บทที่ 4
“เปิดเครื่องปุ่มนี้ ใส่ผงซักฟอกลงไป ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไป กดสตาร์ท ตามด้วยใส่ผ้าลงซัก” นาราชาเอ่ยกับตัวเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะพวกงานบ้านงานเรือนนั้นใช่ว่าเธอจะถนัดเสียเมื่อไหร่ แค่พอทำเป็นอยู่บ้างเท่านั้นเอง และที่อาสามานี่ก็ด้วยใจล้วนๆ
แต่ก่อนจะหย่อนบรรดาเสื้อผ้าของธามในตะกร้าลงถังเครื่องซักผ้า นาราชาก็หยิบขึ้นมาหอม เอาใบหน้าซุกไซ้จนเป็นที่พอใจเสียก่อน
“เสื้อเชิ้ตก็หอม เสื้อยืดก็หอม กางเกงยีนส์ก็ยังหอม โอ๊ย! เสื้อผ้าผู้ชายอะไรใส่แล้วยังหอมเหมือนยังไม่ได้ใส่ นี่ก็หอม เอ๊ย!” นี่ก็หอมที่ว่าคือบ็อกเซอร์สีขาวที่ตอนนี้อยู่ในมือเธอ แล้วเมื่อครู่เธอก็เอาเจ้านี่ขึ้นมาหอม มาดมไปตั้งหลายครั้ง หึหึ
นาราชาเพ่งมองเจ้าบ็อกเซอร์สีขาวในมือ จินตนาการบางสิ่งบางอย่างก็โลดแล่นอยู่ในสมองอย่างไม่อาจห้ามได้ นั่นพลอยทำให้ใบหน้าเธอร้อนผ่าวๆ กับความคิดเชิงสิบแปดบวกของตัวเองในขณะนี้
“ยัยจิ้งบ้า คิดอะไรของหล่อน หล่อนเป็นผู้หญิงยิงเรือนะยะ” นาราชายิ้มเขิน แต่อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านที่ดังขึ้นก็ทำให้คนที่กำลังเพ้อฝันถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบออกไปดูทันที แต่พอเห็นว่าในมือกำลังถืออะไรติดมาด้วย ก็รีบเหน็บไว้กับขอบกางเกงพร้อมกับดึงเสื้อยืดตัวยาวที่สวมอยู่ลงมาปิด
เพียงแค่ก้าวออกจากประตูบ้าน สายตาของนาราชาก็ปะทะเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังมองตรงมายังเธอ หรือจะใช่คนที่ธามบอก แล้วทำไมต้องเป็นผู้หญิง คิดแล้วใจคอของนาราชาก็ไม่สู้ดี ถึงอย่างนั้นเธอก็เปิดประตูให้แล้วพาไปนั่งรอในห้องรับแขกตามที่ธามได้บอกไว้
ไม่นานธามก็ก้าวลงมาจากชั้นบน เขาเปลี่ยนมาสวมชุดลำลองที่มองมุมไหนก็ยังหล่อไม่มีที่ติก่อนจะพาหญิงสาวคนดังกล่าวไปยังห้องที่ถูกสร้างไว้ข้างๆ ส่วนนาราชานั้นก็ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ ผ่านหน้าต่างบานเล็กที่ถูกแง้มออก แต่อยู่ๆ เธอก็ตาโตเป็นไข่ห่าน แล้วอุทานออกมา
“แม่เจ้า” จะไม่ให้เธออุทานออกมาแบบนี้ได้ยังไง ในเมื่ออยู่ๆ หญิงสาวคนดังกล่าวก็ถอดเสื้อถอดผ้าออกจากร่างกายจนมาอยู่ในชุดวันเกิด รูปร่างก็สวยไม่มีที่ติ แต่ทำไม ทำไมถึงมายืนถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชายอย่างไม่อายแบบนี้แล้วที่สำคัญผู้ชายที่ว่าคือทูนหัวของเธอ
นาราชาได้แต่จ้องมองภาพที่กำลังเกิดขึ้น หวังว่าเธอคงไม่เห็นอะไรมากไปกว่านี้หรอกนะ แต่สิ่งที่คิดก็เหมือนจะไม่เป็นความจริง เพราะตอนนี้ธามเดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้น ก่อนจะยกมือขึ้นไปสัมผัสร่างกายของเธอ สัมผัสชนิดที่ว่าไม่มีส่วนใดเหลือรอด ที่สำคัญมือแนบนมอีกต่างหาก
นั่นทำให้นาราชาถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่าวันแรกของการเข้ามาทำงานที่นี่ เธอจะถูกรับน้องด้วยฉากติดเรตขนาดนี้ แต่แทนที่จะหลับตาหรือมองไปทางอื่น นาราชากับจ้องเขม็ง กระทั่งธามหยุดมือแล้วกลับไปนั่งตรงหน้าอะไรสักอย่าง จากนั้นเขาก็ขึ้นรูป เพื่อปั้นผลงานที่ได้ชื่อว่าศิลปะ
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงที่นาราชายืนจ้องมองแทบตาไม่กะพริบ เรียกได้ว่ายืนมองจนขาแข็ง ผู้หญิงคนที่ตอนนี้กำลังเปลือยก็หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมแล้วกลับออกไป ปล่อยให้ความงุนงงและสับสนสถิตอยู่กับ นาราชาแต่เพียงผู้เดียว กระทั่งเสียงปิดประตูห้องปั้นดังขึ้น ช่วยดึงสติของนาราชาให้กลับเข้าร่าง
“มายืนทำอะไรตรงนี้”
“มะ…มารอค่ะ เผื่อคุณธามอยากได้อะไร”
“เห็นหมดแล้วสิ”เพราะหน้าตาตื่นๆ ของนาราชา ทำให้ธามอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น อันที่จริงเขาไม่ค่อยอยากปั้นรูปเปลือยสักเท่าไหร่ แต่เพราะอยากมีของติดไม้ติดมือไปอวยพรวันเกิดคนรู้จักที่ชื่นชอบศิลปะอีโรติก เขาจึงนัดหมายให้นางแบบมาเป็นแบบให้วันนี้
“อื้อ”
“ฉันแค่ชอบงานศิลปะพวกปั้นรูปเหมือน ไม่ได้เป็นพวกโรคจิตที่ไหนหรอก อ้อ…แต่จะว่าจิตก็จิต เพราะก่อนปั้นฉันชอบทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร”ขณะพูดก็ก้มมองมือตัวเอง นั่นทำเอานาราชากลืนน้ำลายลงคอ เกิดวันดีคืนดี เธอมาเป็นแบบให้ธามปั้น ไม่ต้องถูกเขาสัมผัสอย่างตะกี้เหรอ คิดแล้วก็อาย อ๊ากกกก
“อย่างลูบๆ คลำๆ คนที่มาเป็นแบบน่ะเหรอคะ คิดแล้วขนลุก แฮ่”
“นั่นก็เพื่อจะได้สัดส่วนที่ถูกต้องวันนี้ฉันค่อนข้างเหนื่อย อยากพักผ่อน หลังจากนี้ ฉันไม่รับแขก” ธามบอกเผื่อไว้ นั่นเพราะหูตาของใครบางคนเป็นสับปะรด ดีไม่ดี ป่านนี้คงรู้แล้วก็เป็นได้ ว่าเขาอยู่ที่ไหน
“ค่ะ” นาราชาเอ่ยรับ ส่วนธามนั้นก็เดินเข้าบ้านไป ปล่อยให้แม่บ้านตัวเท่าเมี่ยง เก็บกวดบ้านต่อ กระทั่งได้ยินเสียงออดอีกครั้ง คราวนี้ดังต่อเนื่องเสียจนนาราชานิ่วหน้า ก่อนจะวางมือกับการตากผ้าแล้วออกมาดูว่าใครกัน
ทันทีที่ได้เห็นหญิงสาวคนที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน ด้วยรูปร่างหน้าตานั้นสวยราวกับนางแบบ ขาเรียวยาวได้รูป ทำเอานาราชาต้องก้มมองขาสั้นๆ ของตัวเองอย่างอนาถใจเบาๆ เกิดมาตัวก็เตี้ยส่วนสูงแค่ร้อยหกสิบสอง ขารึก็อวบๆ ตันๆ เป็นพี่น้องกับโต๊ะสนุ๊ก ชีวิตหนอชีวิต
ก่อนจะหยุดคิดเรื่องขาอวบๆ ของตัวเอง แล้วมองผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง นั่นเพราะรัศมีความสวยของเธอออร่ามาก การแต่งตัวก็เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแต่แขกที่ยังไม่ได้รับเชิญกลับเดิมดุ่มๆ เข้ามาภายในบ้านเสียเอง ก่อนจะถอดแว่นกันแดดแบรนด์ดังออก นาราชาเพ่งมองเธอนิ่ง นั่นเพราะรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะถึงบางอ้อ ‘ดาริน’ชื่อนี้ดังก้องอยู่ในหัวของนาราชา นั่นเพราะเธอคือไฮโซสาวคนล่าสุดที่ได้ควงกับธามจนทำให้เธออิจฉา ก่อนที่ชายหนุ่มจะออกมาประกาศว่ากำลังจะแต่งงาน
ยิ่งได้มองใกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นความสวยของผู้หญิงตรงหน้า มองมุมไหนก็ดูดี สวยไปเสียหมด แต่ก็น่าแปลกใจธามได้ควงผู้หญิงสวยๆ แบบนี้ แต่ทำไมเขาถึงประกาศออกไปแบบนั้นได้
