3.เปลี่ยนไปNC+
Chapter03.เปลี่ยนไป
“ฮะ ทำไมล่ะ “โบว์วี่ถามออกไปด้วยสีหน้างุนงง
ก่อนหน้าที่จะจบมอหก พวกเขาได้พูดคุยกันไว้ว่าแอนดริวกับเรนเดลจะสอบเข้าคณะวิศวะและจีจี้จะสอบเข้าสถาปัตยกรรม ส่วนเธอจะเรียนนิเทศน์เพราะอยากเป็นดาราสาว
“ถามมันสิ.....อยู่ดีๆ ก็เกิดอยากเรียนสถาปัตขึ้นมาซะงั้น” เรนเดลไม่รอช้าที่จะแซะคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เขารู้เหตุผลว่าทำไมแอนดริวถึงได้เปลี่ยนใจไปเรียนคณะเดียวกันกับจีจี้ เพราะมันสองคนไม่เคยเรียนแยกกันเลย
“อะไรนะ!? ถามจริง มึงจะเรียนคณะเดียวกันกับอีจี้เหรอ?”
แอนดริวได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่นั่งนิ่ง สำหรับเขานั้นมันคือเรื่องปกติเพราะก่อนหน้านี้เขาก็มีความสนใจในสาขานี้เช่นกัน เขาไม่อยากคิดว่าตัวเองเลือกเรียนคณะนี้เพราะเพื่อนสนิทของตัวเองเรียนหรอกนะ แม้จะยังหาคำตอบให้ความรู้สึกลึกๆ ในใจของตัวเองไม่ได้ก็เถอะ
” จะตกใจทำไม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย “ปากหนักตอบกลับ
” แปลกๆ นะมึงเนี้ย แล้วบอกอีจี้ยัง” โบว์วี่ถามอย่างจับผิด เริ่มได้กลิ่นบางอย่างแปลกๆ ออกมาจากอีกคน
“ยัง” ที่เขาไม่บอกเพราะอยากจะเซอร์ไพร์สจีจี้ในวันเปิดเทอมด้วย
“กูว่าไม่ต้องบอกหรอก กูอยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงตอนรู้ว่ามึงเรียนห้องเดียวกันกับมัน ฮ่าๆๆ”
หนึ่งเดือนต่อมา
วันเปิดเทอม
@มหาสิทยาลัยเมลเบิร์น
“อ๊าา~ แบบนั้นแหละครับเด็กดี” เสียงปากหนาครางกระเส่าอยู่ในรถสปอร์ตคันหรู
มือแกร่งจับหัวทุยของหญิงสาวคนหนี่งที่กำลังนั่งก้มหน้าลงมาครอบงำแท่งร้อนของตนเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านจนแทบขาดใจ
เจ้าของใบหน้าสวย หมวย จิ้มลิ้ม เหลือบสายตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อที่กำลังนั่งทำสีหน้าเหยเกทรมานอยู่ตรงหน้าของเธอด้วยแววตาพึงพอใจ หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันโดยบังเอิญ นิดาก็ได้มีวันนี้....วันที่เธอได้ใกล้ชิดกับลูกเจ้าของโรงพยาบาลอย่างแอนดริว เขาเลื่องชื่อในเรื่องนี้จะตาย
ไม่แปลกที่เธอจะรู้จัก.....
อ๊อก~ อ๊อก~
“อา อ๊ะ จะแตกแล้วครับ อื้ม “
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นปากหนาก็ครางกระเส่าออกมาอีกรอบก่อนที่แก่นกายสีชมพูอันใหญ่จะกระตุกขึ้นลงถี่ๆ หลายครั้งพร้อมกับปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในปากสวยจนหมดสิ้น
นิดากลืนน้ำรสคาวนั้นลงคอไปอย่างไม่นึกรังเกียจ แม้จะรู้สึกเจ็บคออยู่บ้างเพราะขนาดของอีกคนนั้นใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยมากอยู่พอสมควร นั่นคือเหตุผลหลักที่ทำให้เธอรู้สึกชื่นชอบอีกคนมากขึ้นไปอีก คนอะไรจะเพอร์เฟคขนาดนี้ หน้าตาหล่อ บ้านรวย แถมตรงนั้นก็ใหญ่....ถึงใจเธอสุดๆ
“ชอบไหมคะ” ปากเล็กเอ่ยถามอย่างเอาใจ ซึ่งแอนดริวก็ได้แต่ยิ้มมุมปากตอบกลับ
“ชอบครับ :) “
” เอาไว้คืนนี้เดี๋ยวเจอกันอีกนะ ดริวจะทำให้คุ้มกับที่นิดาทำให้วันนี้เลย “
น้ำเสียงแพรวพราวเอ่ยบอกก่อนจะกดปากจูบลงไปบนหัวเล็กเพื่อขอบคุณที่วันนี้เธอทำให้เขาเสร็จสมอารมณ์หมายได้ตั้งแต่เช้า
ถ้าหากไม่ติดว่าวันนี้เขามีเรียนคาบแรกของการเปิดเทอม ร่างสูงคงพาหญิงสาวตรงหน้าไปจัดที่คอนโดของตัวเองให้จบเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้ว
” ค่ะ นิดาจะรอนะ “เสียงหวานตอบกลับก่อนจะกดจมูกหอมแก้มสากไปหนึ่งทีหวังออดอ้อนเอาใจ หากแอนดริวชอบเธอกลับบ้างก็คงดี ใครบ้างจะไม่อยากเป็นแฟนกับคนโปรไฟล์ดีอย่างเขา
หลายนาทีต่อมา
ตึก
ตึก
“มึงมานั่งทำอะไรกันอยู่ตรงนี้?” ผมเอ่ยปากถามเพื่อนทั้งสองคนออกไป หลังจากที่สายตาเหลือบไปเห็นเรนเดลกับโบว์วี่กำลังนั่งเล่นอยู่ใต้ตึกคณะของผม
“อ้าว มึงเพิ่งมาถึงเหรอ มาๆ นั่งนี่” โบว์วี่กวักมือเรียกผม ผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆ เพราะเหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบนาทีกว่าผมจะเข้าเรียน
“มีอะไร มึงมองหาใคร “ผมหันไปถามโบว์วี่ที่ทำท่าเหมือนกำลังมองหาใครสักคนอย่างตั้งใจ
“มองหาอีจี้ไง มันบอกว่าจะถึงตั้งนานแล้วเนี้ย” โบว์วี่ตอบก่อนจะค่อยๆ ชะงักหันมามองหน้าผมพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
” แล้วนี่มึง....ไม่ได้ติดต่ออะไรกับมันเลยเหรอ “
” ก็มีคุยบ้าง แต่ช่วงนี้กูไม่ค่อยว่างก็เลยไม่ค่อยได้คุย “ผมตอบกลับอย่างไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพราะหลังจากตอนนั้นที่จีจี้ไม่ค่อยได้ตอบแชทผม ผมก็ไม่ได้ทักไถ่ถามหรือกวนใจอะไรเธอมากมายนัก เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน ไม่จำเป็นต้องคุยกันบ่อยๆ แต่ถ้าเจอหน้ากันก็คงจะสนิทกันเหมือนเดิม
นั่นคือความคิดของผม
” ไม่ว่างหรือกำลังเห่อของใหม่ “เสียงไอ้เรนเดลพูดสวนขึ้นมา มันคงรู้สินะว่าตอนนี้ผมกำลังมีสาวใหม่ แต่ผมก็ไม่แปลกใจหรอกถ้าเพื่อนจะรู้ เพราะทุกคนรอบตัวผมก็ต่างรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องความเจ้าชู้ของผมอยู่แล้ว
ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดจะแคร์อะไร
” เหอะ เปิดเทอมวันแรกก็เอาเลยนะมึง เพลาๆ บ้างเถอะ เดี๋ยวของมึงก็พิการหรอก “โบว์วี่หันมาแซะผม ซึ่งผมก็ได้แต่ไหวไหล่ตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ
ทำไงได้....ก็คนมันฮอต
” ไฮ~ พวกมึงรอกูนานไหม “
ในขณะที่ผมกำลังนั่งเถียงกับโบว์วี่อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเล็กอันคุ้นเคยดังขึ้น ก่อนที่ผมจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาหยุดอยู่บริเวณด้านหน้าโต๊ะของพวกผมพร้อมกับคิ้วของผมที่เริ่มขมวดเข้าหากัน
“เฮ้ย? มึงใครอะ” โบว์วี่เป็นคนแรกที่ตะโกนถามออกไปด้วยน้ำเสียงอึ้งที่ไม่แพ้กับผม
จีจี้ในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นเหนือเข่านั้นไม่น่าตกใจเท่ากับผมที่ยาวเกือบกลางหลังของเธอทำเอาผมรู้สึกแปลกตาอยู่ไม่น้อย ใบหน้าสวยตอนนี้ไม่มีสิ่งใดปกปิดเอาไว้แล้ว แม้อีกคนจะแต่งหน้าเพียงบางๆ แต่ก็สร้างความโดดเด่นให้แก่ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมจู่ๆ เพื่อนสนิทของผมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนขนาดนี้!?
“มึงอย่าเวอร์อีโบว์ กูสวยขึ้นจนพวกมึงอึ้งแดกกันหมดเลยเหรอไง ฮ่าๆๆ”
ผมแทบจะละสายตาไปจากเพื่อนสนิทของตัวเองไม่ได้เลย เหมือนหัวใจมันเต้นผิดจังหวะตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นจีจี้เดินเข้ามาพร้อมกับลุคใหม่ของเธอ ลุคที่ดูเป็นผู้หญิงขึ้นมาเป็นอย่างมากทำเอาผมตะลึงไปหลายวินาที แต่หลังจากนั้นอารมณ์ของผมก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เชี้ย! มึงไปทำอะไรมาวะ ตอนนั้นที่เจอกันนมมึงยังไม่ใหญ่เท่านี้เลย”
“โอ้ยอีโบว์! หยุดจังไรค่ะ เพราะมึงไม่ใช่เหรอที่อยากให้กูเปลี่ยนลุคก่อนขึ้นมหาลัยน่ะ”
ฉันบ่นคนตรงหน้าออกไปด้วยสีหน้าไม่จริงจังนัก ก่อนจะเหลือสายตาไปมองร่างสูงของแอนดริวที่กำลังนั่งจ้องหน้าฉันดูด้วยสีหน้าที่ฉันก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่าหมอนั่นกำลังคิดอะไร
หลังจากปิดเทอมใหญ่และสอบเข้ามหาลัยเสร็จฉันก็บินไปอยู่กับพี่จอมทัพที่ประเทศญี่ปุ่น การได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นทำให้ฉันไม่ค่อยมีเวลาพูดคุยกับแอนดริวมากเท่าเดิมและอีกอย่างฉันก็เริ่มรู้สึกว่าพวกเราโตมากพอที่จะต้องแยกย้ายกันไปเติบโตได้แล้ว หรือเรียกง่ายๆ ว่าฉันไม่อยากมีเพื่อนผู้ชายเอาไว้คอยกันท่าผู้ชายคนอื่นๆ อีกแล้ว
เพราะฉันเองก็อยู่ในจุดที่อยากมีความรักแล้วด้วย มันคงดีถ้าได้ลองเปิดโอกาสให้ใครสักคนโดยที่ไม่ต้องมีเพื่อนคอยตามหวงเพราะคำสั่งลมๆ แล้งๆ ของพี่ชายฉัน
ต่อจากนี้....ฉันจึงตั้งใจที่จะเว้นระยะห่างกับแอนดริว
#เอาล่ะๆ ภารกิจเริ่ม
