ตอนที่ 7 ...จูบนั้นเจ็บแปลบ...
...นานมาแล้ว...
สิบห้าปีก่อนฉันย้ายตัวเองมาอยู่ในบ้านของมิคามิ โดยที่ก่อนนั้นครอบครัวของฉันเป็นเพียงเพื่อนบ้าน
‘หยุดรถก่อนครับ นั่นยูกินี่...!’
มิคามิที่ยังตัวเล็กและขาสั้นตื่นเต้นจนต้องขอให้คุณพ่อคุณแม่ของเขาหยุดรถเมื่อเห็นฉันเล่นกระโดดเชือกอยู่หน้าบ้านตัวเอง
‘ผมกำลังจะไปสวนสัตว์ ไปด้วยกันไหมยูกิ’ เด็กชายตัวน้อยชวนอย่างตื่นเต้น
เวลานั้นฉันตัวสูงกว่ามิคามิ และเมื่อถูกชวนก็ทำให้ฉันรู้สึกดีเพราะฉันเป็นลูกคนเดียว อยากมีน้อง ฉันจะได้เป็นพี่
ที่สำคัญมิคามิชอบเล่นกับฉันที่สุด อาจพูดได้ว่าฉันเป็นเพื่อนเด็กคนเดียวในละแวกนั้นของมิคามิ
‘ไปสิ! เย้ ฉันจะไปดูเม่น...!’ ฉันกระโดดขึ้นรถเพื่อนบ้านใจดี ขายังสั้น...อายุแค่หกปี เพราะงั้นมิคามิก็อายุแค่สี่
‘หวา ลืมไป หนูกระโดดขึ้นรถซะแล้ว แต่หนูไปด้วยได้หรือเปล่าคะ คุณลุงคุณป้า’ ฉันถามคุณพ่อและคุณแม่ของมิคามิ
‘ได้สิจ๊ะยูกิ ดีเลย จากที่จับลิงมิคามิตัวเดียวจะได้จับลิงยูกิอีกตัว คิๆ’ คุณแม่ผู้สวยราวนางฟ้าของมิคามิหัวเราะ ยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหาคุณแม่ของฉัน
‘มิโดริคนสวย ฉันขอพายูกิที่รักของเธอไปสวนสัตว์เป็นเพื่อนมิคามิหน่อยนะ เย็นๆ จะเอามาส่ง’
‘โอ ดีจัง ฉันกับมาโกโตะ (ชื่อคุณพ่อจริงๆ ของฉัน) กำลังต้องไปประชุมที่โยโกฮาม่าพอดี กังวลอยู่เลยว่าถ้าเอายูกิไปด้วยจะเบื่อและงอแง ขอบคุณมากนะจ๊ะ ฉันดีใจจริงๆ กรี๊ด...’
‘ด้วยความยินดี เจอกันค่ำๆ นะจ๊ะมิโดริ’
...แต่แล้วบางสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...
ฉันไม่ได้กลับบ้านตัวเองอีกเลย
หลังจากนั้นฉันได้กลายเป็นเหมือนลูกคนหนึ่งของคุณพ่อและคุณแม่ของมิคามิ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ พวกท่านไม่เคยบอกอะไรฉัน เวลาผ่านไป เมื่อฉันคิดถึงคุณพ่อคุณแม่และรบเร้าจนทั้งสองท่านทนไม่ไหวจึงยอมบอกความจริง
ใบหน้าของทั้งสองท่านเปื้อนยิ้ม ปราศจากความเศร้าใดๆ ‘คุณพ่อกับคุณแม่ของยูกิไปสวรรค์ครับ / ค่ะ’
‘สวรรค์...?’ ฉันทวนคำ ‘แต่สวรรค์อยู่ที่ไหน ดูเหมือนในรูปที่มีทูตสวรรค์ มีเมฆ และเราจะได้ขี่เมฆใช่ไหมคะ หนูขอไปที่นั่นหน่อยค่ะ”
‘ตอนนี้ไปไม่ได้ ต้องกินเยอะๆ โตไวๆ ก่อนนะคะ แต่ขอให้ยูกิรู้ไว้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะรอยูกิอยู่ที่นั่นเสมอ’ พวกท่านบอกฉัน แล้วก็เลี้ยงฉันเหมือนลูกคู่กันมากับมิคามิทุกวัน...
เพราะงั้นฉันถึงเป็นเหมือนพี่สาวจริงๆ ของมิคามิ
แต่หลายครั้งฉันทำตัวเด็กกว่าเขานะ อย่างเช่นในวันฮาโลวีนสมัยเด็กฉันมักกลัวเพื่อนตัวเล็กๆ ที่แต่งตัวเป็นผีมาขอขนมพวกเราที่บ้าน ต่างจากฉันที่คืนนั้นจะชอบแต่งตัวเป็นนางฟ้าหรือเจ้าหญิงมากกว่า และเมื่อเห็นผีปลอมพวกนั้นฉันจะกรี๊ด ถ้าไม่มีมิคามิคอยปลอบบางทีฉันอาจเสียสติไปแล้วละมั้ง...
มีแต่มิคามิที่ปลอบโยนฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่าน้องชายคนนี้รักฉัน
และจากจูบ...ดูเหมือนเขาจะเริ่มรักฉันในแบบที่เกินพี่สาว...
แต่ฉันก็ยังอยากเป็นแค่พี่ของมิคามิอยู่ดี ฉันสบายใจที่เป็นแบบนั้นมานานแล้ว จะเปลี่ยนทำไมกัน
ถ้าคบกันไปแล้วเกิดวันหนึ่งเลิกกันต้องเจ็บแน่ แต่ถ้าไม่ได้คบก็รักกันแบบนี้ไปตลอด
เพราะงั้นเอาอย่างหลังก็แล้วกัน คบกันแบบพี่น้องเหมือนเดิม ฉันตัดสินใจแล้วที่จะบอกมิคามิ
ครืด...
มือของฉันเลื่อนเปิดประตูห้องนอนในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อครู่แว่วเสียงเคาะ
ดวงตาของฉันถูกแช่แข็งจนแน่นิ่ง...ร่างสูงที่คุ้นเคยยืนอยู่ต่อหน้า ดูราวเจ้าชายสง่างามในแสงแดดสีขาว
“มิคามิ...?”
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
ฟึ่บ...
สะดุ้งแผ่วเมื่อดอกไม้ช่อใหญ่ปรากฏต่อหน้า มือใหญ่ของมิคามิกำลังยื่นช่อดอกไม้ให้ฉัน...!? ตลอดชีวิตไม่เคยมีใครให้ดอกไม้ฉันแบบนี้
“ว...ว้าว...”
“สำหรับยูกิของผม” คนเด็กกว่าบอก ยิ้มหล่อเหลากว่าทุกที ไม่ใช่ยิ้มแบบเด็กๆ หรือน้องชายอีกแล้วแต่ยิ้มแบบผู้ชายเต็มตัวทีเดียว
“เอ่อ...”
ฉันควรทำอย่างไรดี...!?
แล้วตลอดวันนั้นมิคามิก็เอาใจฉันสารพัดอย่าง ตามใจทุกเรื่อง เขาคงกำลังรอคำตอบของคำถามเมื่อวันก่อน
คำตอบที่ฉันบอกว่ายังไม่ได้คิด...
เพราะงั้นในเมื่อเขาพยายามขนาดนี้ฉันจึงอึดอัดจนต้องรีบบอก “มิคามิ เอ่อ...ขอบคุณนะสำหรับดอกไม้ แล้วก็ขอบคุณด้วยที่ทำดีกับฉัน แต่เรื่องนั้นที่นายถาม ฉัน เอ่อ...ฉัน...นายกินน้ำก่อนละกัน...!”
ฉันหน้าแดง วิ่งไปรินน้ำมาให้เขา “เรื่องนั้น ฉัน...เอ่อ...ฉัน...”
อ๊าย...พูดยังไงดี...??
“ครับ...?” ดวงตาคมคายเปล่งประกาย ลุ้นด้วยความหวัง
“ฉันขอปฏิเสธ ฉันชอบนายแบบน้องชาย”
เพล้ง....!
มิคามิทำแก้วหล่นแตก บาดมือตัวเองอีก...!
“หวา มิคามิ เลือดออกแล้ว ฮือ...ฉันจะช่วยนะ...!”
“ไม่เป็นไร...” มิคามิปัดมือฉัน ก็ไม่ได้แรงหรือหยาบคาย แต่ทำไมนะถึงทำให้ฉันชาไปทั้งร่าง...!?
เมื่อนั้นฉันถึงรู้ว่าฉันทนไม่ได้ที่มิคามิปัดมือฉันแบบนี้
คงเพราะฉันทำให้มิคามิผิดหวัง อา...เขาดูเฮิร์ทมากเลย เจ็บราวกับถูกมีดแทงหัวใจ ฉันไม่เคยเห็นมิคามิดูสลดหดหู่ขนาดนี้มาก่อน
แต่ทำไมต้องผิดหวังขนาดนั้นด้วยล่ะ
“มิคามิ...!?”
