บท
ตั้งค่า

EP 2 | ลิ้นชักความจำ

“พกไว้บ้างนะถ้าจะง่ายขนาดนี้”

ขาดคำเขาก็หมุนตัวเดินตรงไปยังบันไดเพื่อขึ้นชั้นสองทิ้งร่างบางที่เปลือยท่อนบนนั่งตัวแข็งทื่อด้วยความสับสน

ชาร์ลอตรู้สึกราวกับถูกเข็มแหลมทิ่มแทงข้างในใจ คำพูดของเขาเสียบค้างอยู่ในส่วนลึกของหัวใจโดยไม่รู้วิธีดึงออกก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะคลอหน่วงไปด้วยหยดน้ำ

มือเรียวรีบจัดการติดกระดุมเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อยในขณะที่ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตา ชาร์ลอตกัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา

“ฮึก..อึก”

เธอเงยหน้ามองไปทางบันไดของเพนท์เฮ้าส์อีกครั้ง ก่อนจะค้นลงไปในลิ้นชักความทรงจำของตัวเองที่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนเธอก็ไม่มีวันลืมมันได้เลย

สาเหตุที่ทำให้เรื่องราวของทั้งสองคนเดินทางมาจนถึงจุดนี้....

6 years ago…

“กรี๊ดด! พล็อตตัน!”

เสียงแหลมกรีดร้องโวยวายขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดก่อนที่เจ้าของเสียงจะโขกศีรษะลงกับโต๊ะสองสามครั้งโดยใช้มือบางรองหน้าผากของตัวเองกันเจ็บ

อาการของหญิงสาวทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสามคนหันมองพลางถอนหายใจออกมาพร้อมกันแต่ก็ไม่มีใครคิดจะเอ่ยห้ามจนเธอหยุดการกระทำและเงยหน้าขึ้นมาเอง

ชาร์ลอตสาวลูกครึ่งไทยอเมริกัน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์สาขาสื่อสารการแสดงในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เจ้าของดวงตาสวยสีน้ำตาลเทาภายใต้แพขนตางอนที่กำลังมองค้อนไปยังเพื่อนทั้งสามคน

“ไม่คิดจะห้ามกันเลยเหรอ”

ร่างบางหยัดตัวกลับมานั่งหลังตรงเช่นเดิมแต่ส่วนสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรไม่ได้ทำให้เธอดูแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้หรือต่อให้เธอลุกขึ้นยืนก็ยังเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มอยู่ดี

“ห้ามทำไม อย่างแกยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ”

จูเน่ สาวสวยเจ้าของตำแหน่งแฟชั่นนิสต้าประจำกลุ่มตอบตามตรงก่อนจะก้มลงสนใจข่าวงานFashion Weekในโทรศัพท์ของตัวเองเหมือนเดิม

“ย้ายตำแหน่งยังทันนะเว้ย หน้าตาสวยๆ อย่างแกเอาดีทางด้านนักแสดงยังไงก็รุ่ง”

ใบหญ้า สาวมั่นตามสไตล์working woman ผู้มีความสามารถในการบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างลงตัวเสนอความคิดเห็นรอบที่ล้านของตัวเองให้กับเพื่อนสนิท แม้ชาร์ลอตจะไม่เคยสนใจทำตามที่เธอบอกเลยก็ตาม

“แกก็รู้ว่าฉันอยากเป็นนักเขียนบท ฉันไม่อยากเป็นนักแสดงฉันแอ๊บไม่เป็นยะ!”

ชาร์ลอตยังคงยืนยันที่จะทำตามความฝันเหมือนเดิม ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณขวัญรัตน์ เมธานนท์และนายเจสัน เกรย์ ฮาร์เบอร์เจ้าของบริษัทผลิตรายการและวิดีโอทำให้เธอมีความฝันที่จะทำงานเบื้องหลังมากกว่า

แน่นอนว่าลูกสาวคนเดียวที่ถูกเลี้ยงดูประคบประหงมมาเป็นอย่างดีทำให้เธอมีนิสัยเป็นคุณหนูผู้เอาแต่ใจ เจ้าแม่ขาวีนเก็บอารมณ์ไม่เก่งซึ่งก็เป็นอย่างที่เธอบอกว่าเธอเสแสร้งไม่เป็น ถ้าจะให้แสดงเป็นนางร้ายสายเหวี่ยงน่าจะง่ายกว่า

“จะแอ๊บทำไม ฉันให้แกไปแสดงเป็นตัวเอง”

“แสดงเป็นตัวเอง?”

“ก็แสดงเป็นตัวร้าย มือตบ เหวี่ยงหมดไม่สนลูกใคร”

“ไอหญ้า!”

“พอเลยๆ จะไปแกล้งชาร์ทำไมก็รู้อยู่ว่าเพื่อนกำลังเครียด”

แคลร์ สาวหวานคนสุดท้ายของกลุ่มพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปจับมือเรียวราวกับต้องการให้กำลังใจ

“อาจจะเป็นเพราะว่าชาร์หมดมุกแล้วก็ได้ แถมเรื่องที่เราวางแผนกันเอาไว้ชาร์ก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้วยก็เลยทำให้จินตนาการยากอ่ะ”

แพลนที่พวกเธอวางเอาไว้เป็นเรื่องของหญิงสาววัยทำงานคนหนึ่งที่ตกหลุมรักหนุ่มบาร์โฮสซึ่งอายุต่างกันถึงสิบปี

ทว่าชาร์ลอตผู้รับหน้าที่เขียนบทละครในครั้งนี้มีความคิดขัดแย้งกับตัวละครอยู่ไม่น้อย เธอไม่เข้าใจว่าตัวเอกของเรื่องมีความคิดหรือความรู้สึกอย่างไรถึงได้ทุ่มเทเงินที่ตัวเองทำงานมาให้กับชายหนุ่ม

และสาเหตุที่เธอต้องมานั่งปวดหัวอยู่คนเดียวในขณะที่เพื่อนสาวทั้งสามคนกลับไม่ทุกข์ไม่ร้อนเพราะแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกัน

จูเน่รับหน้าที่เป็นคอสตูมดูแลเสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดง ใบหญ้ารับหน้าที่เป็นฝ่ายประสานงานดูแลและจัดการความเรียบร้อยทั้งหมดส่วนแคลร์เธอรับหน้าที่เป็นนักแสดง

ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ แบ่งกันตามความใฝ่ฝันและความถนัดของแต่ละคนจึงทำให้ผู้รับหน้าที่เขียนบทอย่างชาร์ลอตต้องเผชิญกับความเครียดเป็นคนแรก

“ก็จริงนะ! ฉันไม่อินกับการเที่ยวบาร์โฮร์ เปย์ผู้ชายเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อแลกกับการได้นั่งด้วยกัน...”

“เค้าอาจจะนอนด้วยกันก็ได้นะยะ ฮ่าๆๆ”

จูเน่พูดแทรกขึ้นมาพลางหัวเราะเสียงดัง ในสมองกำลังจินตนาการไปถึงภาพหนุ่มบาร์โฮสผิวขาวๆ กล้ามเป็นมัดๆ ที่เคยเห็นตามโซเชียลเพราะเธอเองก็ไม่มีประสบการณ์เหมือนกัน

“ยัยเน่!” ใบหญ้าเอ่ยเรียกน้ำเสียงเข้มก่อนจะค่อยๆ อมยิ้มกรุ้มกริ่ม “แกคิดเหมือนฉันเลยอ่ะ”

นิ้วชี้เรียวทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาถูไถกันก่อนจะเอียงตัวลงไปซบตรงไหล่บางของชาร์ลอตพลางมองด้วยสายตาหยอกเย้า

“หยุดๆๆ! นี่ฉันจะเขียนบทละครที่ต้องถ่ายส่งอาจารย์นะยะ ไม่ใช่นิยายที่ลงในเว็บ ไม่ต้องมีฉากเอ็นซีค่ะ”

ชาร์ลอตรีบยกมือขึ้นผลักศีรษะเพื่อนสาวออกอย่างไม่ไยดีจนใบหญ้าหันกลับมาส่งค้อนให้วงใหญ่

นิยายที่ชาร์ลอตพูดถึงคืองานอดิเรกของเธอ ชาร์ลอตใช้นามปากกาว่า ‘Chicha’ สำหรับแต่งนิยายลงขายในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งนิยายที่เธอเขียนส่วนใหญ่จะเป็นแนวอีโรติกมีฉากร่วมรักแสนวาบหวามที่สามารถทำให้นักอ่านจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน

“หรือเราจะลองไปหาประสบการณ์ตรงกันเลยดีมั้ย”

“ห๊ะ!”

สามเสียงอุทานออกมาพร้อมกันพลางหันไปมองหน้าเจ้าของประโยคเชิญชวนอย่างแคลร์ สามสาวไม่ได้ตกใจเรื่องการหาประสบการณ์ตรงแต่ตกใจที่ประโยคนี้ออกมาจากปากของผู้หญิงที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่ม

“ทะ...ทำไมเหรอ”

แคลร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทำไมเพื่อนๆ ต้องทำราวกับว่าเธอกำลังพูดเรื่องคอขาดบาดตาย

“แกเป็นใคร คายเพื่อนฉันออกมาเดี๋ยวนี้นะยะ”

ชาร์ลอตหันไปจับไหล่ของแคลร์ทั้งสองข้างก่อนจะออกแรงเขย่าราวกับต้องการทำให้อีกฝ่ายอาเจียนออกมาจริงๆ

“ดะ..เดี๋ยวๆๆ นี่แคลร์ตัวจริงเลยชาร์”

แคลร์รีบเอ่ยห้ามพลางทำหน้ามุ่ยเมื่อรู้ตัวว่าโดนเพื่อนสนิทแกล้งเพราะเพื่อนๆ อีกสามคนกำลังนั่งหัวเราะกันเบาๆ

“แต่ไอเดียแกฉันซื้อนะ สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็นแต่สิบตาเห็นก็ไม่เท่ามือคลำ สัมผัส ลูบไล้ อร๊ายย~”

เกือบจะน่าเชื่อถืออยู่แล้วถ้าจูเน่ไม่ยกมือเรียวทั้งสองข้างขึ้นโอบแก้มของตัวเองพลางบิดไปมาด้วยท่าทางขวยเขิน

“สาระได้ป่ะ”

ชาร์ลอตเริ่มหงุดหงิดเพราะตั้งแต่คุยกันมาเธอยังไม่ได้สาระอะไรที่พอจะทำให้สามารถเขียนบทละครต่อได้เลย

“ฉันว่าเราไม่ต้องเข้าบาร์โฮสจริงๆ หรอก แค่ไปร้านอาหารหรือบาร์ที่มีพีอาร์เป็นเด็กผู้ชายก็พอแล้ว”

ใบหญ้าพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ของตัวเองลงกลางโต๊ะ สิ่งที่ทุกคนเห็นในหน้าจอโทรศัพท์ตอนนี้คือแฟนเพจของร้านอาหารที่มีชื่อว่า ‘Feeling bar and restaurant’

“ร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี เพลงเพราะ น้องๆ น่ารักบริการประทับใจ”

ชาร์ลอตคว้าโทรศัพท์ขึ้นไปกดอ่านรีวิวก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่ออ่านจบ เธอคิดว่ารีวิวดีแบบนี้ต้องเป็นรีวิวจากหน้าม้าของร้านแน่ๆ

“ร้านใหม่เหรอ น่าสนใจนะ” จูเน่เสริมขึ้น

“รีวิวหน้าม้าหรือเปล่าก็ไม่รู้”

นิ้วเรียวยังคงเลื่อนอ่านรีวิวอื่นๆ ของทางร้านซึ่งส่วนใหญ่จะไปในทิศทางเดียวกันคือพนักงานบริการดีมากและพนักงานส่วนใหญ่ของที่ร้านเป็นผู้ชายเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

“เยอะขนาดนี้น่าจะลูกค้าจริงๆ นะ ไม่ใช่หน้าม้าหรอก”

แคลร์ที่ชะเง้อหน้าเข้ามาอ่านรีวิวด้วยอีกคนเอ่ยเสริม เพราะดูจากจำนวนคนที่รีวิว รูปหน้าโปรไฟล์และภาษาที่ใช้พิมพ์ไม่น่าจะเป็นคนที่ทางร้านจ้างมา

ชาร์ลอตกดออกจากรีวิวไปยังหน้าแฟนเพจอีกครั้ง เธอเลื่อนฟีดข่าวลงเรื่อยๆ อย่างสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่ทางร้านจะลงรูปของพนักงานหนุ่มหล่อมากกว่าเมนูอาหารของทางร้านเสียอีก

“ตอนนี้สองเสียงที่เห็นด้วยคือฉันกับเน่ แล้วแกว่าไงแคลร์”

ใบหญ้าพูดขึ้นเพื่อหาข้อสรุป ไม่งั้นบทละครที่ชาร์ลอตจะต้องเขียนคงไม่เดินหน้าเสียทีเพราะคุณหนูขาวีนประจำกลุ่มเข้าไม่ถึงอารมณ์ของตัวละคร

“เราว่าที่นี้ดีนะ นั่งกินข้าวได้ด้วยถ้าต้องไปบาร์โฮส์จริงๆ เราคงไม่ไหว”

ชาร์ลอตหันไปมองเพื่อนสาวผู้ใสซื่อและแสนเรียบร้อยของกลุ่มด้วยสายตาเอ็นดู ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเธอเลือกที่จะไปบาร์โฮส์จริงๆ เพื่อนของเธอจะหัวใจวายหรือเปล่า

“โอเค ไปที่นี่แหละ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel