บทที่ 5 สงครามในโรงอาหาร
ช่วงเช้าวันใหม่ หลังจากที่เด็ก ๆ ถูกเรียกออกมานอกเต็นท์เพื่อไปล้างหน้าแปรงฟันจากนั้นก็ไปออกกำลังกาย ทุกคนก็ทยอยกันไปที่โรงอาหารเพราะช่วงสาย ๆ จะเริ่มทำกิจกรรมกันแล้ว พวกวาเรียสเดินหาวนอนมารับถาดกับข้าวไปนั่งกินที่โต๊ะพลางตบหน้าตัวเองไม่ให้เผลอหลับ
"ข้าวสวยกับแกงจืด? เฮ้อ อยากกินเมนูใหม่บ้าง"
"อย่าบ่นน่าเฟลม กิน ๆ ไปเถอะ" เทมเพสตบบ่าเด็กชายผมสีเพลิงก่อนจะจัดการอาหารในส่วนของตัวเองบ้าง จังหวะนั้นพวกคนดังอย่างเจ้าชายทั้งห้าจากแดนเทวาและแดนมนุษย์ก็ยกถาดอาหารมานั่งที่โต๊ะข้าง ๆ พวกเขาพอดี
"เฮ้! นายน่ะ เจ้าชายวาเรียสใช่ไหม" มาดิส รินเซีย เรียกเด็กชายผมสีดำ วาเรียสหันไปตามเสียงแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ร้อยวันพันปีเจ้าพวกนี้ไม่เคยมาคุยกับเขา แต่ทำไมวันนี้ถึงมา
"มีอะไร"
"เมื่อคืนพวกนายออกไปไหนกัน พวกฉันเห็นนะ" เมื่อคืนพวกมาดิสขออนุญาตอาจารย์ออกมาเข้าห้องน้ำ จังหวะที่กำลังจะกลับเต็นท์ก็เห็นพวกวาเรียสย่องออกไปข้างนอกพอดี
"อยากรู้ไปทำไม" อาเนฟสวนกลับทันควัน
"นั่นสิ เกี่ยวอะไรกับพวกนายไม่ทราบ" โยริคสังหรณ์ใจว่าพวกเขาจะมีเรื่องเร็ว ๆ นี้
"ก็ไม่ได้ว่าอะไร หวังว่าพวกนายจะไม่ก่อเรื่องนะ" คาเวล เอเทีย ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าพวกแดนมืดเหมือนจะหาเรื่องพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น
"ได้ยินว่าก่อนจะมาเรียนที่โรงเรียนซินเทลล่า เจ้าชายวาเรียสชอบก่อเรื่องวุ่นวาย จ้าวปีศาจคาเรียสก็เลยถีบส่งมาเรียนให้รู้แล้วรู้รอด เข้าเรียนก็จริงแต่มาสายแถมชอบแอบงีบบ่อย ๆ อนาคตแดนมืดท่าจะมืดมน" กราเซล แอมโบเรีย ส่ายหน้าเล็กน้อย คำพูดจิกกัดนั้นทำให้คุณชายตระกูลองครักษ์แทบจะลุกไปซัดเสียเดี๋ยวนี้
"ใจเย็น ๆ พวก" วาเรียสเตือนสติเพื่อน ๆ แล้วสวนกลับไปหาฝ่ายตรงข้ามด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี "ขอบใจที่เตือนความจำนะ ว่าแต่นายเถอะ กราเซล ได้ยินว่าน้องชายต่างแม่กำลังทำคะแนนตีตื้นขึ้นมา ก่อนจะจิกใคร รีบทำคะแนนนำหน้าพวกเจ้าชายลูกสนมดีกว่าไหม เกิดสู้ไม่ได้เดี๋ยวจะหลุดจากตำแหน่งรัชทายาทโดยไม่รู้ตัวนะ"
"ไอ้เจ้านี่..."
กลายเป็นว่าเด็กชายถูกอีกฝ่ายจี้จุดเข้าเต็ม ๆ
"กรี๊ด!!!"
"ว้าย!"
"หนีเร็ว!"
"เกิดอะไรขึ้น!" เสียงเอะอะโวยวายตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหลายคู่ดังมาจากโรงอาหารทำให้คณะครูและเหล่าทหารที่กำลังเดินไปดูความเรียบร้อยของเด็ก ๆ ตกใจ ยิ่งเห็นพวกเขาวิ่งมาทางนี้จึงรีบตะโกนถาม
"อาจารย์คะ! มีคนตีกันค่ะ!" เด็กหญิงคนหนึ่งฟ้องพลางชี้ไปยังที่ตั้งของโรงอาหาร
"เจ้าเด็กพวกนี้ ทำไมถึงชอบก่อเรื่องนักนะ อีกเดี๋ยวผู้ปกครองก็จะมาเยี่ยมแล้ว ยังมาสร้างความวุ่นวายอีก" อาจารย์สาวใส่แว่นคนหนึ่งใช้นิ้วกลางดันแว่นสะท้อนแสงวาววับ ทุกคนรู้ดี เธอคืออาจารย์สุดเนี้ยบและเคร่งมารยาท และแล้วหญิงสาวก็เดินแหวกฝูงชนตรงไปที่โรงอาหารพร้อมไม้เรียว
งานนี้ต้องจับฟาดก้นเรียงคน!
ภายในโรงอาหารซึ่งตอนนี้โต๊ะกับเก้าอี้ตั้งไม่เป็นระเบียบ ข้าวของตกกระจายเกลื่อนพื้น ทางฝั่งด้านในสุดก็เป็นจุดที่พวกเจ้าชายทั้งห้าจากสองดินแดนปักหลักอยู่ ส่วนทางด้านฝั่งประตูทางออกก็เป็นเขตของเจ้าชายปีศาจและคุณชายตระกูลองครักษ์ ตอนนั้นเอง มาดิส รินเซีย ที่ยืนกอดอกอยู่ก็ประกาศออกมาเสียงดัง
"เจ้าพวกแดนมืด! วันนี้แหละพวกฉันจะถล่มให้เละเลย!"
"เจ้าพวกสองดินแดน! คิดจะถล่มพวกฉันเหรอ! ฝันไปเถอะ! วันนี้แหละ วาเรียสแอนด์เดอะแก๊งจะซัดให้สลบยกทีมเลย!"
"เฮ้!!!" ทันทีที่วาเรียสประกาศสงครามจบ พวกเทมเพสก็ส่งเสียงเฮลั่นจากทางด้านหลัง
"คาเวล ดาเวีย ส่งมะเขือเทศไปถล่มเลย" มาดิสสั่งจบ เจ้าชายแห่งซิลวาและเจ้าชายแห่งเทเอียนก็หยิบมะเขือเทศจากในลังกระดาษที่ขนมาขว้างใส่ฝ่ายตรงข้ามรัว ๆ กราเซลกับโรเอลก็ไปยกลังกระดาษมาเพิ่มจากนั้นก็ช่วยปาใส่อีกแรง
"เทมเพส มีดหั่นสเต๊ก"
"ได้ครับเจ้าชาย" คุณชายวินเทอร์พุ่งไปคว้ามีดหั่นสเต๊กที่ตกอยู่บนพื้นสองเล่มจากนั้นก็พุ่งไปหาห่ากระสุนสายพันธุ์ผักผลไม้ก่อนจะใช้อาวุธในมือสองข้างฟันมะเขือเทศทิ้งรัว ๆ
ฟุ่บ!
อาเนฟกระโจนข้ามหัวเด็กชายผมหางม้าพร้อมขนมปังแท่งแข็ง ๆ ในมือตามด้วยใช้มันปัดมะเขือเทศทิ้งอีกชุดใหญ่ เทมเพสสไลด์มาข้าง ๆ แล้วขว้างมีดหั่นสเต๊กไปหาฝ่ายตรงข้าม มาดิสกลิ้งหลบทันควันทำให้มีดบินไปเสียบมะเขือเทศที่ดาเวียกับโรเอลกำลังจะปามาทำให้น้ำสีแดงใสพุ่งใส่หน้าทั้งสอง คุณชายวินเทอร์จึงอาศัยจังหวะนี้ขว้างจานกระเบื้องไปกระแทกศีรษะสองคนนั้นจนหงายหลัง
"ดาเวีย! โรเอล! บ้าเอ๊ย!" เจ้าชายแห่งเทเอียนกับเจ้าชายแห่งเอลด้าร่วงไปแล้ว มาดิสกำลังจะออกไปลุยทว่าก็ต้องดีดตัวหลบทันควันเมื่ออาเนฟพุ่งมาพร้อมฟาดขนมปังแท่งใส่ เจ้าชายแห่งแดนเทวากระโดดไปคว้าขนมปังแท่งที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วฟาดกลับคืน
ขวับ!
อาเนฟตีลังกากลับหลังหลบทันควันทำให้มาดิสพลาด แต่เด็กชายผมขาวก็ยังตามมาไล่ฟาดต่อ คุณชายเคลลินเหวี่ยงขนมปังแท่งปัดป้องก่อนจะดีดตัวขึ้นกลางอากาศแล้วขว้างขนมปังลงมา มาดิสดีดตัวหลบจากนั้นก็พุ่งมาพร้อมฟาดขนมปังใส่อาเนฟทีเดียว เด็กชายผมฟ้าก็ปลิวกลับไปหาแก๊งเพื่อน
"ยังไม่จบหรอกน่า!" เจ้าชายแห่งแดนเทวาคว้าช้อนส้อมที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาปากลับไปอีก เทมเพสที่มีมีดหั่นสเต๊กในมือก็รีบปัดป้องกระสุนช้อนส้อมก่อนจะถูกจานกระเบื้องร่อนมากระแทกกลางลำตัวจนหงายหลังล้มกลิ้ง
ฟุ่บ!
วาเรียสกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะกินข้าวก่อนจะวิ่งไปหาฝ่ายตรงข้ามโดยกระโดดไปหาโต๊ะแถวข้าง ๆ สลับกับโต๊ะแถวตัวเองเหมือนกับวิ่งซิกแซกทำให้มาดิส คาเวล และกราเซียปามะเขือเทศไม่โดน เจ้าชายปีศาจน้อยคว้าถาดข้าวที่ขวางทางแล้วร่อนไปหาอีกฝ่าย ทั้งสามพุ่งหลบไปคนละทิศละทาง วาเรียสจึงอาศัยจังหวะนี้กระโดดถีบมาดิสที่กำลังลุกขึ้นมาพอดี
พลั่ก! โครม!
"ประเคนลูกถีบให้ หวังว่าชีวิตจะเจริญขึ้นนะ" ว่าจบ เด็กชายผมดำก็ตีลังกากลับหลังถอยไปหาฝ่ายตัวเอง คาเวลกับกราเซลเห็นเหตุการณ์พอดีจึงลุกขึ้นวิ่งไปหาฝ่ายศัตรูเป็นจังหวะเดียวกันกับที่โยริคและเฟลมช่วยกันยกหม้อแกงจืดมาพอดี
"แกงจืดมาเสิร์ฟแล้วครับ! รับน้า!" ว่าแล้วทั้งสองก็สาดแกงจืดใส่ฝ่ายตรงข้าม คาเวลเหยียบเต้าหู้ไข่ลื่นล้มแถมสไลด์ไปชนโต๊ะที่ขวางทาง ในขณะที่กราเซลวิ่งหลบไปที่มุมหนึ่งของห้องก่อนจะกลับออกมาพร้อมไม้ถูพื้นตามด้วยไล่ฟาดคนเสิร์ฟแกงจืด วาเรียสพุ่งมาขวางไว้ทำให้โดนฟาดปลิวไปกระแทกโต๊ะแทน
ทางด้านโยริคกับเฟลมก็หลบมาหักขาเก้าอี้จากนั้นก็วิ่งกลับไปฟาดไม้ใส่เจ้าชายแห่งโรซาน กราเซลยกไม้ถูตั้งรับทำให้สไลด์ถอยหลังไปเล็กน้อยจากนั้นก็พุ่งกลับมาพร้อมโชว์ลีลาควงไม้ถูพื้นราวกับควงกระบอง คุณชายโดเนลล่ากับคุณชายไพลาริสใช้ขาโต๊ะปัดป้องไม่ทันจึงถูกไม้ถูพื้นฟาดใส่เต็มแรงส่งผลให้ทั้งสองปลิวไปกระแทกโต๊ะสลบคาที่ทั้งคู่
"โยริค! เฟลม! แก! ไอ้เจ้าชายหัวเขียวน้ำทะเล!" เทมเพสสบถพลางจ้องหน้าเจ้าชายผมสีเขียวน้ำทะเล ที่เขาต้องระบุว่าสีเขียวแบบไหนเพราะตัวเองก็หัวเขียวเช่นกัน
คุณชายวินเทอร์คว้าช้อนส้อมแล้ววิ่งไปหาฝ่ายตรงข้าม คาเวลที่เพิ่งลุกได้ก็คว้าตะเกียบวิ่งมาหา จังหวะที่ทั้งสองกำลังจะเผชิญหน้ากัน เทมเพสก็เปลี่ยนจากใช้ส้อมแทงอีกฝ่ายมาเป็นใช้เท้าเตะแทน
พลั่ก!
เจ้าชายแห่งซิลวาเอาตะเกียบรีบฝ่าเท้าไว้ได้พอดี เทมเพสจึงชักเท้ากลับตามด้วยโชว์ลีลาตวัดดาบใส่ฝ่ายตรงข้ามรัว ๆ ทั้งที่อาวุธในมือเป็นช้อนกับส้อม คาเวลทำได้แค่ใช้ตะเกียบปัดป้องก่อนจะพลาดท่าเมื่ออีกฝ่ายสะบัดผมหางม้าฟาดหน้า เจ้าชายแห่งซิลวาจึงรีบดีดตัวขึ้นกลางอากาศแล้วขว้างตะเกียบลงมา เทมเพสใช้ช้อนส้อมปัดทิ้งก่อนจะพุ่งขึ้นไปแล้วตวัดเท้าเตะคาเวลจนพุ่งลงมากระแทกพื้น
โครม!
จังหวะที่คุณชายวินเทอร์ตั้งท่าลงพื้น กราเซลก็วิ่งมาพร้อมฟาดไม้ถูพื้นใส่ เด็กชายผมหางม้ากระโดดถอยหลังหลบทันควันจากนั้นก็พุ่งกลับมาพร้อมกำปั้นจะชกหน้า ทางด้านคนใช้ไม้ถูก็ฟาดไม้มากระแทกสีข้างเทมเพสได้ก่อน ส่งผลให้เด็กชายผมหางม้าปลิวไปกระแทกโต๊ะด้านข้างเต็มแรง
โครม!
"เทมเพส!" อาเนฟเห็นเพื่อนโดนซัดก็โกรธจึงเข้ามาท้าชนแทน "แกนะแก! แกทำเพื่อนฉัน!" คุณชายเคลลินคว้าไข่ต้มที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกมาขว้างใส่กราเซล เด็กชายเหวี่ยงไม้ถูพื้นปัดทิ้งทันควันก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออาเนฟร่อนจานกระเบื้องมาชนหน้าผากจนเซล้ม
"ให้ตายสิ!" มาดิสที่เพิ่งลุกได้ก็เรียกปีกสีขาวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเทวาออกมาคู่หนึ่ง เพียงแค่สะบัดปีกครั้งเดียว แรงลมมหาศาลก็พัดอาเนฟปลิวไปกระแทกผนังจนหมดสภาพ
จังหวะนั้นเอง วาเรียสที่เพิ่งลุกขึ้นมาแล้วเห็นเพื่อนปลิวข้ามหัวไปก็หันมาจ้องหน้าเจ้าชายแห่งแดนเทวา พริบตานั้นบนแผ่นหลังของเจ้าชายปีศาจก็ปรากฏปีกสีทมิฬซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวปีศาจ ทว่ามันกลับมีสองคู่ทำให้มาดิสเบิกตากว้างเพราะชาวเทวาทุกคนมีปีกคู่เดียว แต่พวกปีศาจ ระดับธรรมดากับระดับกลางมีคู่เดียว ระดับสูงมีสองคู่ และจ้าวปีศาจมีสามคู่ ทันใดนั้นเจ้าของดวงตาสีแดงก็แสยะยิ้มก่อนจะสะบัดปีกพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม
"ย้าก!!!!!" วาเรียสหุบปีกห่อหุ้มร่างตัวเองขณะควงสว่านผ่านไป จากนั้นแรงลมที่มีพลังมากกว่ามาดิสก็พัดเอาเจ้าชายแห่งแดนเทวาปลิวไปชนผนังเต็มแรงทำให้เขาหมดสติและร่วงลงมากระแทกพื้นซ้ำสอง
"ฉันชนะ" วาเรียสร่อนลงมายืนกลางห้องตามด้วยเก็บปีกคู่ใจแล้วชูมือขึ้นฟ้าราวกับพิชิตโลก ลุยเละกันมาตั้งนาน สุดท้ายเจ้าชายปีศาจก็เป็นฝ่ายชนะ พลันเสียงประตูเปิดก็ดังขึ้นก่อนที่อาจารย์สาวสุดเนี้ยบจะเดินเข้ามาพร้อมขยับเเว่นตาเล็กน้อย
"นี่พวกเธอเล่นบ้าอะไรกัน!!!"
"..."
ซวยแล้ว! อาจารย์มา!
หลังจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทผ่านไปก็มีนักเวททหารเข้ามาฟื้นฟูโรงอาหารให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมท่ามกลางสายตาของผู้ปกครองที่เดินมาทางมาเยี่ยมลูกหลาน ราชาทั้งห้าจากแดนเทวาและแดนมนุษย์ก็มาดูลูกชายพร้อมกับตำหนิที่ไปก่อเรื่องทะเลาะกับชาวบ้าน ในขณะที่พวกวาเรียสกำลังนั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อยพลางมองพวกพ่อแม่มาหาลูก ๆ
ถูกอาจารย์เอาไม้เรียวตีก้นไม่น่ากลัวเท่าได้ยินเสียงพ่อแม่หรอก!
"คิดว่าพ่อเราจะมาไหม" โยริคหันมาถามเพื่อน ๆ
"ตอนแรกก็อยากให้มานะ แต่ตอนนี้อย่าเลย" เฟลมกลัวถูกดุเพราะเรื่องเด็กตีกันคงรู้กันทั่วค่ายแล้ว แถมพวกก่อเรื่องก็ไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาด้วย
"ไม่ต้องมาแหละดีแล้ว" อาเนฟก็ไม่อยากโดนเทศนาเหมือนกัน
"ฉันว่ามันคงได้แค่ฝัน" เทมเพสเหงื่อตกเมื่อเห็นผู้ชายชาวแดนมืดสี่คนเดินฝ่าฝูงชนมาทางนี้ พวกอาเนฟจึงหันมามองบ้างก่อนจะพากันหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะพวกเขารู้ว่าสี่คนนี้เป็นใคร ท่าทางคงจะรู้ข่าวแล้วถึงทำหน้าโหดมาเลย ต่อให้หน้าตาหล่อแค่ไหนแต่แผ่รังสีอำมหิตขนาดนี้ก็น่ากลัวล่ะ
"เทมเพส พ่อได้ยินว่าเจ้าไปทะเลาะวิวาทกับคนอื่นมาเหรอ" ชายหนุ่มผมสีเขียวมรกตยาวถึงสะโพก ดวงตาสีเดียวกันกับเส้น ใบหน้าหล่อเหลาจ้องหน้าลูกชายอย่างเอาเรื่อง ชื่อของเขาคือ เซฟิรัส วินเทอร์ หัวหน้าจตุรองครักษ์ของจ้าวปีศาจ
"อาเนฟ พ่อส่งเจ้ามาเรียนนะไม่ใช่ให้ไปทะเลาะกับใคร" ชายหนุ่มผมสีฟ้าเข้มยาวถึงกลางหลัง ดวงตาก็เป็นสีเดียวกัน ใบหน้าหล่อเหลาแต่ติดสวยนิดหน่อยไม่สบอารมณ์ที่ลูกชายทำตัวแบบนี้ ชื่อของเขาคือ ทาลิส เคลลิน
"นี่มันหมายความว่ายังไงฮะ โยริค" ชายหนุุ่มผมสีน้ำตาลยาวประบ่า ดวงตาสีน้ำตาล ใบหน้าหล่อเหลามองเข้าไปในตาของลูกชายขณะนั่งจ้องหน้า ชื่อของเขาคือ เมอริเดียน โดเนลล่า
"เตี้ยน้อยอย่างเจ้าไปทะเลาะกับใครได้ด้วยเหรอเฟลม" ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงยาวระคอแต่ค่อนข้างฟู ดวงตาสีเพลิง เขามองลูกชายแล้วก็ส่ายหน้า ชื่อของเขาคือ โจซิส ไพลาริส
"ท่านพ่อก็ตัวเล็กกว่าเพื่อนไม่ใช่เหรอครับ" เฟลมไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียวแน่
"อ้าว ๆ ไอ้นี่มันย้อน" โจซิสชักอยากจับลูกชายไปโยนลงบ่อน้ำแล้วสิ
"พวกท่านมากันแค่นี้ใช่ไหมครับ" วาเรียสที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ถามขึ้นทั้งที่หน้าซีดเพราะถ้าสี่คนนี้มาล่ะก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจ้าวปีศาจจะมาด้วย ทั้งสี่หันมามองหน้าเจ้าชายปีศาจแล้วหัวเราะเบา ๆ
"เจ้าชายน้อย ถ้าอยากรู้ว่าคำตอบคืออะไรก็หันหลังไปสิขอรับ"
"หันหลัง?" เจ้าหนูเอียงคอมองเมื่อเห็นเซฟิรัสชี้ไปทางด้านหลัง พลันเงาทะมึนก็ทาบลงมาบนพื้นทำให้วาเรียสสะดุ้งโหยง จิตสังหารแบบนี้ไม่ผิดแน่ นึกแล้วเด็กชายก็ทำใจดีสู้เสือค่อย ๆ หันหลังไปดู
ชายหนุ่มผมสีทมิฬยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีแดงคู่นั้นช่างน่ากลัวนัก ใบหน้าหล่อเหลาชนิดที่สาว ๆ เห็นแล้วต้องกรี๊ดกร๊าดแต่ขอโทษ ตอนนี้ไม่มีใครกรี๊ดเพราะบรรยากาศรอบตัวมันน่ากลัวสุด ๆ วาเรียสรีบเปลี่ยนจากท่านั่งขัดสมาธิเป็นพับเพียบเรียบร้อยราวกับกุลสตรี (?) แล้วปั้นหน้ายิ้มหวานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"สวัสดีครับพ่อ"
ผัวะ!
"ไอ้วาเรียส! ไอ้ลูกเวร! นี่ขนาดถีบส่งออกจากบ้านแล้วยังมาก่อเรื่องอีกเหรอ!" คาเรียส เพนเดลรอน จ้าวปีศาจลำดับที่หกแห่งแดนมืดใช้สันฝ่าสับหัวลูกชายทีเดียว วาเรียสเกือบจะหน้าทิ่มพื้นเลย "บอกแล้วใช่ไหมว่าไปที่อื่นต้องทำตัวดี ๆ แล้วนี่อะไร เจ้าเป็นหัวโจกพาพรรคพวกทะเลาะกับเจ้าชายทั้งห้าใช่ไหม! ตอบ!"
"ข้าเจ็บนะพ่อ ฟาดเเรงชะมัด"
"เออ! สมน้ำหน้า! พูดอะไรก็เหมือนหูซ้ายทะลุหูขวา! อีกอย่างนะ ทางโรงเรียนส่งจดหมายมาบอกว่าเจ้ามาสายเรียนประจำ แอบงีบหลับในห้องเรียน บางคาบก็โดด เหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาค่าขนมแล้ว!"
"หา! จะหักค่าขนมข้าเหรอพ่อ ไม่เอานะ! แล้วข้าจะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อขนมล่ะ!"
"ไม่ต้องมาประท้วง ค่าเทอมพ่อยังจ่ายให้ แต่ค่าขนมต้องแก้ปัญหาเอง ได้ยินว่าไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารนี่ ถ้าอยากมีตังค์ก็ทำงานหาเงินเองสิ!"
"ไม่เอา! อย่าหักค่าขนมนะพ่อ นะ ๆ ไม่หักนะ" วาเรียสกอดขาร่างสูงพลางทำหน้าตาบ๊องแบ๊วออดอ้อนก่อนจะใช้ท่าไม้ตายน้ำตาพิฆาตกระชากใจ "ฮึก ๆ ไม่หักค่าขนมนะ" แถมยังมีการสะอึกสะอื้นเหมือนจะร้องไห้อีก
"เสียใจลูกชาย อ้อนให้ตาย พ่อก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก" คาเรียสหยิบแว่นตาสีดำขึ้นมาใส่ป้องกันรังสีน้ำตาที่พยายามโจมตี แน่นอนว่าคราวนี้เด็กชายอ้อนไม่ได้ผล
"ม่าย!!!!"
"อะไรไม่ ไฟไหม้เหรอ เลิกแหกปากแล้วเตรียมตัวไปทำกิจกรรมได้แล้ว วันนี้พ่อไม่ได้มาในฐานะจ้าวปีศาจแต่มาในฐานะผู้ปกครองของไอ้เด็กบ้าคนหนึ่ง แสดงให้เห็นหน่อยสิว่าเด็กบ้าน่าถีบอย่างเจ้าก็มีดีเหมือนคนอื่นอยู่บ้าง" คาเรียสแกะมือเหนียวหนึบยิ่งกว่ากาวตราตุ๊กแกของวาเรียสออกจากขาตัวเองก่อนจะรีบเดินหนีไป ทิ้งให้เจ้าชายน้อยนั่งอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อได้สติ เด็กชายก็ยืนขึ้นแล้วประกาศเสียงดัง
"คอยดูนะพ่อ! เด็กบ้าคนนี้แหละจะเหนือกว่าคนอื่นให้ดู!"
