ครั้งแรกก็เจอของใหญ่ไซส์60 2
ปั้ง!!!
แม่เล้าคนสวยพูดจบก็ปิดประตูอย่างแรงทิ้งไว้เพียงหญิงสาวที่ยืนน้ำตาคลอกับคำพูดของเธอ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแล้วสินะ ร่างกายนี้ พรหมจรรย์นี้ที่เธอเฝ้าดูแลทะนุถนอมมาอย่างดีกำลังจะถูกพรากไปแล้วจริงๆ สินะ
พิมพ์พาทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอดวงตาคู่สวยปิดหลวงพร้อมกับหยาดน้ำตาใสๆ ที่ค่อยๆ ล้นไหลลินออกมา
ก็คงต้องยอมทำนั่นแหละเด็กที่ไม่มีหนทาง แถมยังเติบโตมาภายใต้ร่มเงาของเธอคนนั้นในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องตอบแทนบุญคุณก็ถูกแล้วนั่นแหละ หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วจัดระเบียบความคิดตัวเองเสียใหม่ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนมองตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่
ดวงตากลมโตจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเอง ภาพตรงหน้าเธอคือผู้หญิงผมดำยาวตรงสลวยใบหน้านวลสวย คิ้วเข้ม ตาคม ปากนิดจมูกหน่อย ให้ตายเถอะเธอมีทั้งรูปร่างและใบหน้าที่สวยขนาดนี้น้ำตาไม่คู่ควรกับเธอเลย
พิมพ์พาพูดกับตัวเองพร้อมกับยกมือขึ้นมาเท้าเอวคอดของตัวเองแล้วหมุนไปหมุนมานี่สินะเหตุผลที่แม่ของเธอต้องการให้เธอทำงาน นี่สินนะเหตุผลที่ยี่หวาไม่ชอบขี้หน้าเธอ
เพราะทุกคนต่างอิจฉาในความสวยของเธอ เอาล่ะมาทำงานของเธอให้ดีที่สุดก็แล้วกันไม่ว่าเธอจะทำงานอะไรเธอจะต้องเป็นที่หนึ่งให้จนได้นั่นแหละแม้แต่งานในช่องนี้ก็เช่นกัน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น พิมพ์พาก็หยิบกิ๊บขึ้นมาเหน็บผมตัวเองสองสามตัวแล้วหยิบดินสอเขียนคิ้วขึ้นมาเริ่มแต่งแต้มลงไปที่ใบหน้าของตนเองในทันที
ก๊อกๆๆ
“ทำใจเสร็จหรือยังถ้าเสร็จแล้วก็มาเอาชุดกูเตรียมชุดสำหรับคืนนี้ไว้ให้มึงแล้ว”
เสียงเจ๊กุหลาบพูดดังลั่นอยู่หน้าประตูพิมพ์พาเองก็เปิดประตูไปรับชุดจากแม่เลี้ยงของเธอมาแล้วปิดประตูลงมันที เธอยกชุดมาทาบดูที่หน้ากระจกชุดที่แม่เล้าของเธอเตรียมให้ในวันนี้เป็นชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ประดับด้วยมุกเลื่อมและขนนกมันเป็นชุดที่สวยที่สุดในสายตาเธอและแน่นอนว่าเธอก็เหมาะกับชุดนี้มากเช่นเดียวกัน
“ก๊อกๆๆ พิมพ์นี้พี่แหม่มเอง ให้พี่เข้าไปหน่อยได้ไหม”
แหม่มเป็นหญิงสาวที่ใจดีกับพิมพ์พามาโดยตลอดเธอรับรู้ได้ถึงความน่าสงสารของหญิงสาวคนนี้และเธอเองก็เอ็นดูพิมพาเหมือนน้องสาวของเธอเสมอ
“เข้ามาได้ค่ะพี่แหม่มพิมพ์ไม่ได้ล้อกห้อง”
เมื่อได้ยินดังนั้นแหม่มก็เปิดประตูเข้ามาเธอยิ้มอย่างอบอุ่นในทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้หญิงสาวตรงหน้าถึงแม้ว่าเธอจะยิ้มตอบแต่แหม่มก็รู้ได้ว่าภายในจิตใจของเธอไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับที่ใบหน้าเธอแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
“เราหนีไปอยู่ที่อื่นกันไหม ตอนนี้ยังทันนะโอกาสสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่แหม่ม ในเมื่อโชคชะตาทำให้หนูต้องมาอยู่ที่นี่หนูก็จะอยู่ที่นี่ค่ะมันคงถึงเวลาแล้วที่หนูจะต้องตอบแทนแม่บ้าง แหม่มไม่ต้องเป็นห่วงนะคะยังไงสักวันก็ต้องเป็นอย่างนี้อยู่ดี”
เมื่อได้ยินคำพูดออกจากปากของเด็กสาวมาอย่างนั้นเธอก็สวมกอดเด็กสาวเอาไว้ในทันทีพร้อมกับลูบที่แผ่นหลังของเด็กสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่แต่งหน้า ทำผมให้นะ”
พิมพ์พาพยักน่ารับแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินกลับมานั่งที่หน้ากระจกโดยมีพี่สาวใจดีที่ยืนรอแต่งหน้าทำผมให้เธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มใจดี
“น้องสาวพี่นี่สวยจริงๆ เลยพิมพ์เหมาะกับชุดนี้มากเลยนะรู้ไหม”
“ขอบคุณค่ะพี่แหม่ม “
“มาเดี๋ยวพี่ทำผมให้ก่อนนะ”
แล้วทั้งสองคนก็ช่วยกันประดับประดาแต่งแต้มความสวยลงไปที่ใบหน้านวลด้วยความตั้งใจวันนี้เธอจะต้องสวยที่สุดและราคาดีที่สุดเช่นกัน
“พี่แหม่มมีอะไรปิดบังพิมพ์อยู่หรือเปล่าคะ”
ด้วยความที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ มีหรือพี่คนคุ้นเคยจะซ่อนอะไรไว้ภายใต้ดวงตาที่หม่นหมองนั้นได้แม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้มคอยกลบเกลื่อนให้ก็ตาม
“พิมพ์จะโกรธแม่ไหมถ้าผ่านคืนนี้ไป”
“พิมพ์ไม่โกรธแม่หรอกพี่แหม่ม ยังไงแม่ก็เป็นผู้มีพระคุณของพิมพ์ถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีพิมพ์ในวันนี้ป่านนี้พิมพ์ก็คงอาจจะจะไปถูกขายที่อื่นหรืออาจจะเป็นขอทานอยู่ข้างถนนที่ไหนสักแห่งก็ได้”
“แต่แม่จะขายพิมพ์นะรู้ไหม”
