เธอคิดจะทำอะไร?...(6)
ระหว่างที่นั่งทานอาหาร และดื่มกันไปด้วยนิดหน่อย พอกระกดไวน์เข้าปากฉันก็หันมองรอบ ๆร้าน และดันได้ไปสบตากับน้าออสตินที่นั่งอยู่อีกโต๊ะเข้าโดยบังเอิญ ทำให้ฉันต้องรีบเบือนหน้าหนีทันที เพราะสายตาของเขาดูดุดันโกรธแค้นจนน่ากลัว จริง ๆ ฉันอยากจะอธิบายให้เขาได้เข้าใจอยู่เหมือนกัน แต่ท่าทางเขาคงจะไม่ฟังอะไรจากฉันแน่นอน ปล่อยเลยตามเลย อยากจะเชื่อแบบนั้นก็เชื่อไป
"สรุป แกจะไปงานนิทรรศการ ไอ้เสี่ยนั้นทำไม"ฉันหลุดจากความคิดแล้วหันไปบอกหน้าคนพูด
"ก็แค่....อยากเห็นของสะสมของเขา..แค่นั้น"ฉันเลือกที่จะไม่บอกกับจินเพื่อนสนิทของตัวเองเรื่องตราประจำกูล
"อืม"จินตอบรับสั้น ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ สีหน้าเขาดูไม่เชื่อหรอกที่ฉันอยากจะไปเพียงเพราะแค่อยากเห็นของสะสม แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรฉันมาก
เวลาผ่านไปมันถึงเวลาอันสมควรที่ฉันจะต้องกลับบ้านแล้ว จึงแยกย้ายกับจินเขาเดินมาส่งฉันที่รถ ก่อนที่จะไปที่รถตัวเอง พอฉันมาถึงที่บ้านก็รีบขึ้นห้อง แล้วหยิบเอกสารที่จินนำมาให้เปิดดู
"ไหนดูสิ..เสี่ยมงคลเอาตราประจำตระกูลของฉันลงประมูลด้วยหรือเปล่า"ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วเปิดเอกสารดู
"ไม่ลงให้ประมูล!..บ้าจริง จะหวงไปไหนนะ ไม่ใช่ของตัวเองสักหน่อย เฮ้อ"ว่าแล้วฉันก็วางเอกสารลงแล้วพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ อย่างไร้ความหวัง
"ถ้าไม่ให้กันดี ๆ ก็คงต้องใช้ด้วยเล่ห์แล้ว"ฉันพูดขึ้นแล้วกระตุกยกยิ้ม..
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วกดเบอร์โทรหากวางทันที
(ว่าไงมุก)
"ฉันมีอะไรให้แกช่วยหน่อย"
(เรื่องอะไร)
"ไปเอาตราประจำตระกูลของครอบครัวเราคืนกัน"ฉันบอกจุดประสงค์ที่จะขอให้กวางซึ่งก็เป็นคนในตระกูลเดียวกับฉันเช่นกัน
(เชี้ย!...มันไม่ง่ายเลยนะแก)พอฉันพูดจบกวางก็สบถคำหยาบออกมาทันที
"แต่มันก็ไม่ได้สุดความสามารถของพวกเราหนิ"ตอนนี้ในหัวฉันมีแผนการเตรียมไว้แล้วล่ะ แต่มันคงต้องมีผู้ช่วย และคนที่ฉันไว้ใจได้นั้นก็คือกวางญาติของฉัน
(เฮ้อ....แกจะเอาจริงสิ)
"ฉันเคยพูดเล่นหรือไง...แกต้องช่วยฉัน"
(เฮ้อ....ก็ได้ว่ะ แต่ถ้างานนี้เกมแกรับผิดชอบนะ)เสียงกวางพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักอีกครั้งก่อนที่จะยอมตกลงช่วยฉัน
"อืม..ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง..ฉันจะต้องเอาของประจำตระกูลคืนมาให้ได้"ฉันพูดออกไปอย่างมุ่งมั่น
.
.
.
Austin
ระหว่างที่ผมทำงานอยู่ในห้อง..จู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมจึงหยิบขึ้นมาดูพอเห็นเบอร์คนโทรเข้าก็กดสายรับ
"ว่าไงครับ พี่ไอ"เป็นพี่สาวที่โทรเข้ามานั้นเอง
(ออสติน ว่างไหมพี่ฝากไปดูตาเคเดนหน่อยสิ)
"อืม..ได้ครับเดี๋ยวเลิกงานจะไปดูมันให้"ผมรับปากพี่ไอทันที เพราะรู้สถานการณ์ของหลานชายตอนนี้ว่ายังคงโศกเศร้ากับเรื่องที่เส้นด้ายพาโดสย้ายออกไป และที่สำคัญพี่ไคกับพี่ไอไม่บอกด้วยว่าพาเส้นด้ายกับโดสไปอยู่ที่ไหน
(ขอบใจนะ)
"ครับ"ผมตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนที่พี่ไอจะกดวางสาย หลังจากที่ผมทำงานเสร็จก็ขับรถไปคอนโดไอ้เคเดนทันที พอมันเดินมาเปิดประตูผมถึงต้องส่ายหน้าให้สภาพของมัน ที่ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าเศร้าหมอง เอาจริง ๆ ผมอยากจะตะโกนใส่หน้ามันดัง ๆ ว่า 'สมน้ำหน้า'
ไอ้เคเดนบอกกับผมว่าพี่ไคสั่งห้ามไม่ให้มันไปหาเส้นด้ายที่มหาวิทยาลัย จนกว่าเธอจะเรียนจบ และยังห้ามเจอกับโดสลูกชายของมันด้วย ผมได้ยินเห็นสีหน้าที่ดูเศร้าของมันก็รู้สึกเห็นใจอยู่เหมือนกัน จึงตัดสินใจโทรหาพี่เลี้ยงโดส และเปิดคอลให้ไอ้เคเดนได้คุยกับลูกของมัน
แต่ดันไม่จบแค่นั้น ไอ้เคเดนหลานชายคนเลวของผมเกิดอยากจะเจอโดส งานมันเลยต้องตกมาที่ผม เพราะทางเจ้าโดสก็อยากจะเจอพ่อตัวเองเหมือนกันแล้วเด็กน้อยยังพูดจาอ้อนผมอีก จนสุดท้ายแล้วผมก็ต้องใจอ่อนยอมที่จะช่วยให้พ่อลูกได้เจอกัน พอนัดแนะกับพี่เลี้ยงเจ้าโดสเรียบร้อย ไอ้เคเดนก็ชวนผมไปซื้อของให้ลูกของมัน
.
ระหว่างทางที่จะไปห้างสรรพสินค้า
"น้าออสตินได้ข่าวว่าเดทกับผู้หญิงอยู่เหรอ"จู่ ๆ ไอ้เคเดนซึ่งเป็นคนขับก็หันมาพูดกับผม
"อืม..พ่อกับแม่กูแนะนำมา"ผมตอบกลับน้ำเสียงเรียบ ๆ
"คนนี้โอเคล่ะสิ เห็นไปกิน...เฮ้ยไปเดทกันหลายรอบ"ก็โอเคแหละ เพราะถ้าไม่ผมคงไม่สานต่ออีกแน่
"อืม"ไอ้เคเดนหันมากระตุกยิ้มให้
"นี้ผมจะได้น้าสะใภ้แล้วเหรอเนี่ย.."
"ยัง..ยังไม่ถึงขั้นนั้น.."ผมหันไปที่มันแล้วทักท้วง
"กูยังไม่คิดจะมีเมีย..ก็แค่ควงให้พ่อแม่สบายใจ"ผมพูดออกไปตามความคิด ถึงอลิชจะเป็นผู้หญิงที่ดูโอเคที่สุดแล้วที่พ่อแม่บังคับให้ไปเจอเพื่อทำความรู้จัก แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะมาเป็นแม่ของลูกผมได้ และแน่นอนว่าตอนนี้ผมยังไม่อยากมีครอบครัว ผมยังอยากสนุกกับเซ็กซ์ที่ผมชอบอยู่..โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าผมมีรสนิยมเซ็กซ์แบบนั้น
"เลือกมากระวังน๊าาา.."
"เสือก!"ผมแทรกด่าไอ้หลานชายไปแล้วลอบหายใจเบา ๆ
"มึงจะไปงานเสี่ยมงคลไหม.."
"ว่าที่พ่อตาน้า?"ไอ้เคเดนพูดขึ้นแล้วกลั้วหัวเราะออกมา ถ้าไม่นั่งอยู่บนรถของมัน ผมอัดมันแน่ ๆ
"ไม่ไปหรอก เขาไม่ได้ชวน"มันหันมามองที่ผมด้วยสึหน้าตึง ๆ แล้วคลี่ยิ้มก่อนที่จะตอบกลับมา
"อืม"ไอ้เคเดนขับรถมาถึงที่ห้าง แต่ที่จอดรถเต็มมันจึงให้ผมลงก่อนส่วนตัวมันก็จะวนหาที่จอด
ผมก็ได้เจอกับเส้นด้าย เธอมากับชายหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่ง และเกือบจะมีเรื่องกันกับไอ้เคเดน แต่ผมก็ห้ามไว้ได้ จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้าย
.
เช้าวันต่อมา ผมได้ไปที่บริษัทของเสี่ยมงคลเพื่อจะมารับอลิชไปทานข้าวกลางวัน ระหว่างที่กำลังเดินเข้าไป ผมก็เจอมุกที่มากับหญิงสาวอีกคน ทั้งคู่พากันเดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธิ์ของบริษัท
"ฉันมาขอพบเสี่ยมงคลค่ะ"เป็นมุกที่พูดกับพนักงาน
"นัดไว้หรือเปล่าคะ"
"นัดไว้แล้วค่ะ..บอกท่านว่า จิระภามาขอพบ"เป็นหญิงสาวอีกคนที่พูดขึ้น ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองหญิงสาวทั้งสองด้วยความสงสัย พวกเธอมาพบเสี่ยมงคลทำไมกัน หรือว่า...ในหัวผมก็ผุดเรื่องอย่างว่าขึ้นมา เพราะผมเองก็รู้ดีว่าภรรยาเสี่ยมงคลเสียชีวิตไปนานแล้ว และรู้อีกว่าเขาเป็นคนค่อนข้างเจ้าชู้ มักจะหญิงสาวข้างกายไม่เคยขาด ที่ผมคิดอะไรแบบนั้นเพราะผมดูการแต่งตัวของหญิงสาวทั้งสองที่มันดูไม่เหมือนกับการมาคุยธุรกิจ แต่มันเหมือนกับ...
"เสี่ยมงคลอนุญาตให้คุณจิระภาขึ้นพบคนเดียวค่ะ..ส่วนคุณมุกอันดาไปรอที่ห้องรับรองก่อนนะคะ"พนักงานประชาสัมพันธิ์พูดขึ้นหลังจากวางโทรศัพท์ลง ผมเห็นทั้งคู่กระซิบกระซาบกัน ยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้น
พนักงานสาวคนนึงได้พาจิระภาไปที่หน้าลิฟต์ ส่วนพนักงานอีกคนกำลังจะพามุกไปที่ห้องรับรอง แต่ทว่า..
"ฉันขอไปรอที่รถดีกว่า"มุกได้บอกกับพนักงานสาวที่กำลังจะพาเธอไปห้องรับรอง ก่อนที่จะรีบก้าวขาเดินออกไป และผมสังเกตท่าทางของเธอดูมีพิรุธ เธอคิดจะทำอะไร?
???????????
