ชิงตำแหน่ง
7 วันต่อมา ณ ลานประลองหน้าตระกูลหยาง ตระกูลหยางเป็นตระกูลเดียวที่ตั้งอยู่บนเขาหนานไห่ ซึ่งบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยยอดเขา หินก้อนใหญ๋รายล้อมรอบเขาหนานไห่ สมาชิกของตระกูลยืนเรียงรายกันเพื่อรอดูการคัดเลือกผู้นำตระกูลคนใหม่ รวมถึงหยางอู๋หลงและเจียงหลานหลิน
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมารวมตัวกันแล้วก็ถึงเวลาคัดเลือกผู้นำตระกูลแล้ว ข้าจะให้ทุกคนเสนอชื่อคนที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำคนต่อไป เริ่มได้" หยางฉางจิ้งผู้ที่รักษาการตำแหน่งผู้นำตระกูลอยู่ตอนนี้ เขาคือน้องชายต่างมารดาของหยางอู๋ชง ผู้นำตระกูลคนก่อนและเป็นบิดาของหยางอู๋หลงอีกด้วย
“ข้าเสนอนายท่านฉางจิ้งเป็นผู้นำคนต่อไป”ชายแก่แต่งกายภูมิฐานคนหนึ่งกล่าวขึ้น และมีอีกสองสามคนกล่าวเสริมเขา
“ข้าก็เห็นด้วย” “ข้าเห็นด้วย” “ข้าด้วย”
“แต่ข้าไม่เห็นด้วย”เสียงของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังฝูงชนกล่าวขึ้น ทุกคนหันไปมอง ชายหนุ่มเดินฝ่าฝูงชนเดินมาตรงหน้าลานประลองสบตาเข้ากับหยางฉางจิ้ง
“ถ้านายท่านไม่คู่ควรเป็นผู้นำแล้วผู้ใดจะเหมาะสมเล่า”ชายคนหนึ่งกล่าวแทรกขึ้นมา
“ตัวข้าอย่างไรเล่า”หยางอู๋หลงกล่าว
“เจ้านี่นะ 555 เด็กที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีความสามารถเช่นเจ้า จะมาเป็นผู้นำตระกูลได้เยี่ยงไร น่าขำสิ้นดี”ชายคนเดิมกล่าว และทุกคนที่อยู่ในกลุ่มต่างหัวเราะขึ้นตามตามกัน
“หลานชาย เจ้าอายุยังน้อย ประสบการณ์ยังไม่มี เจ้าจะมาดูแลตระกูลได้อย่างไร การเป็นผู้นำ นอกจากจะเก่งกาจด้วยพลังวิญญาณแล้วต้องควบคุมดูแลคนได้ด้วย และเจ้ายังต้องหาทรัพย์สินเข้าตระกูลอีกด้วย เจ้ารู้หรือไม่" หยางฉางจิ้งกล่าว
“เรื่องนั้นข้าย่อมรู้อยู่แล้ว และข้าก็คิดว่าสามารถทำได้ข้าถึงมาเข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลในวันนี้อย่างไรเล่า”หยางอู๋หลงกล่าว
“เจ้าช่างกล้ากล่าวออกมาได้ ลำพังตัวเจ้าตอนนี้ยังอาศัยอยู่กระท่อมหลังเล็กตีนเขาอยู่เลยแล้วเจ้าจะหาทรัพย์สินใดมาให้ตระกูลได้”ชายชราอีกคนกล่าว
“หามาได้อย่างไรนั้น ข้ามีวิธีของข้า เมื่อข้าได้เป็นผู้นำเมื่อใดข้าถึงจะชี้แจงให้ทุกคนทราบ” หยางอู๋หลงกล่าวจบ หลีซ่งจากหอเจิ้นหนานก็เดินทางมาถึงหน้าลานประลอง หยางอู๋หลงหันไปมองเล็กน้อยก่อนหันหน้าไปสบตากับหยางฉางจิ้งอีกครั้งพร้อมแสยะยิ้ม หยางฉางจิ้งไม่สนใจหันไปกล่าวทักทายหลีซ่งทันที
“ท่านหลีซ่ง วันนี้ท่านมีธุระอันใดกับตระกูลหยางของเรารึ”หยางฉางจิ้งกล่าว
“ข้าได้ข่าวมาว่าวันนี้ตระกูลหยางจะคัดเลือกผู้นำตระกูล ข้าอยากเห็นการคัดเลือกด้วยจึงถือวิสาสะมาเข้าชมด้วย ท่านหยางคงไม่ว่า” หลีซ่งกล่าวแล้วหันไปมองหยางอู๋หลงแต่ชายหนุ่มกลับไม่มองเขาเลย
“โอ้ ถือวิสาสะอันใดกัน ดีเสียอีกมีท่านมาเป็นพยานให้ ทุกคนในที่นี้จะได้โต้แย้งไม่ได้อีก เชิญท่านหลีซ่งขึ้นมานั่งทางด้านนี้ได้เลย”หยางฉางจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ขอบใจท่านหยางมาก”กล่าวจบหลีซ่งก็เดินขึ้นไปนั่งเก้าอี้ที่เตรียมไว้ใกล้ๆ หยางฉางจิ้ง นอกจากนี้ยังมีฮูหยินของเขา บุตรชายและบุตรสาวของเขาอีก
“หลานชาย ในเมื่อเจ้าต้องการชิงตำแหน่งกับอา เจ้ามีสิ่งใดมาสู้กับอาคนนี้เล่า”หยางฉางจิ้งกล่าวพร้อมยกยิ้มมุมปาก
“ตามกฏตระกูลผู้ใดแข็งแกร่งที่สุดย่อมได้เป็นผู้นำ ฉะนั้นเรามาสู้กันตามกฏตระกูลดีที่สุด”หยางอู๋หลงกล่าว
“ได้ในเมื่อเจ้าต้องการ แต่อาเห็นว่าเจ้าอายุยังน้อยพลังวิญญาณยังอ่อนด้อยนัก อาจะส่งตัวแทนไปต่อสู้กับเจ้าแทนแล้วกัน จะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบเจ้า ฉางอวิ้นเจ้าเป็นตัวแทนพ่อไปสู้กับน้องชายเจ้าละกัน"หยางฉางจิ้งกล่าว
"ขอรับท่านพ่่อ" หยางฉางอวิ้นกล่าวพร้อมเดินลงมากลางลานประลอง
"ได้ ถ้าข้าชนะ ข้าจะถือว่าท่านได้ยอมยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ข้าแล้ว”หยางอู๋หลงกล่าวด้วยท่าทางมั่นใจ
“ท่านพี่ ข้าว่า…”เจียงหลานหลินที่ยืนจับแขนชายหนุ่มไว้แน่นพยายามจะห้ามปรามชายผู้เป็นที่รัก ชายหนุ่มหันไปสบตากับหญิงสาวข้างกาย
“เจ้าไม่ต้องห่วง พี่จัดการได้ เชื่อพี่”หยางอู๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลกุุมมือปลอบนางเบาๆ
“จะเจ้าค่ะ”หญิงสาวตอบเสียงเบา ไม่มั่นใจในคำกล่าวของชายคนรัก จากนั้น ชายหนุ่มก็เดินขึ้นไปบนลานประลอง
