บทที่ 3
เมื่อมาถึงรั้วบ้านธามใจของนาราชาก็เต้น ตึกๆ ตึกๆ อย่างไม่เป็นจังหวะบ่งบอกอาการคล้ายจะเป็นลม มือไม้ก็เย็นเฉียบ อดที่จะตื่นเต้นกับการพบกันครั้งนี้ไม่ได้
เธอยืนสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ พอหันกลับมายังบ้านของสองแฝด ก็เห็นทั้งคู่ยืนชูกำปั้นให้มาจากชั้นสองของบ้าน พระเพื่อนและ พระแพงเอ่ยคำว่าสู้ พร้อมส่งสายตา สีหน้าเอาจริงมาให้นาราชา ซึ่งเธอก็ยกมือขึ้นมาชูกำปั้นกลับไป ก่อนจะตัดสินใจกดออดด้วยมือที่สั่นเล็กๆ
“อย่าสั่นๆ อย่าประหม่าสิยัยจิ้ง มาถึงขั้นนี้แล้ว สู้เขา สู้โว้ยยย” นาราชาเอ่ยบอกตัวเอง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อยากมาอยู่ใกล้ธามใจจะขาด แต่พอเอาเข้าจริงกลับประหม่าจนมือไม้สั่นไปหมด
เสียงออดที่ดังอยู่หน้าบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านชะเง้อมองออกไปก่อน คิ้วหนาได้รูปขมวดเข้าหากัน เพราะไม่คุ้นหน้าแขกที่กำลังยืนอยู่หน้าบ้านในขณะนี้ แต่ก็ตัดสินใจเดินออกไปหาเพราะไม่ใช่คนที่ไม่อยากพบ
นาราชามองธามที่ตอนนี้เดินตรงมาหาเธอชนิดแทบไม่ ละสายตา นานแค่ไหนที่เธอไม่ได้เห็นหน้าเขาใกล้ๆ แบบนี้ นานแค่ไหนแล้วที่ในใจเธอมีเพียงเขา นานแค่ไหนที่เธอเฝ้าหลงรักผู้ชายคนนี้และนานแค่ไหนที่เธอต้องอยู่กับความอ้างว้าง ความเจ็บจากรักที่ไม่สมหวัง
“สวัสดีค่ะ เอ่อ…ฉันชื่อจิ้ง มาเป็นแม่บ้านให้คุณธามค่ะ” นาราชาชิงเอ่ยแนะนำตัวไปก่อน หากธามจะสังเกตสักนิด จะรู้ได้ทันทีว่าน้ำเสียงของนาราชานั้นสั่น
“อ้าว! ไม่ใช่ป้าสายหรอกเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม เพราะคนที่เขาจ้างมาให้ทำความสะอาดไม่ใช่สาวน้อยคนนี้แน่ แต่ขณะที่ธามกำลังคิดเรื่องนี้ นาราชาก็ใช้จังหวะนั้นมองใบหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาของความชื่นชม ไม่ว่าจะมองมุมไหน ธามก็หล่อและดูดีเสมอ เสียงทุ้มๆ เมื่อครู่ก็น่าฟัง คิดแล้วเคลิ้มจนยิ้มไม่หุบ
“หน้าฉันมีอะไรติดหรือเปล่า”เพราะเห็นเธอเอาแต่มอง ธามจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น แต่ก่อนที่จะถาม เขาก็ใช้จังหวะหนึ่งพินิจมองผู้หญิงตรงหน้านี้เช่นกัน โครงหน้าแบบนี้ ตัวสูงขนาดนี้ รูปร่างแบบนี้ ชวนให้สงสัยนั่นเพราะเขารู้สึกคุ้นหน้าเธออย่างบอกไม่ถูก แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน หรืออาจเพราะแค่คนหน้าเหมือนเท่านั้น เพราะเธอคนนั้นแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ไม่ใช่สาวน้อยลุคธรรมดาๆ แบบนี้
“ปะ..เปล่าค่ะ” นาราชาดึงสติกลับสู่ร่าง ก่อนจะรีบปฏิเสธ
“แล้วนี่ป้าสายไปไหน ทำไมถึงให้เด็กอย่างเธอมาทำงานแทน”
“คือป้าสายไม่สบายน่ะค่ะ จิ้งเลยมาทำให้ชั่วคราวก่อน อีกอย่างจิ้งไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ จิ้งโตแล้ว” พูดจบก็ยืดตัวขึ้น กระชับแว่นสายตาอีกหน่อย แต่ก็ยังไม่อาจสบตาของธามได้ตรงๆ นัก
“โตอะไรตัวเท่าเมี่ยง แล้วนี่อายุก็ไม่น่าจะถึงสิบแปดด้วยมั้ง”ธามกะเกณฑ์ช่วงอายุของนาราชาเสร็จสรรพ เพราะมองยังไง ตัวก็บอบบางแถมยังตัวเตี้ย คงสูงแค่อกเขาเท่านั้นเองส่วนอายุก็ไม่น่าจะเกินจากที่เดาไว้แน่ๆ แม้จะมีแว่นสายตาอันหนาเตอะอยู่บนหน้าเธอก็ตามที
“ถึงค่ะ เกินไปหลายปีด้วย คุณธามอยากดูบัตรประชาชนจิ้งไหมคะ” นาราชายิ้มให้ ลุคนี้ช่วยอำพรางอายุเธอได้จริงๆ เหรอ นึกว่าจะทำให้ดูแก่ซะอีก
“ไม่ต้อง อายุเกินก็ดี ฉันจะได้ไม่ถูกจับข้อหาใช้แรงงานเด็กเข้ามาสิ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้ ก่อนจะเปิดประตูรั้วให้เธอเข้าบ้าน
“ค่ะ” นาราชารีบเอ่ยรับแล้วเดินตามธามไปทันที ความรีบทำให้เธอลืมปิดประตูรั้ว เพราะสมาธิตอนนี้จดจ่ออยู่ที่แผ่นหลังของชายหนุ่มตรงหน้า นาราชายื่นมือไปหาธาม แต่ก็คว้าได้เพียงเงา ไม่อาจคว้าเจ้าของเงามากอดได้ ก่อนจะหยุดกึกแล้วรีบเก็บมือ เมื่อเจ้าของแผ่นหลังหยุดเดินพร้อมกับหมุนตัวกลับมาหาเธอ
“เธอชื่ออะไรนะ”
“จิ้งค่ะ ชื่อจิ้ง”
“จิ้งจกหรือจิ้งอะไร”คำถามของธามทำเอาคนฟังแยกเขี้ยว แค่จิ้งก็พอมั้ง ไม่ต้องเติมคำว่าจกให้เธอก็ได้
“จิ้งเฉยๆ ค่ะ ไม่มีคำสร้อยว่าจกต่อท้าย เพราะฟังดูทะแม่งๆ ชอบเกาะตามข้างฝาบ้าน แล้วกินแมลงชอบกล”คำพูดของนาราชาทำให้คนฟังแทบหัวเราะ แต่ก็ปั้นหน้าให้นิ่งพร้อมกับกลั้นเสียงไว้ จนรู้สึกเจ็บกระพุ้งแก้ม
“อืมม์…จิ้งเฉยๆ ก็จิ้งเฉยๆ ถ้ามาทำงานแทนป้าสาย ก็น่าจะรู้ว่าฉันให้ทำแบบเช้าเย็นกลับ ไม่ได้อยู่ค้างที่นี่”
“ค่ะ”
“รู้แล้วก็ดี” ธามพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอีกครั้ง และเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งรูปแบบไม่ได้ต่างไปจากบ้านของสองแฝดนัก เพียงแค่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าเพราะเป็นบ้านที่อยู่หลังหัวมุมพอดี ปีกขวาของบ้านที่ปรกติจะเป็นสนามหญ้าก็ต่อเติมเป็นมุมอะไรสักอย่างที่นาราชายังมองไม่ออก นั่นเพราะมีประตูไม้บานใหญ่บังสายตาอยู่
แม้รูปแบบบ้านจะเหมือนๆ กัน แต่การตกแต่งนั้นตามแต่สไตล์ของผู้ครอบครอง บ้านสองแฝดจะออกแนว วินเทจหน่อย แต่บ้านของธามจะออกโมเดิร์นที่เน้นสีขาว ดำเสียเป็นส่วนใหญ่ และมีรูปปั้นสวยๆ วางอยู่ตามมุมนั้น มุมนี้
“กระเป๋าใบนั้น เป็นเสื้อผ้าที่ฉันใส่แล้ว เธอเอาไปซักด้วย” เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ธามก็เอ่ยบอกทันที
“ค่ะ”
“ส่วนกระเป๋านี่ ยังไม่ได้ใส่ เอาข้าวของออกมาใส่ตู้ในห้องนอนให้ที”
“ได้ค่ะ”
“เธอพูดอะไรเป็นนอกจากคำว่า ค่ะ กับ ได้ค่ะ บ้างไหม” ธามยืนเท้าสะเอวมองคนตรงหน้า ซึ่งนาราชาก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะให้เธอพูดอะไรไปมากกว่านี้ หรือจะให้บอกว่าเธอแอบรักเขาอยู่ดี โอ๊ย! เธอคงได้แต่คิด ขืนบอกไปอย่างนั้น ธามได้เกลียดขี้หน้าเธอพอดี
“ได้ค่ะ”
“มาอีกแล้วคำนี้ ฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน อ้อ…ห้ามใครรบกวนเวลาฉันอาบน้ำ เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ”นาราชาพยักหน้ารับ อยากจะถามนัก ว่าเขามาอยู่ที่นี่ทำไม ทั้งๆ ที่เขาก็มีบ้านหลังใหญ่อีกหลัง คอนโดมิเนียมอีกสองแห่งให้อยู่ไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าธามไม่มาอยู่บ้านหลังนี้ เธอก็อดได้ใกล้ชิดเขาน่ะสิ เป็นแบบนี้ล่ะดีแล้ว
“อ้ออีกอย่าง เดี๋ยวจะมีคนมาที่บ้าน เธอช่วยไปรับแล้วพามานั่งรอฉันในห้องรับแขก”
“ได้ค่ะ” นาราชารับปากมั่นเหมาะ ก่อนที่ธามจะขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำ แม่บ้านคนใหม่เดินตามชายหนุ่มไป เพื่อเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ารวมถึงข้าวของไปเก็บให้เรียบร้อย
เพียงก้าวแรกที่ก้าวเข้าไปในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำหัวใจของนาราชาก็เต้นโครมคราม เพราะตั้งแต่เกิดมานี่คือครั้งแรกที่เธอเข้าห้องผู้ชาย แถมยังเป็นผู้ชายที่เธอหลงรักเขามาตั้งหลายปีอีก ไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง
ส่วนเจ้าของห้องตอนนี้หายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้นาราชายืนอยู่ในภวังค์ กระทั่งได้ยินเสียงน้ำดังขึ้น สติเธอจึงกลับสู่ร่าง ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะเข้าครอบงำ เท้าเล็กๆ ค่อยๆ ก้าวไปยังประตูห้องน้ำ ถ้าเธอแง้มประตูออกนิดหน่อยธามจะสังเกตเห็นไหมนะ แล้วถ้าเธอทำสำเร็จ สิ่งที่จะเห็นในห้องน้ำคืออะไร
นาราชายิ้มเจ้าเล่ห์ ขณะที่กำลังคิดมโนภาพเรียกเลือดกำเดาเบาๆ พึ่งรู้ว่าตัวเองอยู่สายหื่นก็วันนี้ ก่อนจะยกมือขึ้นมาเขกกบาลตัวเองสองสามครั้ง คิดอกุศลอะไรบ้าๆ บอๆ ก่อนจะตั้งสติรีบจัดการเก็บข้าวของของธาม จากนั้นก็คว้าตะกร้าผ้าลงมาชั้นล่าง หยิบทุกอย่างในกระเป๋าที่จะซักออกมายัดๆ ใส่ตะกร้าในมือแล้วเดินหาเครื่องซักผ้า พอเห็นมันวางอยู่ด้านหลังครัวจึงเดินตรงไปทันที
