บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ศึกษาดูงาน

LOVE SHOP ร้านลับซ่อนสเน่หา

บทที่ ๖

ศึกษาดูงาน

ประมาณสามทุ่มเสียงเคาะประตูห้องดวงสวาทดังขึ้น หญิงสาวจึงเดินไปเปิดประตูพบกับนวลพรรณตามที่คาดไว้

"พร้อมหรือยังดวง" ดวงสวาทมองหญิงสาวจรงหน้าที่แต่งหน้าจัดจ้านจนแทบจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงจัด ขนตางอน ดวงตาถูกกรีดด้วยอายไลเนอร์อย่างบรรจง คิ้วบางถูกขีดเขียนให้เป็นทรงสวยกว่าที่มันเคยเป็น เมื่อสำรวจดวงหน้าของนวลพรรณจนพอใจแล้ว หญิงสาวก็ละสายตามาสำรวจเนือนร่างที่ถูกสวมด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นทั้งสั้นทั้งบางจนแทบจะปิดอะไรไม่ได้เลย แต่ยังดีที่นวลพรรณรักษารูปร่างให้สมส่วนอยู่เสมอ การสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้จึงไม่ได้ดูน่าเกลียด แต่มันก็ดูโป๊มากสำหรับคนที่เพิ่งเปิดโลกทัศน์ครั้งแรกอย่างนวลสวาท

"พร้อมแล้วจ้ะ พี่นวลใส่เสื้อผ้าแบบนี้ทุกวันเลยหรอจ้ะ" หญิงสาวอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ เพราะจากที่เห็นเสื้อผ้าของนวลพรรณไม่เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวันนัก

"เฉพาะเวลาทำงานเท่านั้นจ้ะ เดี๋ยวดวงก็ต้องใส่มันคือเครื่องแบบของร้าน แต่ละวันก็จะถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ" นวลพรรณอธิบายก่อนจะหันหลังเพื่อจะเดินนำหน้าดวงสวาทลงไปที่บาร์ที่ถูกทำไว้ด้านล่าง ทันทีที่นวลพรรณหันหลังให้ดวงสวาทก็ตาโตเป็นไข่ห่านทันที กระโปรงที่ด้านหน้าว่าสั้นมากโขอยู่แล้ว ด้านหลังกลับปิดได้เพียงครึ่งเดียวของก้นกลมของนวลพรรณเท่านั้น

"เอ้า ตามมาได้แล้วนวล พี่จะได้ไปทำงาน" นวลพรรณหันมาตามดวงสวาท เมื่อไม่เห็นหญิงสาวเดินตามเธอไปเสียที แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาตระหนกตกใจของดวงสวาทเธอก็จำเป็นต้องอธิบายให้นวลสวาทเข้าใจ

"ชีวิตแบบเราๆ ก็เหมือนสินค้าชิ้นนึง ถ้ามันถูกห่อจนมิดชิดมากเกินไป มันก็ดูไม่น่าสนใจ ถ้าเราอยากขายได้ เราต้องนำเสนอตัวเราเอง เรามีดีตรงไหนก็เปิดเผยไปเลย อยู่ที่นี่ไม่ต้องอายหรอกนะ ใครๆ ก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น เดี๋ยวดวงก็ชิน ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะโดนแม่จินดุเอา"ดวงสวาทสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รวบรวมความกล้าเดินตามหลังนวลพรรณไปติดๆ วันนี้เธอคงได้เห็นอะไรแปลกตาอีกมาก ดังนั้นเธอต้องสงบสติอารมณ์และตั้งสติเพื่อรับมือมันให้ได้

และก็เป็นจริงอย่างที่นวลพรรณพูดไว้ ใครๆ ก็ใส่เสื้อผ้ากันแบบนี้ทั้งนั้น แต่ละร้านก็มียูนิฟอร์มที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันคือเสื้อผ้านั้นทั้งเล็ก ทั้งสั้น และบางให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

นวลพรรณพาดวงสวาทมานั่งโต๊ะมุมด้านในของร้าน เป็นมุมที่ทุกคนที่ทำงานที่นี่เคยนั่งกันมาหมดแล้ว อยู่ที่ใครจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่เห็นจากตรงนี้ได้มากแค่ไหน

"ดวงนั่งตรงนี้นะ แล้วก็คอยสังเกตุเอาว่าแต่ละคนเขาทำกันยังไง อันไหนไม่เข้าใจหรือสงสัยถามพี่ได้ตลอดเลยนะ หรือถ้าพี่ไม่อยู่ดวงก็สามารถถามคนอื่นในร้านได้เหมือนกัน"

"จ้ะ" ดวงสวาทรับคำก่อนกวาดสายตาไปรอบๆ ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าชาวต่างชาติเข้าร้านจนหนาตา หญิงสาวภายในร้านก็ต่างจับจองลูกค้าของใครของมัน พนักงานในร้านต่างเดินเสริฟเครื่องดื่มกันขวักไขว่ลายตาไปหมด

ดวงสวาทเห็นบางคนก็ได้เงินจากลูกค้าแบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกกันว่าทิป แล้วทำไมพวกเธอถึงไม่ยื่นมือรับกันล่ะ แต่กลับส่ายสะบัดหน้าอกเข้าไปรับแทน บางคนเมื่อได้รับทิปจากลูกค้าก็ดื่มเครื่องดื่มที่ตนเองสั่งมาเป็นการแลกเปลี่ยน บางคนก็เต้นยั่วยวนตรงหน้าลูกค้า ทุกคนมีวิธีการตอบแทนเงินที่ลูกค้าให้ในแบบของตัวเองทั้งนั้น แล้วเธอล่ะเธอต้องทำแบบไหนถึงจะถูกใจลูกค้า เธอมองคนแล้วคนเล่าที่จูงมือกันผ่านเธอขึ้นไปบนชั้นสองของร้านบ้าง บางคนก็พาขึ้นไปชั้นสามที่เป็นที่พักของตัวเองบ้าง แต่ก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินผ่านเธอ เธอสังเกตเห็นทุกคนแวะหาจินตามาม่าซังของร้าน และลูกค้าจะเป็นจ่ายเงินให้มาม่าซังเสมอ แบบนี้หรือเปล่าที่นวลพรรณบอกว่าเราต้องจ่ายค่าบาร์ ตอนนี้ค่าบาร์สำหรับเธอคงเปรียบเสมือนค่าผ่านทางมากกว่าเสียแล้ว

ดวงสวาทนั่งอยู่ตรงนั้นตลอดทั้งคืนจนร้านปิด หญิงสาวไม่กล้าขยับไปไหน กลัวจะไปเกะกะขวางทางคนอื่นเขา หญิงสาวตั้งใจสังเกตและจดจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะรู้ตัวเองว่าเธออาจจะไม่กล้าทำแบบนั้นเลยก็ตาม แต่การได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างวันนี้ มันก็พอที่จะทำให้เธอได้เตรียมใจรับมือได้บ้าง

"เป็นไงบ้างดวง พอทำไหวไหม" นวลพรรณถามทันทีที่ส่งลูกค้าคนสุดท้ายออกจากร้าน ทั้งสองลงมาจากชั้นสามซึ่งเป็นห้องพักของนวลพรรณ ก่อนจะไปยืนกอดจูบกันอยู่หน้าร้านเป็นนานกว่าจะแยกจากกันได้ และหากเธอนับไม่ผิด นวลพรรณเดินผ่านเธอขึ้นไปด้านบนประมาณห้าถึงหกรอบแล้ว และทุกคนที่เธอพาขึ้นไปไม่ซ้ำหน้ากันเลย

"ไหวจ้ะพี่นวล แล้วพี่นวลเป็นยังไงบ้างคะวันนี้" ดวงสวาทเห็นสีหน้าที่แสดงความเหนื่อยล้าแต่ยังเปื้อนยิ้มอยู่

"ดอกกว่าที่คิด ตอนแรกพี่คิดว่ากลับบ้านเสียหลายวัน ลูกค้าคงหายไปหลายคน" นวลพรรณพูดอย่างอารมณ์ดี แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้ามากแต่พอเห็นเม็ดเงินที่ได้กลับคืนมานับว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

"ดอกหรอจ้ะ ดอกอะไรหรอพี่นวล" คำพูดของนวลสวาทมักมีคำศัพท์แปลกๆ ปะปนอยู่เสมอ หากเธออยากปรับตัวเข้ากับที่นี่ให้ได้เร็ว เธอควรจะต้องรู้ติดไว้บ้าง จะได้ไม่แปลกแยกกว่าคนอื่น และคนเดียวที่เธอกล้าเอ่ยปากถามตอนนี้ก็คงไม่พ้นนวลพรรณอยู่ดี

"ดอก หมายถึง ดี อะไรมาณนี้แหละจ้ะ อย่างพี่บอกว่าดอกกว่าที่คิดก็คือดีกว่าที่คิด คนที่นี่เค้าจะไม่ใช้คำว่าดี ว่าสวย แต่จะใช้คำว่าดอกแทน สมมติว่าวันนี้พี่แต่งตัวสวยมาก ถ้าดวงมาชมพี่ว่าสวยพี่จะโกรธนะ เพราะเขาจะถือเคล็ด หากโดนชมว่าสวยวันไหนวันนั้นจะขายไม่ออก เราจึงใช้คำว่าดอกแทนเพื่อกันเลี่ยงเอาน่ะ"

"ฉันเข้าใจแล้วจ้ะ" ดวงสวาทพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่นวลพรรณอธิบาย อาจจะเป็นเพราะเธอหัวดี เข้าใจอะไรง่าย เลยทำให้เธอเข้าใจอะไรที่นวลพรรณพูดหรืออธิบายได้ง่าย

"แล้วดวงล่ะ เป็นยังไงบ้างวันนี้"

"ได้เห็นอะไรแปลกตาเยอะมากเลยจ้ะพี่นวล"

"แล้วทำได้ไหม ไม่ได้พี่จะบอกมาม่าซังให้ ไม่ต้องกลัว" นวลพรรณไม่เคยบังคับให้ใครมาทำงานกับเธอ และเธอก็บอกจินตาเสมอว่าหากเธอพาใครมา เธอจะขอให้ผู้หญิงพวกนั้นได้ดูการทำงานก่อนว่าทำไหวหรือเปล่า หากไม่ไหวเธอก็ยินดีที่จะให้ผู้หญิงพวกนั้นเดินจากไปเสมอ

"เท่าที่เห็นฉันพอทำได้อยู่จ้ะ แต่ไอ้ที่ไม่เห็นไอ้ที่พากันขึ้นไปข้างบนเนี่ยสิ ฉันคงทำไม่เป็น" ดวงสวาทตอบเสียงอ้อมแอ้มด้วยความเขินอาย การที่เธอตัดสินใจมาทำงานแบบนี้ก็ใช่ว่าเธอจะต้องผ่านมือชายมาก่อนที่ไหนล่ะ

"ดวงยังไม่เคยหรอกหรอ" เสียงนวลพรรณค่อนข้างตกใจกับคำตอบของดวงสวาท คาดหวังให้สิ่งที่นวลสวาทพูดเป็นเพียงเรื่องโกหก แต่ดวงสวาทกลับพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel