บท
ตั้งค่า

เปิดม่านสงคราม

หลังได้นอนพัก รุ่งสางอิทธิก็มีแรงกลับมาอีกครั้งด้วยให้ทหารมาปลุกแต่รุ่งเช้า อิทธิตื่นมาอย่างสะลึมสะลือยังไม่ทันล้างหน้าอิทธิก็ออกคำสั่งทันที่

"ไปปลุกทหารให้มารวมตัวกันที่สนามให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อม เราจะออกเดินทางกันทันทีเมื่อจัดการธุระเสร็จสิ้น"ไม่ยังไม่ทันตื่นเต็มตาแต่เขาก็ไม่ยอมให้แผนการของเขาล้มเพราะนอนตื่นสายเป็นแน่ แต่ดูเหมือนทหารที่มาปลุกดูจะไม่เข้าใจ

"นี้ยังไม่ทันสว่างดีเลยนะครับ เช้าแล้วค่อยเรียกทหารมารวมดีกว่าไหมครับ" คำพูดของทหารทำเอาอิทธิถึงกลับโมโหขึ้น เขาอุส่าห์แหกขี้ตาตื่นแต่เช้าจะให้แผนที่วางไว้ล้มไม่ได้ สงครามเข้าตัดสินกันตั้งแต่ในห้องนอนแล้ว

"ผมสั่งคุณก็ไปทำตามสิ เดียวนี้" ที่นี้อิทธิถึงกับตาสว่าง เขาตะโกนสั่งเสียงดังทำเอาทหารนายนั้นถึงกับตกใจ รับคำแล้วก็เดินจากไป

"จริง ๆ สิทหารพวกนี้หย่อนยายจริง ๆ ดูท่าถ้ามีเวลาคงต้องจับไปฝึกวินัยกันสักหน่อยแล้ว" อิทธิได้แต่บ่นอุบกับตัวเอง ก่อนล้างหน้าล้างตากับอ่างน้ำที่ยกเข้ามา ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบเขาลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นเครื่องแบบใหม่ที่เป็นสีดำแบบของนายทหารระดับสูงแต่แล้วอิทธิก็เลือกที่จะใส่เครื่องแบบพลทหารแบบเดิม เพื่อให้กลมกลืนไปกับคนอื่น ๆ ในสนามรบใครที่ทำตัวโดดเด่นแตกต่างมักจะเป็นเป้าล่อกระสุนชั้นดี เขายังไม่อยากไปเป็นเป้าให้ใคร

ในโรงนอนของทหารที่ตอนนี้นอนหลับกันสนิทนิ่ง ด้วยความเหนื่อยล้าจากการฝึกหลังจากฝึกเสร็จพวกเขาได้รับการดูแลดีเป็นพิเศษทั้งมีอาหารให้กินและโรงนอนใหม่ถูกแยกออกมาชัดเจน

"ปรี๊ด ๆ ๆ ตื่นได้แล้วทหาร ตื่นได้แล้ว เแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วออกไปรวมกันที่สนาม" ถูกปลุกด้วยเสียงนกหวีดกลางดึกทำเอาทหารหลายคนแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน พวกเขาแต่งเครื่องแบบทั้ง ๆ ที่ตายังไม่ลืมด้วยซ้ำ นายทหารถูกสั่งให้ปลุกและรวมพวกเขาให้ไปเข้าแถวที่สนาม

"เร็วเข้า ๆ ไปรวมกันที่สนาม ชักช้าอยากให้ผู้บังคับบัญชามาลงโทษหรือไง?" คำขู่ดูจะได้ผลดี การฝึกเมื่อวันก่อนยังคงจดจำอยู่ในใจพวกเขาถึงความโหดร้ายของผู้บังคับบัญชาคนใหม่ ดวงตาที่เคยลืมแทบไม่ขึ้นตอนนี้กับเบิกกว้างสวมใส่เครื่องแบบอย่างรวดเร็วราวกับถ้าทำช้ากว่าคนอื่นจะถูกลงโทษ

ไม่ถึง 30 นาทีทั้งหมดก็ออกมายืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบที่สนาม เหล่าทหารได้รับอาหารเพื่อทานเป็นมื้อเช้าระหว่างรออิทธิลงมา

ทางด้านอิทธิเขาแต่งตัวในเครื่องแบบพลทหารดั่งเช่นทุกครั้ง เขาจ้องมองตัวเองในกระจกก็ได้แต่สงสัยกับตนเอง นี้เขากลายเป็นทหารจริง ๆ ไปแล้วอย่างนั้นหรอ? เขาแทบลืมจุดประสงค์เดิมของตนเองไปแล้วด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ต้องการหลบหนีออกจากสงครามไม่ใช่อย่างนงั้นหรอ? แต่ทำไมตอนนี้กับกลายเป็นเขาที่กำลังพาตัวเองเข้าสู่สมรภูมิรบไปแทนซะแล้วละ? เมื่อมองเข้าไปในกระจกก็เห็นเพียงเด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบ

"ก๊อก ๆ ๆ ท่านครับทหารมารวมกันที่สนามเรียบร้อยแล้วครับ"เสียงเคาะประตูดึงสติของเขาให้กลับมา เขายังมีงานที่ต้องไปทำให้เสร็จอยู่ คิดได้อย่างนั้นอิทธิคว้าหมวกขึ้นมาสวม หยิบดาบที่ได้รับมาใหม่เหน็บไว้ที่เอวเครื่องก็พร้อมแล้ว อิทธิเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าเป็นอาเชอร์ที่มายืนรออยู่

"ท่านครับ พวกเขาพร้อมแล้ว อ้า...เครื่องแบบของท่าน ผมให้คนนำเครื่องแบบใหม่มา..."ยังพูดไม่ทันจบอิทธิก็ชิงพูดขแทรกเสียก่อน

"ขอบใจมาก แต่ผมไม่คิดจะใส่เครื่องแบบสีดำแล้วไปยื่นโดดเด่นกลางทหารหรอกนะ" อิทธิพูดพร้อมทำหน้าทำตา จนอาเชอร์เกือบจะหลุดขำออกมา เมื่อเห็นว่าเข้าใจตรงกันแล้วอิทธิจึงเดินนำไป แต่อาเชอร์ก็พูดขัดขึ้นมาอีก

"ท่านครับ แล้วคุณผู้หญิงละครับ เออ...ให้ผมไปปลุกเลยไหม" คำพูดของอาเชอร์ทำให้อิทธินึกขึ้นได้ว่าอีโนร่าต้องการติดตามเขาไปด้วย เมื่อได้ยินอย่างนั้น

"ชู่ ๆ เงียบ ๆ สิ เธอพักอยู่ห้องไหนนะ ผมลืมเธอไปเลย" อิทธิยกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ ก่อนจะถามอาเชอร์อย่างแผ่วเบา อาเชอร์พอจะเข้าใจจึงชี้ไปยังห้องที่ถัดจากห้องเขาไปไม่ไกล เป็นการบอกว่าอีโนร่าอยู่ห้องใกล้ ๆ เขา

ทำเอาอิทธิแทบอยากเข่งหัวลูกน้องคนนี้จริง ๆ คนว่างตั้งเยอะแยะ ดันให้มาอยู่ใกล้ ๆ ดีนะที่ไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร

"ดูท่าเธอจะยังไม่ตื่น ค่อย ๆ ลงไปอย่างเงียบ ๆ ตามาเร็ว" อิทธิและอาเชอร์ค่อย ๆ ก้มตัวแล้วก้าวอย่างช้า ๆ เพราะกลัวว่ามันจะเกิดเสียงจำทำให้เธอตื่น พวกเขาก้าวช้า ๆ ลงมาจนถึงชั้นร่างทั้งคู่หายใจแทบไม่ทั่วท้อง

"เหอะ ถึงสักที รีบไปเร็วเขาก่อนเธอจะตื่นมา เอ้...แล้วนี้เราจะไปกลัวเธอทำไม่กัน" อิทธิก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงเธอขนาดนี้ จะว่าเป็นไปตามสัญชาตญาณก็ได้ อิทธิเลิกสนใจเรื่องของอีโนร่า ทั้งคู่มุ่งไปยังสนามทหารคอยควบคุมดูแลอยู่เมื่อเห็นอิทธิก็รีบทำความเคารพ เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ

"ทหาร!! เคารพผู้บังคับบั...." หัวหน้าทหารกำลังจะสั่งแต่ก็ถูกอิทธิพูดขัดขึ้นเสียก่อน

"เงียบเลยทหาร ถ้าจะเสียงดังแล้วผมจะให้พวกคุณออกมาแต่เช้าทำไม ทำความเคารพเบา ๆ ก็พอ" อิทธรีบอธิบายเมื่อเห็นเหล่าทหารต่างสีหน้างุงงง แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายก็พอจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจทำไม่เขาต้องให้พวกทหารเงียบด้วย

"อ๋อครับท่าน ทหารทำความเคารพผู้บังคับบัญชา...แบบเงียบ ๆ "ดูออกจะเป็นคำสั่งที่น่าขบขันแต่พวกเขาก็ทำตามเปลี่ยนจากการตะโกนกลายเป็นการกระซิบแทน ซึ่งดูไปก็ตลกอยู่ไม่น้อย

"เอาละอย่างที่ผมบอกพวกเราต้องรีบออกเดินทางก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ผมจะไม่พูดอะไรมากขอให้จำเอาไว้เพื่อเกียรติและมาตุภูมิเราจะออกไปขับไล่ข้าศึกออกจากแผ่นดินกันเพราะอย่างนั้นรีบไปรับสัมภาระและอาวุธได้แล้วมารวมกันด้านนี้" พูดสั้น ๆ ได้ใจความแต่ทำเอาทหารหลายคนใจสั่นด้วยค้วยความตื่นเต้น พวกเขาไปรับสัมภาระกับอาวุธปืนมาแล้วแยกไปจัดแถวใหม่โดยครั้งนี้ถูกแยกเป็นหมวดเป็นหมู่

ใช้เวลาไม่นานทั้งหมดก็เตรียมพร้อมจัดระเบียบเรียบร้อย รวเร็วกว่าเมื่อหลายวันก่อนมากดูท่าการฝึกจะได้ผลดีทีเดียว

"เอาละถ้าพร้อมกันแล้วก็เดินหน้าได้ มุ่งสู่สนามรบได้" อิทธิเดินไปพร้อมกับคนอื่น ๆ โดยมีหัวหน้าคนอื่น ๆ จูงม้าอยู่ข้าง ๆ ซึ่งในตอนแรกพวกเขาต่างคิดว่าอิทธิจะขี่ม้าไป แต่พวกเขาไม่รู้อยู่อย่างว่าอิทธินั้นขี่ม้าไม่เป็นด้วยซ้ำ จึงได้แต่แก้ตัวไปว่าจะเดินไปพร้อมกับทหารก็ทำเอานายทหารคนอื่น ๆ ไม่กล้าขึ้นขี่ม้ากันจนอิทธิต้องให้คนที่ขี่ม้าไปสำรวจทางด้านหน้าไว้ก่อน ส่วนตัวเขาก็เดินไปพร้อมกับทหารคนอื่น ๆ

ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงทั้งหมดก็ออกจากเมือง ในตอนแรก ๆ ก็ยังไม่เรียบร้อยดีการเดินของทหารก็ยังขัด ๆ อยู่บ้างแต่พอผ่านไปสักพักทหารทั้งหมดก็เริ่มเดินเป็นจังหวะเดียวกันอย่างเป็นระเบียบทำเอาอิทธิรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก นี้เป็นกองทหารแรกที่อิทธิได้ฝึกฝนด้วยตัวเองจริง ๆ ถึงจะมีเวลาไม่มากก็ตาม

หลังเดินมาได้สักพักอิทธิก็สั่งให้ทหารเดินเลี่ยงเส้นทางหลัก ไปใช้ทางสายรองแทนโดยเป้าหมายหลักที่อิทธิทำทั้งหมดนี้ทั้งการให้ทหารเดินทางแต่เช้ามืด หลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังและการไม่ใช้เส้นทางสายหลักเพื่อป้องการสายสืบของฝ่ายตรงข้าม ไปแจ้งข่าวจนทำให้กองกำลังข้าศึกตั้งรับได้ทัน ซึ่งเป็นสิ่งที่อิทธิไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น ถึงเขาจะไม่รู้ว่าทางจักรวรรดิได้วางสายลับไว้ในเมืองหรือป่าว? แต่กันไว้ดีกว่าแก้ ไม่งั้นอาจจะทำให้เขาเสียโอกาสสำคัญไป

กองทหารทั้งหมดจำนวนเกือบสามร้อยนาย หายออกไปจากเมืองโดยไม่มีใครทันรู้ด้วยซ้ำ มีเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่มีส่วนในการรับผิดชอบปฎิบัติการครั้งนี้เท่านั้นที่รู้แต่อิทธิก็สั่งให้พวกเขาเก็บเงียบเรื่องนี้ไว้ก่อน จนกว่าจะมีความคืบหน้าต่อไป

ทั้งหมดเดินทางโดยไม่หยุด โดยเขาหวังให้ไปถึงจุดที่ข้าศึกอยู่ในเวลา 3 วันโดยพักให้น้อยที่สุดและใช้เวลาให้คุ้มค่า เมื่ออิทธิไม่สั่งพักทั้งหมดก็ไม่มีใครหยุดเดินย้ำไปข้างหน้าบางครั้งก็ตัดผ่านป่าไปเพื่อให้เร็วยิ่งขึ้น บางครั้งพวกเขาโผล่ออกมาจากป่าผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ ต่าง ๆ ที่ต่างก็ต้องตกใจกับกองทัพที่ออกมาจากป่าและก็หายเข้าไปในป่าอีก การเดินแบบนี้เป็นการสร้างภาระอย่างมาก แต่ด้วยความต้องการไปให้รวดเร็วอิทธิจึงจ้องทำ

ทหารหลายคนได้แต่โอดครวญโดยไม่ได้รับความเมตตาใด ๆ จะมาสบายหน่อยก็ตอนอิทธิสั่งให้เดินบนถนนปกติ พอตกคำพวกเขาก็นอนพักตั้งแคมป์แบบง่าย ๆ แล้วนอนโดยแบ่งเวณยามไว้เฝ้าเพียงเล็กน้อยถึงจะเป็นการเสี่ยงอย่างมากแต่เขาต้องการให้ทหารได้พักกันทุกคน และไม่คิดว่าข้าศึกจะลุกเข้ามาถึง

ตลอดเวลา 3 วัน 3 คืนพวกเขาก็ทำแค่เดิน กินและนอน พอพระอาทิตย์เริ่มส่องแสง พวกเขาก็เริ่มเดินกันต่อ แต่วันนี้แตกต่าง หลังจากเดินไปได้อีกสักระยะหนึ่งทหารม้าที่ถูกส่งให้ออกไปสำรวจก่อนก็ควบม้ากลับมา

"ท่านครับ เราพบว่าข้างหน้ามีทหารของจักรวรรดิออกมาปล้นสะดมชาวบ้านที่หมู่บ้านข้างหน้าครับ" รายงานของทหารนายนั้นทำเอาทหารต่างตื่นตัวขึ้นทันที พวกเขาเป็นทหารที่อ่อนประสบการณ์น้อยคนที่จะเคยรบจริงมาก่อน ซึ่งอิทธิเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้ให้ทหารมีประสบการณ์รบจริงก่อนศึกใหญ่ที่จะตามมา

"ดีมากรีบกลับไป ซุ้มดูพวกมันไว้อย่าให้พวกมันรู้ตัว ไปเร็ว" เมื่อออกคำสั่งทหารคนนั้นก็รับคำก่อนควบม้าออกไปอีกครั้ง อิทธิก็สั่งเดินหน้าอีกครั้งด้วยใจที่เต้นระรั่วของเหล่าทหาร ที่ทำเอาอิทธิรู้สึกได้เลย เขาเรียกนายทหารมาปรึกษาหารือ กางแผนที่ออกดูและวางแผนการไว้ในใจ

เมื่อดูจากแผ่นที่แล้วเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก โดยมีป่าล้อมรอบซึ่งเหมาะมากแก่การซุ่มโจมตี เมื่อคิดได้อย่างนั้นอิทธิจึงรีบออกคำสั่งทันดี

"ทหาร ทั้งหมดเดินเข้าไปในป่าข้างหน้า เราจะโผล่ไปเซอร์ไพรส์พวกมันพร้อมของขวัญของเรา" อิทธิเดินน้ำทหารเข้าไปในป่าข้างทางเขาคิดจะอ้อมเข้าล้อมตีก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวด้วยซ้ำว่าข้าศึกเข้ามาหายใจรดต้นคอแล้ว

ทั้งหมดต่างเดินตามอิทธิเข้าไปในป่าข้างทางอย่างเงียบ ๆ เพียงไม่นานกองทหารทั้งหมดก็หายไปจากถนน อิทธิพยายามเดินอ้อมเข้าโอบล้อมหมู่บ้านโดยรอบ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็มองเห็นหมู่บ้าน อิทธิให้ทหารกระจายตัวออก จากป่าไปถึงหมู่บ้านมีทุ่งนาของเช้าบ้านกั้นขวางไว้อยู่ต้นข้าวกำลังเจริญเติบโตบางต้นสูงถึงหน้าอก

อิทธิสั่งให้ทหารทั้งหมดหยุดการเคลื่นไหวเขาค่อยซุ่มดูกำลังทหารของอีกฝ่ายอยู่สังพัก ทหารจักรวรรดิที่เข้ามาปล้นสะดมมีไม่ถึง 500 คนดูจะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ที่แยกออกมาพวกมันต่างเข้าไปจับตัวชาวบ้านทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็กและคนแก่มารวมไว้ยังกลางหมู่บ้าน พร้อมขนข้าวของทั้งหลายที่หาได้มากองรวมไว้ เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่ว ทำเอาทหารบางนายรู้สึกเดือดดาลอย่างมากคิดจะออกไปจัดการพวกมันซะเดียวนั้น แต่เมื่อไม่มีคำสั่งของอิทธิพวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไร

เมื่อเห็นว่ากองกำลังข้าศึกไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไรแถมยังไม่ได้ทันระวังตัว อิทธิก็เริ่มลงมือแบ่งทหารเป็นสองฝั่งคิดตีขนาบจากทางฝั่งซ้ายและขวาของหมู่บ้านซึ่งมีที่นาเป็นที่กำบัง เขาสั่งให้ทหารหมอบต่ำ ก้มตัวค่อย ๆ เดินเข้าไปซ่อนในดงต้นข้าวอย่างช้า ๆ ทหารสองร้อยกว่านายหายเข้าไปในดงต้นข้าว ด้วยน้ำและพื้นที่เป็นคนขาของพวกเขาจมลงไปถึงหน้าแข้ง ไม่มีใครรีบร้อนทุกคนต่างค่อย ๆ เดินแหวกต้นข้าวไปอย่างช้า ๆ ดูไกล ๆ ราวกับต้นข้าวที่ไหวไปตามแรงลม คงมีเพียงเสียงหัวใจของเหล่าทหารที่เต้นรัว พวกเขาค่อย ๆ คืบคลานเข้าไปใกล้ขึ้น ๆ ทุกขณะ โดยที่พวกทหารจักรวรรดิไม่ทันได้เอะใจด้วยซ้ำ

ด้วยระยะทางไม่ถึง 500 เมตรด้วยซ้ำ แต่ดูนานเสียเหลือเกินทั้งหมดต่างเข้าใกล้กันจนสามารถมองเห็นกันได้อย่างชัดเจนมีเพียงต้นข้าวที่กั้นพวกเขาเอาไว้ อิทธิออกคำสั่งให้หยุดด้วยการกำมือแล้วทหารที่อยู่ข้าง ๆ ก็ส่งสัญญาต่อ ๆ กันไปจนทั้งหมดหยุดนิ่งล้อมหมู่บ้านไว้ทั้งสองทาง อิทธิแหวกต้นข้าวตรงหน้าใช้สายตาสอดส่องผ่านไป ก็เห็นทหารจักรวรรดิสองคนกำลังนั่งดื่มกิน สูบบุหรีกันอย่างสบายใจด้วยไม่คำนึงว่าตนอยู่ในถื่นของศัตรูด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นอย่างนั้นอิทธิยกปืนขึ้นประทับบ่า หลับตาซ้ายลงแล้วใช้ตาขวามองผ่านศูนย์เล็งไปยังทหารจักรวรรดิที่นั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ทหารที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นอิทธิเตรียมยิงเขาก็ประทับปืนเล็ง ทั้งหมดทำตาม ๆ กันโดยไม่ต้องสั่งพวกเขาต่างรอเสียงกระสุนนัดแรกเป็นตัวเปิดประเดิม

อิทธิหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนกลั้นมันไว้แล้วเริ่มออกแลกเหนี่ยวไกรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เกิดเป็นเสียง 'ปัง'และตามมาด้วยเสียงลั้นไกปืนดังตามมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการเปิดฉากสงครามอย่างเต็มรูปแบบของอิทธิอีกครั้ง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel