้สึกของเทพีเฮร่าอย่างแรงกล้า... ศึกในครั้งนั้นโอลิมปัสต้องพ่ายแพ้ ด้วยฤทธานุภาพของจักรพรรดินี เฉิดฉายกลายร่างปริศนาอันน่าสุดสะพรึง ยิ่งกว่าจักรพรรดิ์ปีศาจจะสำแดงเดช
ผลปรากฏในศึกนั้น ทวยเทพโอลิมปัสล้มหายตายจาก บาดเจ็บนับแสนล้าน สัตว์พาหนะต้องสังเวยต่อมังกรฝ่ายปีศาจหมดไปจากกองทัพของทวยเทพ เหล่าชาวโอลิมปัสแทบเสียขวัญ เมื่อไร้ร่างของเทพีอเธน่า พวกเขานึกว่านางคงพลาดท่าถูกทำลายไปเสียแล้ว... แต่เมื่อนางปรากฏตัวภายในเมืองโอลิมปัส สภาพวรกายแทบสะบักสะบอม ทวยเทพต่างๆ มากมายรุมล้อมสอบถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น นางหายไปไหนหรือหนีศึก...
เทพีอเธน่ามิได้บอกหมดว่า ได้รับไมตรีจากปีศาจทหารเอกตนนั้น นางเลือกที่จะไม่เล่าบอกกล่าวถึงส่วนนี้ แค่เพียงบอกว่า ถูกโจมตีจนร่างของนางกระเด็นไปหลายร้อยเส้นทางอันไกลโพ้น นางสลบไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้จนฟื้นขึ้นมา พบว่าตนเองอยู่ในป่าเพียงลำพัง บางทีต้นไม้เหล่านั้นอาจพรางนางจนพวกมันตามมาไม่พบ จึงรอดกลับมายังหุบเขาโอลิมปัสได้...
โดยปกติกิจวัตร เทพีอเธน่ามิได้ชอบการโป้ปด แต่หากการโกหกครั้งนี้ ทำให้นางรอดพ้นสายตาของเทพซูส และเทพีเฮร่าได้ นางคิดว่าอาจจะจำเป็นต้องยอมปดกันสักครั้ง... ด้วยความเป็นเทพีแห่งสติปัญญา และความฉลาดรอบรู้ ผู้เป็นเทพีมอบขวัญกำลังใจต่อทวยเทพมากมาย ไม่มีใครสงสัยต่อคำกล่าวของนาง
หากแต่ดวงเนตรของเทพีเฮร่าสงสัยอยู่ว่า ธิดาของซูสไปพบชายแปลกหน้าในสนามรบรึเปล่า...ท่าทางการกล่าวผิดปกติไปบ้างจนแทบจะไม่น่าสังเกต แค่คิดถึงเรื่องนี้ช่างไร้เหตุผลจนคำกล่าวหานี้มันตกไป เพราะเทพีอเธน่าถือครองพรหมจรรย์มานาน และทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่...
******
ณ ท้องพระโรงวิหารใหญ่ของมหาเทพซูส เต็มไปด้วยเหล่าเทพบุตรมากมาย รวมตัวกันเพื่อหารือ เตรียมพร้อมการรบในศึกที่จะถึงอันใกล้นี้ เต็มไปด้วยสุรเสียงของเหล่าเทพบุตร ดังระงมมากมายอยู่ในท้องพระโรง พร้อมกับเรือนพระพักตร์เต็มไปด้วยความหวาดวิตกกังวล เกินกว่าจะผ่อนคลายลง
เพียงเรือนร่างงามของเทพีปรากฏ ด้วยเครื่องรบเต็มยศ แสงสว่างรำไรจากฤทธานุภาพชุดเกราะอันสวยงาม แผ่ออกจากวรกายงามของนาง เสียงของเหล่าเทพบุตรกำลังหารือดังระงม เงียบลงในบัดดล ดวลเนตรนับร้อยพันคู่ จับจ้องยังเรือนกายนางเพียงผู้เดียว ดั่งขวัญกำลังใจที่พึ่งในการทำสงครามครั้งนี้
“พวกท่าน พร้อมรบกันแล้วนะ!!!” เทพีอเธน่าเกริ่นถาม ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เวลานี้บ่ายคล้อยเกือบถึงโพล้เพล้ ระหว่างความเงียบทั่วท้องพระโรง มีเสียงแทรกฝีเท้าหนักสั่นสะท้านนับไม่ท้วน ดังสะเทือนแผ่วแต่ไกล กำลังใกล้เข้ามาในเขตหุบเขาโอลิมปัสทุกขณะ...
แทนที่จะได้ยินเสียงกู่ก้องสู้ศึกคำรามลั่น เหล่าทวยเทพมากมาย กลับอกสั่นขวัญแขวน ลืมตัวหยุดหายใจชั่วขณะ ต่อเสียงฝีเท้าหนักสะเทือนพสุธาแต่ไกลโพ้น ดังสนั่นสะท้านระเรื่อแผ่วมาถึงพื้นในท้องพระโรง ยังสถิตแทบพระบาททุกพระองค์
“นั้นคือเสียงของศัตรู ผู้รุกรานมาตุภูมิของเรา ไม่ว่าข้าจะยังมีชีวิตอยู่รึไม่ ขอให้พวกท่านสู้สุดใจราวกับข้าอยู่เคียงข้างท่าน ขออวยพรมอบชัยชนะให้เหล่าทวยเทพทั้งหลาย ปกป้องโอลิมปัสมาตุภูมิจุติของเรา!!!” เทพีอเธน่ากล่าวน้ำเสียงหนักแน่น เข้มแข้ง เป็นสตรีถือโล่ผู้กล้าหาญ มอบขวัญกำลังใจให้แก่ทวยเทพมากมาย เมื่อพร้อมลงศึกในครานี้
สิ้นเสียงเทพีอวยพรให้แก่เหล่าบุรุษเทพทั้งหลาย พร้อมจะทำสงครามร่วมกับนางแล้ว เสียงกู่ร้องคำรามก้อง ดังสะท้านไปทั่วท้องพระโรงอย่างไม่เกรงกลัว เหล่าบุรุษชาติชายเริ่มมีขวัญกำลังใจเข็มแข็งขึ้นมา พร้อมลงสนามในสงครามนี้ ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมจะปกป้องมาตุภูมิแห่งนี้ ให้รอดพ้นจากเหล่าปีศาจ...
แม้คำตอบศึกนี้เทพีอเธน่ารู้สึกหวั่นหทัยภายในทรวง ว่าชัยชนะนี้... ปรากฏยากเกินกว่าจะคาดคะเนได้... !!! ความหวังชัยชนะของโอลิมปัส ช่างริบหรี่ยิ่งกว่าแสงตะวันพรุ่งจะปรากฏอีกรึเปล่า มิอาจคาดเดาได้เลย...
******
