ตอนที่ 4 ร้านเลดี้ชา
ครึ่งปีผ่านไป...หลังจากที่ชาลิสาตรวจพบว่าตนเองมีก้อนเนื้อที่เต้านมก็ผ่านพ้นมาถึงหกเดือนแล้ว ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะไม่ใจดีกับเธอ แต่เธอก็ไม่คิดจะทำร้ายตนเองด้วยการไม่รักษา หญิงสาวยังคงไปพบหมอตามนัดทุกครั้ง ดูแลรักษาตัวเองตามที่หมอสั่งทุกอย่าง พ่อกับแม่สร้างเธอขึ้นมาด้วยความรัก เธอเชื่อว่าพวกเขาก็คงจะหวังให้เธอมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุข น้ารีบอกว่าพ่อกับแม่เธอมีลูกยาก พวกเขาแต่งงานกันมาตั้งนาน กว่าจะตั้งครรภ์มีเธอขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฉะนั้นชาลิสาจึงไม่คิดจะทำร้ายชีวิตตนเองเพียงเพราะโชคชะตาที่ใจร้ายกับเธอ
"วันนี้มีคุณหมอย้ายมาใหม่ด้วย เมื่อเช้าพี่วรรณไปส่งกาแฟที่แผนก เห็นพี่วรรณแกบอกว่าคุณหมอหล่อมาก" ชาลิสาส่งเสียงหัวเราะออกมา ทว่ามือก็ยังแต่งหน้าเค้กอย่างตั้งใจ
"ชาก็ไม่เห็นว่าพี่วรรณจะบอกว่าใครไม่หล่อเลย หล่อทุกคนไม่ใช่เหรอ พี่เก๋ไม่เห็นต้องตื่นเต้นเลย" พี่เก๋ กาญจน์เกล้ากลอกตาขึ้น ใบหน้าเพ้อฝันพลันสลายไป
"เออจริง เหมือนตอนหมอธาม เฮอะ… หล่ออยู่หรอก แต่แปลกคนวัน ๆ ชอบอยู่แต่กับศพ พี่ว่านะชาที่หมอธามไม่แต่งงาน ไม่แน่อาจจะชอบศพมากกว่าก็ได้" ชาลิสาไม่ได้ต่อประโยคนี้ของพี่เก๋ แต่ในใจเธอก็ไม่คิดว่าหมอธามจะมีรสนิยมแปลก ๆ อย่างที่ว่า ก็เขาเป็นหมอชันสูตรก็ต้องอยู่กับศพเป็นเรื่องปกติไหมล่ะ ถึงแม้ชาลิสาจะไม่พูดอะไร แต่กาญจน์เกล้าก็ยังคงคุยจ้อไม่หยุด ชาลิสาชินแล้ว และก็ชอบที่จะฟังสิ่งที่กาญจน์เกล้าเม้าต์มอยอีกด้วย
"เสร็จแล้วค่ะ พี่เก๋เอาไปใส่ตู้ด้านหน้าให้ชาหน่อยได้ไหมคะ เดี๋ยวชาเก็บของก่อน" กาญจน์เกล้าพยักหน้า ก่อนจะขยับมายกถาดเค้กที่ถูกแต่งหน้าด้วยฝีมือแม่ค้าเบเกอรี่เบอร์หนึ่งของร้าน
"สวยมาก น่ากินมากเลยชา เก่งอะถามจริง ๆ มีอะไรที่ชาทำไม่เป็นบ้างหรือเปล่านี่ พี่ละภูมิใจแทนพ่อแม่ชาจริง ๆ มีลูกสาวทั้งเก่งทั้งสวย ใครจะไปรู้ว่าร้านกาแฟที่ใกล้จะเจ๊ง แต่พอชามาเซ้งต่อก็รุ่งขึ้นมาอีก โคตรเก่งเลย"
"ขอบคุณค่ะ ชาก็หวังว่าพ่อกับแม่จะภูมิใจเหมือนกัน" กาญจน์เกล้าชะงักมือที่กำลังจะยกลง เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
"ชาพี่ขอโทษ พี่ลืมไปเลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เรื่องต้องระวัง ชาดีใจเสียอีก อย่างน้อย ๆ พ่อกับแม่ชาก็ไม่ได้ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา ถ้าพวกท่านรู้ว่ายังมีคนพูดถึงบ้าง เขาคงจะดีใจ" หากพ่อกับแม่เธอถูกลืมเลือนไปต่างหากเล่าถึงจะเป็นที่น่าเศร้า และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น
ชาลิสาหันไปยิ้มให้กาญน์เกล้าอย่างปลอบใจ และพยักหน้าให้ลูกจ้างสาวยกเค้กออกไปได้แล้ว เธอหันกลับมาเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้แล้วนำไปล้าง ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าของเลดี้ชา ทว่างานทุกอย่างเธอก็ลงมือทำด้วยตนเอง พนักงานที่ร้านมีเพียงสองคน เป็นพนักงานเก่าที่เคยอยู่ที่นี่หนึ่งคน และพี่เก๋ที่เธอรับเข้ามาใหม่เท่านั้น หากนับรวมเธอเข้าไปด้วยก็เป็นสามคน ก็เพียงพอสำหรับร้านเล็ก ๆ ร้านนี้แล้ว
ความจริงชาลิสาไม่ได้มีเงินมากมาย เงินที่นำมาเปิดร้านก็เป็นเงินประกันชีวิตของพ่อกับแม่เธอ ถึงแม้ทั้งสองจะจากไป ก็ยังคงทิ้งเงินเอาไว้เลี้ยงดูเธอจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ครั้งนั้นเงินประกันชีวิตของพ่อกับแม่ถูกโอนให้เธอเป็นจำนวนหลายล้านบาท น้ารียืมไปใช้ก็เป็นหลักล้านแล้ว และนอกนั้นเธอก็ใช้ในเรื่องของการเล่าเรียน แน่นอนว่ารายจ่ายที่ไม่มีรายได้ เงินก้อนนั้นย่อมมีวันหมดลง และก้อนสุดท้ายก็เป็นร้านเลดี้ชาร้านนี้ ชาลิสาไม่สามารถลางานเพื่อไปรักษาตัวได้บ่อย ๆ การมีธุรกิจเป็นของตัวเองย่อมดีกว่า นอกจากร้านกาแฟนี้แล้ว เธอยังรับจ๊อบวาดรูปให้กับลูกค้าอีกด้วย
กริ๊ง! กริ๊ง!
ชาลิสาเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนและเดินมารับโทรศัพท์ภายในที่ต่อสายจากโรงพยาบาลเอาไว้
"เลดี้ชาสวัสดีค่ะ" เสียงหวานกรอกเสียงลงไปตามสาย
"น้องชาเหรอคะ นี่พี่หวานนะสั่งกาแฟหน่อยจ้า เอาขึ้นมาส่งให้พี่ด้วยนะ" เจ้าของร้านคนเก่งรีบหันไปหยิบกระดาษและปากกา เธอหนีบโทรศัพท์เอาไว้และเตรียมพร้อมที่จะจดออร์เดอร์ตามความต้องการของลูกค้าลงไป
"ได้ค่ะ พี่หวานบอกออร์เดอร์มาได้เลยค่ะ"
ครั้นเมื่อทวนรายการสั่งซื้อจนครบแล้ว ชาลิสาก็วางสายลงไป เธอรีบเดินไปทำออร์เดอร์ตามคำสั่ง จนครบ และจัดใส่ตะกร้าหิ้วเพื่อเตรียมจัดส่ง ครั้นเงยหน้าขึ้นมาจะเรียกใช้ลูกจ้างสาว แต่กลับพบว่าทั้งคู่กำลังยุ่งอยู่เช่นกัน เห็นอย่างนั้นชาลิสาจึงยกตะกร้าขึ้นมา
"ชาขึ้นไปส่งกาแฟบนตึกก่อนนะคะ"