พิสูจน์

หลีซ่งและหลัวอี้เฟย ทั้งสองเดินลงมายังห้องรับรองแขก หลีซ่งเปิดประตูห้องให้หลัวอี้เฟยเดินเข้าไปก่อน

“ข้าหลัวอี้เฟยเป็นผู้ดูแลหลักของหอเจิ้นหนาน มิทราบว่าท่านมีนามว่าอันใดรึ”หลัวอี้เฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

“ข้าไม่มีนาม และไม่จำเป็นต้องเอ่ยนามด้วย สรุปว่าอย่างไร จะซื้อหรือไม่ ถ้าไม่ ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา”หยางอู๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ท่านอาวุโสท่านนี้ ท่านก็ใจร้อนเสียจริง ข้าได้ตรวจสอบสิ่งที่ท่านนำมาแล้ว พบว่ามันวิเศษยิ่งนักจึงอยากทราบว่า ท่านกลั่นเองหรือ…”หลัวอี้เฟยกล่าวยังไม่จบ หยางอู๋หลงจึงกล่าวแทรกก่อน

“เจ้าไม่เชื่อว่าข้าเป็นคนกลั่นงั้นรึ”หยางอู๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าไม่ขายแล้ว” หยางอู๋หลงกล่าวพร้อมเดินเข้าไปคว้าขวดน้ำอมฤตในมือของหลัวอี้เฟยด้วยความรวดเร็ว โดยที่หลัวอี้เฟยยังไม่ทันตั้งตัว

“การทำการค้าต้องอยู่ในขอบเขตของความเชื่อใจ ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ ข้าขอตัว”หยางอู๋หลงกล่าวจบกำลังจะเดินออกไป หลัวอี้เฟยก็เดินมาขวางหน้าเอาไว้

“ช้าก่อน ท่านอาวุโส ข้าเพียงถามเพื่อความมั่นใจเท่านั้น เพราะน้ำอมฤตที่ท่านนำมามันวิเศษเกินกว่าคนทั่วไปจะสามารถกลั่นออกมาได้ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาท่าน”หลัวอี้เฟยกล่าว

“ถ้าข้าบอกว่าข้าเป็นคนกลั่นเองล่ะ เจ้าก็คงไม่เชื่อ”หยางอู๋หลงกล่าว

“ท่านก็ต้องพิสูจน์ให้ข้าเชื่อสิ”หลัวอี้เฟยกล่าว

“พิสูจน์ แล้วข้าจะได้สิ่งใด ถ้าข้าไม่ได้ประโยชน์อันใด ข้าก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์”หยางอู๋หลงกล่าว

“ถ้าท่านพิสูจน์ได้ว่าท่านเป็นผู้กลั่นน้ำอมฤตนี้จริง ข้าจะทำสัญญาการค้ากับท่าน ท่านต้องการสิ่งใดข้าจะทำตามคำขอของท่าน”หลัวอี้เฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หยางอู๋หลงยกยิ้มมุมปาก

“ได้ ข้าจะพิสูจน์ นำทางพาข้าไปพิสูจน์ได้เลย”หยางอู๋หลงกล่าว หลัวอี้เฟยหันหน้าไปหาหลีซ่งพยักหน้าให้เพื่อสื่อถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไป หลีซ่งจึงเปิดประตู

“เชิญนายท่านทางด้านนี้ขอรับ”หลีซ่งผายมือแล้วเดินนำออกไป หยางอู๋หลงและหลัวอี้เฟยเดินตามออกไปทันที

ทั้งสามคนเดินขึ้นมายังชั้นบนสุดของหอเจิ้นหนาน ซึ่งชั้นนี้เป็นที่ตั้งของห้องปรุงโอสถของหลัวอี้เฟย

“ห้องนี้เป็นห้องปรุงโอสถส่วนตัวของข้า ท่านพิสูจน์โดยใช้สมุนไพรเหล่านี้ได้เลย”หลัวอี้เฟยกล่าว หยางอู๋หลงเดินเข้าไปสำรวจหม้อกลั่นยา มันคือหม้อกลั่นที่ใหญ่และหนาทนทาน น่าจะทำมาจากวัตถุที่แข็งแรงและผ่านการลงอักขระจากผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นสูงมาด้วย จากนั้นเขาจึงเดินไปสำรวจสมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง เขาสังเกตเห็นในตะกร้าหนึ่งมีสมุนไพรและดอกไม้ที่มีผลในการช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ เขาจึงคิดนำสมุนไพรเหล่านี้มาเพิ่มในน้ำอมฤตด้วย หยางอู๋หลงเดินกลับไปยืนหน้าหม้อกลั่นยา เขาใช้พลังดึงน้ำที่อยู่ในถังส่งเข้าไปในหม้อกลั่น นำสมุนไพรและดอกไม้ในตะกร้าด้านข้างใส่ลงไปตาม จากนั้นเขาควบคุมพลังสร้างเปลวไฟขั้นมาแล้วส่งเข้าไปใต้หม้อกลั่น เขาควบคุมความร้อนของเปลวไฟด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกครั้งใช้ควบคุมภายในหม้อกลั่น เพียงไม่นานไม่ถึงครึ่งก้านธูปเขาก็กลั่นน้ำอมฤตเสร็จ เขาดึงเอาน้ำอมฤตออกมาใส่ขวดที่ตั้งไว้ด้านข้างได้ทั้งหมด 10ขวด ปิดฝาไว้ แล้วหันไปมองชายสองคนที่ยืนตกตะลึงกับสิ่งที่ตนเห็นเขาไม่คาดคิดเลยว่าชายแปลกหน้าคนนี้จะเก่งถึงเพียงนี้

“พวกเจ้าสองคนจะตะลึงอีกนานไหม ข้ากลั่นเสร็จแล้ว”หยางอู๋หลงกล่าว ทั้งสองคนยังตะลึงไม่หาย พวกเขาสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์เต็มสิบที่กลั่นออกมาและที่น่าตกใจที่สุดคือเขาใช้เวลากลั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่ต้องตักตวงสมุนไพรใดๆ เลย มันวิเศษมาก

“ข้าขอถามท่านอาวุโสได้หรือไม่ ว่าน้ำอมฤตที่ท่านกลั่นคืออันใด ข้าไม่เคยพบเจอในตำราปรุงยามาก่อน”หลัวอี้เฟยกล่าวถามด้วยความสงสัย

“มันเป็นสูตรเฉพาะที่ข้าคิดขึ้นเอง มันจะช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล เหมาะสำหรับสตรี” หยางอู๋หลงกล่าว

“ยอดเยี่ยมมาก ข้าไม่เคยพบผู้ใดที่เก่งกาจ มีความเชี่ยวชาญในการปรุงยาเช่นท่านมาก่อน ข้าขอนับถือ ข้าเชื่อในความสามารถของท่านแล้ว และตามที่ข้ารับปากไว้ข้าจะทำความที่ท่านต้องการ ท่านต้องการสิ่งกล่าวมาได้เลย”หลัวอี้เฟยกล่าว หยางอู๋หลงยกยิ้ม

“ข้าต้องการส่วนแบ่งเพียงสองในสามส่วนของการประมูลสินค้าที่ข้ามอบให้เท่านั้นและข้าอยากให้ทางหอเจิ้นหนานสนับสนุนศิษย์เอกของข้าในการต่อสู้ชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล เท่านี้พอจะทำได้หรือไม่”หยางอู๋หลงกล่าว

“ผู้นำตระกูล ตระกูลใดกันหรือขอรับ”หลีซ่งกล่าวถามด้วยความสงสัย