ตอนที่4
“อ่อ...ไม่มีซองนะ ก็แกไม่ได้แจก” ว่าจบไก่หวานก็รีบต้อนเพื่อนๆ เข้าไปในงาน มาถึงโรงแรมหรูแล้วจะกลับเธอก็เสียเวลาเปล่า ไหนๆ ก็ไปหาอะไรรับประทานให้อิ่มท้องก่อนแล้วค่อยกลับจะดีกว่า
“อีพวกนี้” พันแพรวานับหนึ่งแทบจะถึงพัน ข่มใจแล้วข่มใจอีกก็อดโมโหไม่ได้ หากวันนี้ไม่ใช่วันสำคัญของเธอคงได้เปิดศึกกับนังสาวสองปากดีนั่นแล้ว
“ใจเย็นๆ เถอะน่า แขกผู้ใหญ่จะมาอีกหลายคน ทำหน้าดีๆ หน่อย” ปากพูดปลอบภรรยาแต่สายตาของหมวดตะวันยังคงมองตามหลังปารวีไม่วางตา ใบหน้าสวยหวานที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กน้อย รวมไปถึงเดรสสีเขียวอ่อนที่ขับสีผิว ทำให้ปารวีสะกดสายตาของเขาได้เป็นอย่างดี หากก่อนหน้านี้ไม่ติดว่าเธอมีสามีที่เป็นถึงระดับมาเฟีย เขาคงไม่เลิกยุ่งกับเธอง่ายๆ แน่
“เลิกมองมันซะทีเถอะค่ะ” พันแพรวาหยิกแขนหมวดตะวันเต็มแรง
“โอ้ย...ก็แค่ดูความเรียบร้อย”
มีหรือเธอจะเชื่อคำพูดของเจ้าบ่าวตัวเอง ที่ตามหึงหวงไม่ชอบหน้าของปารวีอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะดูออกว่าหมวดตะวันยังอาลัยอาวรณ์กับปารวีอยู่ไม่น้อยทั้งที่มีเธออยู่ทั้งคน
สี่สาวใช้เวลาอยู่ในงานพักใหญ่ จนรับประทานอาหารกันจนอิ่มจากนั้นจึงพากันกลับ ไก่หวานดูท่าจะมีความสุขที่สุดที่ได้ไปปั่นประสาทของพันแพรวาได้ เพราะก่อนหน้านี้พันแพรวาทำกับเพื่อนๆ ของเธอเอาไว้หลายเรื่องเพียงเพราะไม่ชอบหน้าปารวีเลยพาลหาเรื่องพวกเธอทั้งกลุ่ม ดีที่เธอโดนน้อยสุด เพราะเธอพร้อมสู้
ทว่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขเริ่มเลือนหายไปเมื่อกลับมาถึงบ้านของปารวี เพราะเธอเห็นปารวีเอาแต่นั่งทำสีหน้ากังวลตั้งแต่อยู่ในงานจนมาถึงบ้าน คราแรกที่เธอเห็นปารวีกังวลตอนอยู่ในงานก็คิดว่าเพื่อนรักปกติ เพราะปารวีไม่ได้อยากไปงานแต่งงานของพันแพรวาอยู่แล้ว แต่เมื่อมาถึงบ้านแล้วก็ยังทำหน้าหดหู่ไม่เลิก เธอเลยเริ่มสงสัยแล้วว่าปารวีกำลังกังวลเรื่องอะไรกันแน่
“แกเป็นไรเปล่า กลับมาถึงบ้านแล้วยังทำหน้าหงิกหน้างอไม่หายเลย” ไก่หวานขมวดคิ้วมุ่น จองหน้าปารวีไม่วางตา
“จริง ฉันก็ว่าจะถามแกเหมือนกัน” อารยาเอ่ยถามปารวีตามไก่หวาน เพราะเธอก็สังเกตเพื่อนมาตั้งแต่ที่งานจนถึงบ้านแล้ว
“ก็แกไปบอกกับพิ้งค์กี้แบบนั้นได้ไงว่าที่ไร่กำลังจะสร้างรีสอร์ท” ปารวีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“เรื่องนี้เอง ก็ผัวแกเค้ามีเงินไม่ใช่เหรอ แกก็แค่เอ่ยปากขอ เค้าก็ต้องให้อยู่แล้ว” ไก่หวานก็นึกว่าเพื่อนเธอเครียดเรื่องอะไร การแก้ปัญหาของเรื่องนี้มันไม่ได้ยากเพราะเธอรู้ว่าสามีของปารวีเป็นคนรวย ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ใช้หนี้ก้อนโตให้บ้านปารวีได้ ทั้งยังให้เงินทุนเอาไว้เรียน แถมยังแบ่งเงินทุนมาทำไร่ได้อีกสบายหลายปี
“แกไปเอาความเชื่อนี้มาจากไหน” ปารวีเริ่มคิ้วขมวดแน่นขึ้น
“ก็เวลามีใครมาจีบแกก็ชอบบอกผู้ชายพวกนั้นว่ามีผัวแล้ว แล้วผัวก็เลี้ยงดี แถมรวยมากด้วย”
“จริง” อารยาและมุขรินทร์พยักหน้าน้อยๆ ให้กับคำที่ไก่หวานพูด แม้จะไม่เคยถามละลาบละล้วงถึงสามีที่อยู่ไกลของเพื่อน แต่พวกเธอก็คิดมาตลอดว่าปารวีและสามียังติดต่อพูดคุยกันอยู่ตลอด
“ฉันก็แค่อ้างกับผู้ชายพวกนั้นเท่านั้น คุณราเดนเค้าแต่งงานกับฉันก็จริง แล้วเค้าก็ให้เงินก้อนฉันจริง แต่ฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเค้าหลังจากแต่งงาน ไม่เคยได้คุยกันด้วย”
“อ้าว แล้วที่รักผัวนักหนา ใครจีบก็ไม่สนก็ไม่ใช่เรื่องจริงงั้นเหรอ” มุขรินทร์ยกมือเกาหัวแกรกๆ ส่วนคนอื่นก็นั่งอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“ฉันรักเค้าจริง แค่รู้ตัวว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน ที่แต่งงานกับฉันเพราะช่วยกู้หน้าฉันกับครอบครัวเท่านั้น”
“แกไม่ได้ติดต่อกับเค้าเลยเหรอ” ไก่หวานเอ่ยถามย้ำปารวีอีกรอบ คนอะไรจะรักมั่นคงกับคนที่ไม่เคยติดต่อกันมาหลายปีขนาดนี้
ปารวีส่ายหัวน้อยๆ “ก็ตั้งแต่แต่งงานมา เคยติดต่อไปแค่สองครั้ง”
“แล้วเค้าก็ไม่รับสายแกสองครั้งเลยเหรอ”
“ครั้งแรกฉันกดเบอร์ผิด พอติดต่อไปอีกครั้ง ฉันก็...”
“ก็อะไรของแก”
“ฉันเขิน ฉันไม่กล้าคุยกับเค้า”
“โอ๊ย... พรุ่งนี้ไปหาหมอกับฉันไหม” ไก่หวานลุกขึ้นโวยเสียงดัง ส่วนอารยากับมุขรินทร์ก็มองหน้ากันด้วยแววตาไร้ความหวัง แทบจะยกมือกุมขมับ ก่อนหน้านี้ละลาบละล้วงเรื่องชีวิตคู่ของเพื่อนรักเสียหน่อยก็น่าจะดี
“ก็เค้าหล่อมาก ฉันเขินนี่” ปารวีบุ้ยปากก้มหน้างุด รู้ว่าความรักของเธอมันดูแปลก ซึ่งเธอเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมหัวใจถึงได้มีเขาอยู่ในนั้นทุกวินาที คงเป็นเพราะเขาคืออัศวินเข้ามาช่วยชีวิตเธอก่อนที่จะตกเป็นภรรยาของหมวดตะวัน แล้วก็ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“แต่เค้าได้ชื่อว่าเป็นผัวแก มัวเขินมัวอายอยู่ได้ ป่านนี้เค้ามีเมียใหม่ไปแล้วมั้ง ไอ้เราก็นึกว่าติดต่อกันอยู่ตลอด” อารยาออกความเห็น ไม่เคยเห็นหน้าราเดนตัวจริงหรอก เห็นแต่ในรูปที่ปารวีเอาให้ดู เธอรู้ว่าเขาทั้งหล่อทั้งรวย เธอเชื่อได้เลยว่าผู้หญิงหลายคนต้องอยากเข้าหาราเดนแน่ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มมีสถานะสามีของผู้หญิงคนอื่นไปแล้วหรือยัง คิดแล้วก็ห่อเหี่ยวหัวใจแทนปารวีไม่น้อยเลย
“เรื่องรีสอร์ทเอาไว้ก่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก ฉันว่าตอนนี้แกควรจะไปตามหัวใจของแกมากกว่า สมัยนี้แล้ว รักก็บอกว่ารัก ยิ่งแกเคยแต่งงานกับเค้าก็ไปอ้างสิทธิ์ความเป็นเมียไปอยู่กับเค้าเลย ไม่ต้องมัวอายแล้ว” ไก่หวานเสนอความคิด หากเป็นเธอได้รักใคร แถมคนคนนั้นได้ชื่อว่าเป็นสามีตัวเองจะเพราะอะไรก็ช่าง เธอไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด
“ได้เหรอ” ปารวีเงยหน้ามองไก่หวานที่ยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาลังเล
