บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

เสียงตีต้นแขนดังขึ้นอย่างแรง ก่อนที่คนถูกตีจะได้สติแล้วยกมือขึ้นมาลูบต้นแขนตัวเองปอยๆ พร้อมทำหน้ายู่ส่งไปยังพาขวัญ

“แกจะใช้คำว่าเราทำไมเนี่ย” พาขวัญแว้ดกลับมา เพราะเธอกำลังซึ้งๆ เกือบจะตอบตกลงแล้วเชียว แต่กลับต้องมาสะดุดกับคำที่คามินใช้

“โทษทีๆ” ส่วนคนที่เผลอพูดแทนตัวเองก็รีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“ใช้คำว่าพี่สิ ลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนนี้แกสวมบทเป็นพี่หนึ่งอยู่”

“เออๆ งั้นขอใหม่อีกทีแล้วกัน” คามินส่งยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนสนิทที่เขานั้นคิดไม่ซื่อมาหลายปี ก่อนจะขยับไปยืนอีกมุมแล้วตั้งสติให้มั่น สวมบทเป็นเวทัยคนรักของพาขวัญ จากนั้นก็ถือดอกไม้เดินเข้ามานั่งคุกเข่าต่อหน้าพาขวัญอีกครั้ง

“ฝัน...แต่งงานกับพี่นะครับ”

“พี่หนึ่ง”

“พี่รักฝัน อยากสร้างครอบครัวด้วย ให้เกียรติเป็นเจ้าสาวของพี่ได้ไหม” ประโยคนี้คามินเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ซึ่งอะไรไม่รู้ดลจิตดลใจให้เขาพูดออกไป

“ดะ...ได้ค่ะ” เอ่ยรับด้วยเสียงอันสั่นเครือเสร็จ พาขวัญก็ส่งมือซ้ายให้คามินที่เวลานี้สวมบทเป็นเวทัย ชายหนุ่มสัมผัสมือนุ่มของเธออย่างนุ่มนวล จากนั้นก็บรรจงสวมแหวนให้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้คามินอยากให้มันเป็นเรื่องจริงมากกว่าแค่เหตุการณ์สมมติ

แต่ก็กลัวว่าหากวันหนึ่งเขาบอกความในใจออกไป นั่นจะทำลายความเป็นเพื่อนระหว่างเขากับพาขวัญ คามินจึงทำได้แค่เก็บความรู้สึกและความทรงจำในตอนนี้เอาไว้ อย่างน้อยเขาก็ได้คุกเข่าขอพาขวัญแต่งงาน ได้ยินคำตอบตกลงจากเธอและได้สวมแหวนให้ จากนั้นเขาก็โน้มลงไปจุมพิตหลังมือของพาขวัญ

“อี๋! แกทำอะไรเนี่ยขนลุก” พาขวัญถึงกับดึงมือกลับ แล้วยกมืออีกข้างขึ้นมาถูหลังมือที่เพิ่งถูกคามินจูบไปเมื่อครู่ทันที

“เอ้า! จะได้สมจริงไง” คามินกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง

“ไอ้บ้า”

“ซ้อมพอใจยังเนี่ย”

“พอแล้ว”

“งั้นทำไรให้กินหน่อยสิ หิว” ประโยคที่ดังขึ้นทำเอาเจ้าบ้านแยกเขี้ยวใส่ นึกแล้วไม่มีผิด ต่อให้จะเป็นวันหยุดหรือวันทำงานคามินต้องขยันมาฝากท้องที่บ้านเธออยู่เรื่อย ปีๆ หนึ่งเธอเลี้ยงข้าวเพื่อนหมดไปกี่กิโลแล้วก็ไม่รู้ นี่ก็ไม่คิดมีแฟนกับเขาเสียที ไม่รู้จะหวงความเป็นโสดไปถึงไหน

“อืม...แต่ก่อนอื่น แกช่วยหน่อยสิฉันถอดแหวนไม่ได้” เอ่ยจบพาขวัญก็ยื่นมือข้างซ้าย ซึ่งมีแหวนวงเกลี้ยงของคามินติดอยู่ที่นิ้วนางมายังชายหนุ่ม หวังให้เขาช่วยถอดออกให้แต่ทำยังไงก็ถอดไม่ได้

นิ้วนางข้างซ้ายของพาขวัญแดงเพราะความช้ำ จากนั้นทั้งคู่จึงใช้ตัวช่วยด้วยการเทน้ำยาล้างจานลงบนนิ้วแล้วถูๆ หวังให้แหวนหลุดออกมาจากนิ้วแต่มันกลับไม่ได้ผล จึงเปลี่ยนมาเป็นใช้เบบี้ออยมาชโลมก็ยังไม่ช่วยอะไรอีกเช่นกัน

สุดท้ายพาขวัญก็ต้องจำใจใส่แหวนของคามินติดนิ้ว สีหน้าเธอก็จะออกเซ็งๆ หน่อย แต่เจ้าของแหวนกลับแอบยิ้มกริ่มชอบใจ

เพราะค่ำคืนนี้มีเดทกับคนรัก นั่นทำให้พาขวัญแต่งตัวสวยเป็นพิเศษกว่าทุกวัน และแม้ว่านี่จะไม่ใช่เดทแรกของเธอกับเวทัย แต่เธอกลับตื่นเต้นปนประหม่า เมื่อสมองจินตนาการไปถึงฉากที่ชายหนุ่มอาจคุกเข่าขอเธอแต่งงานในค่ำคืนที่มีความหมายอย่างคืนนี้

เธอจำครั้งแรกที่ได้เจอเวทัยได้ดี วันนั้นเป็นงานปาร์ตี้วันเกิดของคามิน เวทัยที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของคามินก็แวะมาร่วมงานด้วย เจอครั้งแรกเธอก็ปิ๊งเขาทันทีเพราะชายหนุ่มคือผู้ชายในสเปคเธอ จากนั้นเขาก็เข้ามาทำความรู้จัก เข้ามาจีบและเธอก็ตกลงคบหากับเขา

พอหวนไปคิดเรื่องเก่าๆ ใบหน้าของพาขวัญก็ยิ้มแย้มบงบอกว่ามีความสุข แต่พอก้มมองนิ้วซ้ายที่มีไว้เพื่อสวมแหวนวงที่เฝ้ารอ พาขวัญก็ถึงกับหน้าเครียดขึ้นมา นั่นเพราะไม่ว่าจะพยายามถอดยังไงก็ถอดแหวนของคามินไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องสวมติดนิ้วไว้แบบนี้และถ้าคืนนี้เวทัยขอเธอแต่งงานขึ้นมาจริงๆ ทำยังไง

“คงต้องให้พี่เขาสวมทับไปแล้วกัน” เอ่ยบอกตัวเองเสร็จก็ตรวจเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวอีกครั้ง ฉีดน้ำหอมอีกหน่อย จากนั้นก็คว้ากระเป๋าครัชใบเก๋มาถือไว้แล้วจึงก้าวออกไปจากห้อง

แต่ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่าง กลับยังเห็นคามินนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ และไม่ได้มีท่าทีจะกลับบ้านตัวเองไปแต่อย่างใด

“นี่แกขึ้นไปแต่งตัวหรือนั่งยานอวกาศไปดาวอังคารมา นานมากกก” คนรอถึงกับบ่นอุบพร้อมลากเสียงคำสุดท้าย เพราะวันนี้เขานั่งรอพาขวัญนานกว่าปกติ

“แต่งตัวสิ...เพราะคืนนี้มันสำคัญฉันก็ต้องสวยเป็นพิเศษ แล้วนี่ทำไมแกยังไม่กลับบ้านกลับช่องตัวเองอีก”

“ก็กำลังจะกลับ แต่รอแกอยู่เนี่ย” คามินทำหน้าเซ็งๆ แม้วันนี้ พาขวัญจะสวยแต่เขากลับไม่เคยชมให้เธอได้ยินเลยสักครั้ง ออกจะเมินเฉยด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ความสวยของเธอ มักจะทำให้ใจของเขานั้นเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่บ่อยๆ

“รอฉัน รอทำไม”

“จะถามว่าจะให้ไปส่งไหม” นี่คือข้ออ้างที่คามินคิดไว้ตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบดี

“ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่หนึ่งเขาขับรถมารับ”

“ก็ดี งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน”

“อืม”

“ไปละ” เอ่ยจบคามินก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แต่จังหวะที่เขากำลังจะเดินผ่าน เจ้าบ้านสาวกลับเอ่ยขึ้น

“เดี๋ยวๆ เอ”

“อะไร”

“อวยพรให้ฉันหน่อยสิ” พาขวัญยิ้มกว้างให้ รอยยิ้มของเธอมันช่างมีอิทธิพลต่อใจคามิน ชายหนุ่มสูดเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงเอ่ยออกไป

“ขอให้เขาคุกเข่าขอแก...แต่งงาน” พูดไปแล้วคามินก็รู้สึกเจ็บเสียเอง การหลงรักเพื่อนสนิทก็ว่าเจ็บแล้ว แต่เวลานี้ดูเหมือนจะเจ็บยิ่งกว่า แต่ถ้าความเจ็บของเขาแลกมาด้วยความสุขของพาขวัญ เขาก็...ยอม

“ขอบใจน้า ถ้าฉันแต่งงานวันไหน แกก็อย่าลืมมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย”

“ให้ใส่ชุดไทยสไบเฉียงเลยไหมละ”

“เขาให้ผู้ชายใส่ได้ด้วยเหรอ” พาขวัญตาโตเป็นไข่ห่าน เพราะถ้าได้เธอจะจัดให้คามินใส่เป็นคนแรก

“ใส่ได้ก็บ้าแล้ว เอาเป็นว่าถ้าแกแต่งงาน ฉันจะเป็นพ่องานให้ โอเค้”

“โอเค” เอ่ยรับเสร็จก็ยิ้มกว้างให้ จากนั้นพาขวัญก็เดินไปส่งคามินที่หน้าบ้านแล้วกลับมานั่งรอเวทัยด้วยหัวใจพองโต โดยหารู้ไม่ว่าตอนนั้นคามินจอดรถแอบดูเธออยู่ไม่ไกล กระทั่งเห็นรถของเวทัยขับเข้ามา เขาลงจากรถพร้อมกับถือดอกไม้ช่อโตเข้าไปหาพาขวัญในบ้าน จากนั้นก็ออกไปข้างนอกด้วยกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel