บทที่ 5
ฉันนั่งคุยกับจีน่าต่ออีกพักหนึ่ง
เธอลุกออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก
ฉันก็ตรงไปห้องน้ำเหมือนกัน
แต่ไม่คิดว่าจะเจอมินต์ที่ถูกชยพลโอ๋จนหายร้องไห้แล้ว
ตอนนี้เธอยืนส่องกระจก เติมลิปให้เข้าที่
ไฟขาวเหนือหัวสาดลงมาบนเราทั้งคู่
ไม่มีชยพลอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าที่เคยทำท่าอ่อนหวานก็หายไป
เธอหันมาถามทันที น้ำเสียงมีแต่เชิงรุก
“ศศิลา คุณตั้งใจให้จีน่าแกล้งฉันใช่ไหม”
ฉันตอบนิ่ง ๆ“ฉันต้องเสียเวลาทำแบบนั้นด้วยเหรอ”
สายตาเธอจ้องฉันตรง ๆ ไม่หลบ
เต็มไปด้วยการท้าทาย “ต้องสิ เพราะลุงกำลังจะหย่ากับคุณแล้ว คุณอิจฉาฉัน เกลียดฉัน ไม่ใช่เหรอ”
ฉันพูดเสียงเย็น "ฉันต้องอิจฉาอะไรล่ะ?"
"อิจฉาที่เธอยังเด็กแต่เลือกไปเป็นมือที่สาม พังครอบครัวคนอื่น? หรืออิจฉาที่เธอเก็บผู้ชายที่ฉันทิ้งแล้วไปใช้ต่อ?"
ดวงตาของมินต์เบิกกว้างเหมือนจะถลน ความโกรธปะทุขึ้นมาชัดเจน
"เลิกปากแข็งเถอะ ศศิลา!"
"ลุงเขาไม่ได้รักเธอแล้ว คนที่เขารักคือฉันต่างหาก"
"ไม่ว่าคุณจะดิ้นแค่ไหน ก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ ยิ่งคุณหาเรื่องฉัน เขาก็ยิ่งรังเกียจคุณ น่าสงสารจริง ๆ”
ฉันมองหน้าเธอเฉย ๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย
“ถ้าเราหย่า เขาเป็นคนผิด เขาต้องออกไปแบบตัวเปล่า ฉันมีบ้าน มีเงิน มีลูก ชีวิตแบบนั้นสบายกว่าเดิมอีก น่าสงสารตรงไหน”
ฉันยิ้มเย็น ๆ “กลับเป็นเธอนั่นแหละ เด็กแค่ยี่สิบต้น ๆ ก็ต้องรับใช้คนทั้งบ้านแล้ว”
“ต้องเช็ดขี้เช็ดฉี่แม่ผัวที่เดินไม่ได้ ต้องทนรับน้องสามีเจ้าปัญหา แบบนั้นสิถึงจะเรียกว่าน่าสงสารจริง ๆ”
ในตาเธอมีแววลนลานแวบหนึ่ง
แต่เธอรีบเก็บอาการแล้วกัดฟันตอบกลับ
“เพ้อเจ้อ! คุณไม่ได้อะไรทั้งนั้นหรอก”
“คุณไม่ได้ทำงานมาหลายปี เงินในบ้านเป็นของลุงทั้งนั้น คุณจะกล้าเอาอะไรไปจากเขาได้ยังไง”
“ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเงิน คุณไม่ได้สักอย่าง!”
ถูกต้อง
เธอสนใจแค่อย่างเดียว—เงินของชยพล
ไม่รู้เหมือนกันนะว่าถ้าวันไหนชยพลกลายเป็นคนหมดตัวจริงๆ เธอจะรับไหวไหม
สุดท้ายแล้ว เรื่องมันก็จบลงแบบที่ควรจะเป็น
ฉันไม่เหลืออะไรจะพูดกับเด็กไร้สมองแบบนี้ ฉันหมุนตัวออกจากห้องน้ำ
เดินมาถึงโถงทางเดิน ก็เจอชยพลพอดี
เขาเปิดปากมาก็คือคำกล่าวหาเต็ม ๆ
“ศศิลา ทำไมต้องสั่งจีน่าให้ทำให้มินต์ลำบากด้วย”
“ทำไมฉันเพิ่งรู้ว่าคุณเป็นคนใจร้ายขนาดนี้”
“คุณเป็นคนบอกว่าจะหย่า ฉันถึงพามินต์มาร่วมงานวันนี้”
“อีกอย่าง คนที่นอกใจคือผม คุณไม่พอใจ จะลงที่ผมก็ได้ แต่มินต์เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะรับแรงกดดันจากคุณกับจีน่าไหวได้ยังไง”
ฉันมองหน้าเขาเต็ม ๆ แล้วหัวเราะเย็น
“ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่รู้ ว่าสมองคุณมีปัญหาขนาดนี้”
พอดีกับที่มินต์เดินออกมาจากห้องน้ำ
พอเห็นชยพล เธอพุ่งเข้าไปในอ้อมอกเขาอย่างกับกวางน้อยที่ตกใจ
น้ำตาสองหยดค้างอยู่ปลายขนตา จะไหลก็ไม่ไหล ดูอ้อนจนคนใจแข็งยังต้องใจอ่อน
เธอพูดออกมาอย่างคนที่รู้จักเหตุผลและคิดเผื่อทุกอย่าง“ลุง หนูทนได้จริง ๆ นะ อย่าทำให้พี่ศศิลาลำบากใจเลยค่ะ หนูขอร้อง…”
ชยพลยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ น้ำเสียงอ่อนจนแทบละลาย
“เธอนี่แหละ ชอบอดทน ชอบคิดแทนฉันทุกอย่าง”
“ต่อไปฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเจ็บแบบนี้อีก”
น้ำตาเธอไหลลงบนเสื้อเขาเป็นหยด ๆ
เหมือนจะให้ทุกคนรู้ว่าเธอบอบบางแค่ไหน
“แค่มีลุงพูดแบบนี้ ชีวิตนี้หนูก็รู้สึกเพียงพอแล้วค่ะ”
ละครฉากนี้ ฉันมองต่อสักวินาทีก็รู้สึกจะอาเจียน
ฉันหันหลังเดินออกมาอย่างไม่ใยดี แล้วส่งข้อความให้จีน่า
[ที่รัก ขอโทษนะที่ทำให้ปาร์ตี้เละ เดี๋ยวไปออนเซ็นด้วยกัน ฉันเลี้ยง]
ทันทีที่ก้าวออกจากร้าน ลมกลางคืนปะทะหน้าอย่างเย็นเฉียบ
ฉันเงยหน้ามองฟ้า ดาวหรอมแหรม แสงจันทร์ก็หม่น
ฉันแทบรอไม่ไหวแล้ว อยากเห็นสีหน้าของชยพลในวันที่เขากลายเป็นคนจนอีกครั้ง
ส่วนเธอ ——มินต์
ทั้งชีวิตนี้อย่าหวังจะได้เป็นคุณนายบ้านรวยเลย
