เกล็ดหิมะแสงจันทร์
ณ หุบเขาน้ำแข็ง ทั้งสองคนออกเดินทางจากเมืองหนานไห่มาถึงหุบเขาน้ำแข็งใช้เวลาไปเกือบเดือน
“ทะ ท่านพี่เจ้าคะ ที่นี่หนาวเกินไป ขะข้าหนาวมากเจ้าค่ะ”เจียงหลานหลินนั่งหดตัวกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น ชายหนุ่มเห็นสีหน้าหญิงสาวหน้าซีดปากสั่นจึงขยับเข้าไปโอบกอดนางเอาไว้แน่น
“อดทนอีกนิดนะ ใกล้ถึงที่พักแล้ว”หยางอู๋หลงกล่าวปลอบหญิงสาวเอาไว้ ภายนอกรถม้าหิมะตกลงมามากกว่าปกติ ด้วยร่างกายที่บอบบางบวกกับการบาดเจ็บภายในจึงทำให้ร่างกายของเจียงหลานหลินอดทนต่อความเย็นได้น้อย ส่วนหยางอู๋หลงเขามีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งจึงอดทนต่อความเย็นได้
“นายท่านขอรับ ถึงที่พักแล้วขอรับ”ชายขับรถม้ากล่าว
“อืม” หยางอู๋หลงกล่าวแล้วก็เปิดม่านดูภายนอก ด้านหน้าเป็นโรงเตี๋ยมขนาดเล็ก ไร้ผู้คน เขาจึงอุ้มหญิงสาวเดินลงจากรถม้าเข้าไปในโรงเตี๋ยม พอเปิดประตูเข้าไปภายในมีหญิงชรา 1 คน หญิงสาวหน้าตางดงามอีก 2 คน หันมามองดูเขา
“ข้าต้องการห้องพัก มีห้องว่างหรือไม่”หยางอู๋หลงกล่าว หญิงสาวหันไปมองใบหน้าหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มนางจึงตอบออกไป
“มีว่างหลายห้อง ท่านต้องการกี่ห้องล่ะ”หญิงชรากล่าว
“ข้าขอสองห้อง ห้องหนึ่งให้ข้ากับภรรยา อีกห้องให้คนขับรถม้าของข้า”หยางอู๋หลงกล่าว
“ได้ ถ้างั้นข้าจะให้คนนำทางไป อาหลิงพาพวกเขาไป”หญิงชรากล่าว
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวชื่ออาหลิงตอบแล้วเดินนำชายหนุ่มขึ้นไปชั้นสองของโรงเตี๋ยม
“นี่คือห้องของท่าน และอีกห้องตรงนั้น ท่านต้องการอาหารหรือไม่”อาหลิงถาม
“อืม เอาข้าวต้มร้อนๆ สองชามกับชาร้อนๆกาหนึ่ง เตรียมให้อีกห้องด้วย”หยางอู๋หลงกล่าว
“ได้ ท่านรอสักครู่ ข้าจะนำอาหารมาให้” กล่าวจบอาหลิงก็เดินลงไปด้านล่าง เมื่อเข้าไปในห้อง หยางอู๋หลงวางหญิงสาวลงบนเตียงแล้วยัดยาใส่ปากของนาง จับนางนั่งหันหลังเข้าหาตน ปล่อยพลังเข้าไปช่วยปรับสมดุลในร่างกายนาง เมื่อร่างกายของนางเริ่มอุ่นจึงหยุดแล้วจับนางนอนบนเตียงห่มผ้าให้นาง ชายหนุ่มนั่งลูบหน้าผากหญิงสาวเบาๆ
“เจ้าต้องปลอดภัย พี่จะต้องช่วยเจ้าให้ได้”หยางอู๋หลงกล่าว เพียงไม่นานอาหลิงก็กลับมาพร้อมอาหารที่สั่ง นางสังเกตเห็นใบหน้าของหญิงสาวพร้อมไอเย็นจากร่างกายของนาง นางจึงเอ่ยถามชายหนุ่ม
“นี่คุณชาย นางเป็นอะไรนางไม่สบายรึ เหตุผลใบหน้านางถึงซีดเพียงนี้”อาหลิงถามอย่างสงสัย
“ใช่ นางไม่สบาย นางโดนความเย็นด้านนอกมากเกินไป”หยางอู๋หลงกล่าว
“อ่อ เป็นเช่นนี้นี่เอง ถ้าท่านต้องการสิ่งใดเพิ่มเรียกข้าได้ตลอดนะข้าอยู่ด้านล่าง” อาหลิงกล่าว
“ขอบใจแม่นางมาก”หยางอู๋หลงกล่าว
ด้านล่างของโรงเตี๋ยม
“ท่านอาจารย์ ข้าสังเกตเห็นมีไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างของนางเจ้าค่ะและไอเย็นนี้มันช่างคล้ายกับไอเย็นของเกล็ดหิมะแสงจันทร์ยิ่งนักเจ้าค่ะ” อาหลิงกล่าวรายงานต่อท่านอาจารย์ของตน แท้ที่จริงแล้วทั้งสามคนคือคนของวังน้ำแข็งกวางหมิง วังแห่งนี้มีผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวคือราชินีกวางหมิง นางสร้างวังแห่งนี้ขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง นางเก่งกาจฝึกฝนวิชาจนเป็นที่รู้จักกันทั่วแคว้น ไม่มีผู้กล้ามีเรื่องด้วย แม้กระทั่งคนจากราชวงค์ยังไม่กล้ามีเรื่องด้วย เขาเล่าลือกันว่าราชีนีกวางหมิงนั้นบรรลุถึงระดับบรรพกาลแล้ว ซึ่งยังไม่มีผู้ใดในแคว้นมีพลังวิญญาณถึงขั้นนั้นเลย และคนที่อยู่ในวังกวางหมิงล้วนมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน สตรีสามคน หญิงชราคือหนึ่งในสี่ผู้คุมกฎของวังกวางหมิงนามว่า โม่ชิงชิวและสตรีอีกสองคนเป็นศิษย์ของนาง นามว่าซูหลิงกับซูจิน ครั้งนี้พวกนางออกมาดูลาดราวและออกตามหาเกล็ดหิมะแสงจันทร์ ตามคำสั่งขององค์ราชินี
“อาหลิงอาจิน ฟ้ามืดพวกเจ้าทั้งสองหลอกล่อชายคนนั้นให้ออกมาจากห้อง ข้าจะเข้าไปตรวจสอบดูว่าใช่เกล็ดหิมะเเสงจันทร์หรือไม่”โม่ชิงชิวกล่าว
“เจ้าค่ะ” “เจ้าค่ะ” ศิษย์ทั้งสองรับคำ
พอถึงยามดึก ความเงียบสงบเข้ามาเยือน อาหลิงแอบเปิดประตูห้องของหยางอู๋หลง แต่ไม่ทันที่จะเข้าไปหยางอู๋หลงรู้ตัวก่อน นางจึงรีบหนีออกมาล่อให้ชายหนุ่มตามออกมาและหยางอู๋หลงก็ตามออกมาตามคาด เมื่อชายหนุ่มออกไปจากห้องโม่ชิงชิวก็เข้าไปตรวจสอบร่างกายของเจียงหลานหลิน เป็นอย่างที่คิด ภายในร่างของหญิงสาวมีเกล็ดหิมะแสงจันทร์อยู่จริงๆ แต่มันฝังอยู่รวมกันกับดวงจิตของนางจึงไม่สามารถนำออกมาได้ มีเพียงทางเดียวคือนำร่างของนางกลับไปให้องค์ราชินีดึงออกมาเองเท่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา โม่ชิงชิวจึงอุ้มร่างของเจียงหลานหลินขึ้น และเป็นจังหวะเดียวกันที่เจียงหลานหลินตื่นขึ้นมาพอดี
“ทะ ท่านเป็นใคร ชะช่วยด้วยยย ท่านพี่ช่วยข้าด้วยยย”เสียงกรี๊ดร้องของเจียงหลานหลินดังขึ้น
