นายไหน
ฝันหวานเปิดประตูห้องของตนออกมาพร้อมกับหอบสัมภาระต่างๆติดไม่ติดมือออกมาด้วยเพื่อเตรียมตัวที่จะไปเรียน ทันทีที่หญิงสาวก้าวขาออกมาข้างนอกได้เพียงหนึ่งวินาที สายตาดุดันของมังกรกลับจ้องเขม่งเธอด้วยความไม่พอใจทำให้ฝันหวานขนลุกซู่ไปทั้งตัวและก็ไม่รู้ด้วยว่าเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ
“รอนานไหม”
“นานมาก ไม่รู้ว่าแอบหลับจนตื่นแล้วหรือเปล่า”
“ไม่ต้องมาประชดฉันหรอกนะ”
“ไม่ได้ประชด ฉันพูดความจริง เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตอนนี้เธออยู่ในสนามรบแค่ยืนเอ๋อภายในหนึ่งวินาที ก็อาจจะถูกฟันคอขาดตายไม่รู้ตัวก็ได้” หลังจากที่เขาเค่นเสียงต่อว่าเสร็จ คนตัวสูงก็เดินจากไปทันทีโดยปล่อยให้ผู้เป็นเจ้านายงงงวยกว่าเดิมอีกหลายเท่า เผื่อจะรู้ตัวแผ่นหลังกว้างก็หายไปเสียแล้ว
“อ้าว! ก็ฉันไม่ได้ยืนอยู่ในสนามรบนี่ไอ้บ้าเอ้ย”
@มหาวิทยาลัย
ขณะนี้ฝันหวานก็ได้มาถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังได้โดยสวัสดิภาพอวัยวะครบสามสิบสองไม่ถูกคนขับรถจำเป็นหั่นเป็นชิ้น แต่ตลอดทางมังกรก็แทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาเช่นกันเพราะเธอนั้นพูดไม่หยุดเลย
“ห้าโมงเย็นพี่ค่อยมารับฉันตรงนี้นะ ไปละสายแล้ว” เมื่อเธอออกคำสั่งเสร็จคนร่างเล็กก็ลงจากรถสปอร์ตคันหรูแต่โดยดีก่อนที่จะวิ่งไม่คิดชีวิตขึ้นตึกไป มังกรผู้มองดูห่างๆภายในรถก็กระตุกยิ้มเล็กน้อยให้กับความสดใสร่าเริงของเธอ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยเลือกคบใคร แม้แต่คนที่ไม่รู้จักเธอก็เข้าไปสนทนาด้วยอย่างสนุกสนานราวกับว่ารู้จักกันมาเป็นแรมปี แต่เขาก็ไม่สามารถจับตามองความร่าเริงของเธอได้นานนักเนื่องจากตอนนี้เขามีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น มังกรล้วงโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาพร้อมกับกดหมายเลขโทรศัพท์โทรออกไปยังเจ้านายตัวจริง
“ตอนนี้ผมได้เป็นบอดี้การ์ดของฝันหวานลูกสาวคนเล็กของไพศาลแล้วครับ”
(ลูกสาวคนเล็ก ฉันไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าไพศาลมีลูกสาวคนเล็ก)
“ตอนนี้ผมยังหาทางเข้าไปในบ้านพวกมันไม่ได้ แต่ผมจะพยายามหาทางเข้าไป”
(อืม ขอบคุณมากนะมังกร)
“ครับ”
เมื่อรายงายความคืบหน้าให้วิชญ์ภาสรับทราบแล้วชายหนุ่มก็วางสายไป แต่ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเขาอีกเครื่องก็สั่นขึ้นมา
ครืดดดดดดดดด
“ใครวะ” เขาถามตัวเองด้วยความสงสัยเพราเบอร์โทรเบอร์นี้เขาไม่เคยเจอมาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายจึงกดรับไป
“ฮัลโหล”
(เออมึงชื่อมังกรใช่ป้ะ กูชื่ออาร์มนะ พอดีว่านายสั่งให้กูโทรมาบอกมึงว่าเขาอยากพบ มึงก็มาพบเขาหน่อยก็แล้วกัน)
“นายไหน” มังกรถึงกับขมวดคิ้วเข้ามากันเมื่อปลายสายพูดคนเดียวรัวๆ บอกว่านายอยากพบ แต่ชายหนุ่มนั้นยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนโทรมา
(คุณท่านไง คุณไพศาลอะ)
“คุณไพศาล...โอเค เดี๋ยวเข้าไปตอนนี้แหละ”
“เออ กูรอรับมึงหน้าบ้านนะ เขาให้กูมาสอนงานมึงน่ะ”
“เออ”
อีกด้าน
ฝันหวานจดงานลงในสมุดของตนเองอย่างขะมักเขม้นด้วยความที่เธอมีธุรกิจที่ต้องดูแลไหนจะลูกน้องอีกเธอจึงไม่ค่อยมีเวลามาเรียนเหมือนคนอื่นๆ แต่ถึงยังไงการท้าทายตัวเองแบบนี้ถือว่าเป็นงานถนัด อะไรที่คนอื่นทำไม่ได้ เธอมักจะทำได้เสมอ
“หวัดดีฝันหวาน”
“มาแล้วหรอออย นึกว่าวันนี้จะโดดซะแล้ว”
“ฉันไม่เคยโดดสักหน่อย มีแต่แกนั่นแหละที่โดดประจำ” ออย เพื่อนสาวคนสนิทของเธอ ออยเป็นเพื่อนกับฝันหวานตอนปีหนึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้เวลาจะผ่านไปไม่นานฝันหวานก็ยกย่องให้ออยเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนเข้ากับใครก็ได้ ง่ายๆ เป็นมิตรกับทุกคน จึงไม่แปลกที่ใครต่างก็อยากเป็นเพื่อนกับฝันหวานทั้งนั้น
“อืม วันนี้ก็ว่าจะโดดนะ”
“เรียนบ้างเถอะ เดี๋ยวก็ไม่จบหรอก” ออยนั่งลงข้างๆฝันหวานพร้อมกับหยิบสมุดของตนเองที่จดไว้ออกมาดู แต่ก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นได้เลยโพล่งออกมา
“เออ ฉันดูข่าวเมื่อเช้านี้คลับของแฟนเก่าพี่พลอยใสถูกวางระเบิดด้วยแหละ แกรู้แล้วใช่ป้ะ”
“อืม” ฝันหวานตอบกลับเบาๆแถมยังทำตัวไม่ค่อยสนใจ แต่แท้จริงแล้วเธอนั้นเครียดเรื่องนี้มากๆ
“คนตายเยอะมากเลย ฉันล่ะสงสารเจ้าของคลับ คงเสียหายมหาศาลเลย ถ้าเป็นฉันนะจะส่งคนไปฆ่าคนที่วางระเบิดเลย”
“หึ มันคงจะง่ายขนาดนั้นหรอก”
