บทย่อ
ชยพลดื่มหนัก คืนนี้กลับมาก็รั้งชุดนอนฉันออกอย่างลวกๆ แล้วกดฉันลงบนเตียงจูบอย่างร้อนแรง เราห่างเรื่องบนเตียงกันมานานมากแล้ว ตั้งแต่บริษัทเขาเข้าตลาดหุ้น เขาแทบไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ อยู่ๆ มาร้อนแรงแบบนี้ ฉันตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น เขากลับกอดฉันแน่นเหมือนห้ามตัวเองไม่ได้ แล้วหลุดเรียกออกมาว่า “มินต์……”
บทที่ 1
ชยพลดื่มหนัก คืนนี้กลับมาก็รั้งชุดนอนฉันออกอย่างลวกๆ แล้วกดฉันลงบนเตียงจูบอย่างร้อนแรง
เราห่างเรื่องบนเตียงกันมานานมากแล้ว
ตั้งแต่บริษัทเขาเข้าตลาดหุ้น เขาแทบไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ
อยู่ๆ มาร้อนแรงแบบนี้ ฉันตั้งตัวแทบไม่ทัน
แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น เขากลับกอดฉันแน่นเหมือนห้ามตัวเองไม่ได้ แล้วหลุดเรียกออกมาว่า “มินต์……”
หัวฉันเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมาทีเดียว
เขาก็ชะงัก กรอบไฟมอดลงในเสี้ยววินาที
เขาพลิกตัวลงจากเตียง นั่งหันหลังให้ฉัน
ในห้องมืดสนิท ไม่มีแม้แสงไฟสลัว
หลังจากนั่งเงียบอยู่นาน เขาดับบุหรี่ในมือ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ“ศศิลา เราหย่ากันเถอะ”
“มินต์ไม่ต้องการเงินฉัน เธอแค่อยากได้สถานะแฟน ฉันต้องให้เธอ”
คบกันกับชยพลจนแต่งงานสิบเอ็ดปี
เขาคือคนที่โลกภายนอกยกให้เป็นสามีตัวอย่าง งานดี รายได้ดี รักเมียรักลูก
จนถึงคืนนี้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะนอกใจ
อกเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับจนแทบหายใจไม่ออก ฉันถามทั้งน้ำตา“ครั้งแรกของพวกคุณ... เมื่อไหร่”
แสงจันทร์เย็นเหมือนน้ำแข็ง ลอดหน้าต่างสาดลงบนแผ่นหลังเขา
เขาขมวดคิ้วนิดๆ “สองปีก่อน ตอนฉันไปเซี่ยงไฮ้นั่นแหละ”
ฉันจำคืนนั้นได้ดี เขาต้องไปเอาดีลสำคัญกลับมา เพราะบริษัทกำลังจะล้ม
เขาเครียดมาก
“คืนนั้นฉันสภาพแย่มาก แล้วมินต์ก็มายืนอยู่หน้าประตูโรงแรม”
“เธอเปียกทั้งตัวเหมือนลูกกระต่ายหลงฝน พอเห็นฉันก็พุ่งเข้ามากอด”
น้ำตาฉันไหลเงียบๆ มองเพดานมืดสนิท
แล้วคืนนั้น... ฉันทำอะไรอยู่?
แม่สามีลื่นล้มในห้องน้ำ ถูกส่งเข้าแผนกฉุกเฉินแล้ว
ฉันรีบส่งลูกไปบ้านแม่ แล้วขับรถไปโรงพยาบาลทั้งคืน
กลัวชยพลเป็นห่วง เลยไม่ได้บอกเขา แถมยังหาเวลาส่งข้อความไปให้กำลังใจเขาอีกด้วย
[ที่รักอย่าเครียดนะ ฉันเชื่อว่าคุณทำได้]
[ไม่ว่าตอนไหน ฉันกับลูกจะอยู่ข้างคุณเสมอ ถึงต้องขายบ้านเพื่อหมุนเงิน เราก็ผ่านไปด้วยกันได้]
[เราแค่ยังอยู่ด้วยกัน เท่านี้ก็พอแล้ว]
เขาไม่ได้ตอบฉันเป็นครั้งแรก ฉันโง่คิดว่าเขาคงเหนื่อยหลับไป
แต่ความจริงคือ เขากำลังอยู่บนตัวผู้หญิงอีกคน
สองปีเต็ม ชยพลปิดได้มิดเหลือเกิน
ทั้งๆ ที่เมื่อเดือนก่อน เรายังฉลองครบรอบเจ็ดปีแต่งงานด้วยกัน
เขามอบดอกกุหลาบให้ฉัน มอบกำไลทองให้ฉัน
“ที่รัก ขอบคุณนะที่ดูแลบ้านมาตลอด”
“สุขสันต์วันครบรอบนะ”
เขากอดฉันกับลูกต่อหน้าครอบครัวใหญ่
แม่ฉันยังถ่ายรูปครอบครัวไว้
รูปนั้น... ฉันยังปักหมุดไว้บนหน้าวอลล์วีแชทอยู่เลย
ทุกอย่างเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง
ฉันถามเสียงสั่น“ถ้าวันนี้คุณไม่ใช่เจ้าของบริษัทมูลค่าพันล้าน ผู้หญิงคนนั้นจะยังอยู่กับคุณไหม”
ชยพลหมุนไฟแช็กสีเงินในมือ
เงียบ... เหมือนกำลังเลือกคำตอบ
ข้างนอกจู่ๆ ก็มีลมพัดแรงขึ้นมา
สายฟ้าหนึ่งเส้นผ่ากลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
แล้วเขาก็พูดขึ้นมาในเสี้ยววินาทีนั้น เสียงของเขานิ่งสนิทจนแทบไม่เห็นแม้แต่คลื่นอารมณ์สักนิด“ศศิลา ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน”
“แต่มินต์เธอไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน สองปีนี้เธอไม่มีสถานะ ต้องทนหลายอย่าง ฉันปล่อยให้เธอเจ็บไม่ได้อีก”
แล้วฉันล่ะ?ในกรุงเทพ เมืองที่แพงยันอากาศ เราเคยจนจนต้องนอนในห้องเช่าใต้ดินไม่ถึงยี่สิบตาราง
อยู่ตั้งสามปี หน้าร้อนแอร์ก็ไม่มี
กลางดึกยังเคยมีแมลงสาบไต่ขึ้นมาบนแขน
ฉันเคยเชื่อว่าความรักจะพาเราไปได้ทุกที่
แต่ตอนนี้... ภาพจริงมันโหดร้ายเหลือเกิน
“ชยพล คุณลืมไปแล้วเหรอ”
“ตอนเราแต่งกัน คุณก็ร้องไห้สาบานว่าจะรักฉันไปทั้งชีวิต!”
เขาฟังประโยคนั้นแล้วก็ค่อยๆ เงียบคิดไปอยู่สองสามวินาที

