8. คาดโทษ
ตอนที่ 8.คาดโทษ
วันต่อมา
“Shit!!"
เสียงปากหนาสบถออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวก่อนจะทิ้งกายกำยำของตัวเองลงไปบนโซฟาราคาแพงด้วยความอ่อนแรง หลังจากที่วิ่งเข้าห้องน้ำเป็นว่าเล่นทั้งคืน อาชาก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาโทรหาลูกน้องคนสนิทอย่างกองทัพตั้งแต่เช้ามืดเพื่อบอกให้ลูกน้องโทรตามหมอให้มาที่นี่ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะขาดน้ำจนตายไปเสียก่อน
แม้จะไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมเขาถึงได้เกิดอาการท้องเสียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่หนุ่มลูกครึ่งก็พอที่จะเดาได้ว่าสาเหตุก็คงมาจากเมื่อวานที่เขาไปทานข้าวที่บ้านของเจ้าสัวเปรมชัยมา แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าตัวต้นเหตุคือปรีชญา....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
”หมอมาแล้วครับเจ้านาย“ ไม่นานนักเสียงกองทัพก็ดังขึ้น
“อืม ให้เข้ามาได้เลย”
สิ้นเสียงอนุญาต หมอหนุ่มหน้าตาดีก็เดินเข้ามาก่อนที่จะเริ่มทำการตรวจอาการของคนไข้และสอบถามประวัติของอาชาด้วยความชำนาญ
”จากที่ฟังอาการมา คุณอาชาน่าจะท้องเสียเฉยๆนะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก อาการไม่ได้รุนแรงอะไรจนถึงต้องทานน้ำเกลือครับ แต่ว่าถ้าอาการแย่ลงให้รีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลทันทีนะครับ“
”เดี๋ยวหมอจะจ่ายยาแก้ปวดท้อง ยาแก้ท้องเสียแล้วก็เกลือแร่ให้นะครับ หลังจากนี้ดื่มเกลือแร่บ่อยๆและนอนพักเยอะๆ เพื่อร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำมากเกินไป“
”ครับ“
ปากหนาที่บัดนี้แทบไม่เห็นสีเลือดเอ่ยตอบอย่างกับคนแทบจะไม่มีแรง แต่ถึงแบบนั้นใบหน้าหล่อก็ยังคงความสุขุมเอาไว้ เพราะผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาไม่ต้องการแสดงความอ่อนออให้ใครเห็นได้ง่ายๆ
หลังจากที่หมอหนุ่มจัดการจัดยาสำหรับแก้บรรเทาอาการป่วยของอีกคนเสร็จสิ้น จอมทัพก็ได้ทำการออกไปส่งหมอคนนั้นที่หน้าประตู ก่อนที่มือขวาคนสนิทจะเดินกลับเข้ามาหาเจ้านายของตนเองที่กำลังยืนดื่มเกลือแร่อยู่บริเวณเคาท์เตอร์ครัว
“ประชุมออนไลน์กับนายใหญ่ให้ผมเลื่อนไปก่อนไหมครับ“ กองทัพเอ่ยถามอย่างรู้งาน เมื่อเห็นง่าเจ้านายป่วยอย่างกนะทันหัน
”อืม“ อาชาตอบกลับ
“อยากทานอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมซื้อมาให้”
“ข้าวต้มก็ได้ ถ้าขึ้นมาแล้วฉันหลับไม่ต้องปลุก” ปากหนาพูดต่อด้วยอาการเหนื่อยล้า ถ้าทานยาเสร็จเขากะว่าจะเข้าไปนอนพักเสียหน่อย หลังจากที่แทบไม่ได้นอนมาทั้งคืน
ซึ่งลูกน้องคนสนิทก็ตอบรับอย่างว่าง่าย
“ครับ”
จนกระทั่ง....
หลายชั่วโมงต่อมา
ดวงตากลมค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากได้พักผ่อนไปเกือบๆสามชั่วโมง โชคดีที่อาการท้องเสียได้หายไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการปวดท้องที่ยังโจมตีเขาอยู่เล็กน้อย เมื่อรู้ตัวว่าวันนี้ตนเองยังไม่ได้ทานอะไรเลยสักอย่าง ร่างสูงก็ไม่รอช้าที่จะลุกออกจากเตียงกว้าง เดินตรงดิ่งไปยังเคาท์เตอร์ครัวที่มีถุงข้าวต้มวางเอาไว้ตามคำสั่ง
ในขณะที่มือหนากำลังจัดแจงอาหารสำหรับมื้อแรกของตัวเองอยู่นั้น
ครืด~ ครืด~
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ราคาแพงของเขาก็ดังขึ้นมา อาชาเหลือบสายตาไปมองเบอร์โทรแปลกที่เขาไม่ได้บันทึกชื่อเอาไว้ด้วยความชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายในที่สุด
“ฮัลโหล”
‘ฮาย~ สวัสดีตอนเที่ยงค่ะคุณว่าที่คู่หมั้น’
ใบหน้าหล่อชะงักไปเล็กน้อยเมื่อน้ำเสียงสดใสที่เขาได้ยินทำให้เขาจำได้แทบจะทันทีว่าเจ้าของเบอร์นี้เป็นใคร
”ต้องการอะไร“ มาเฟียหนุ่มที่แอบมีความสงสัยแคลงใจอยู่แล้วว่าอาการเจ็บป่วยของตนเองอาจจะมีปรีชญาอยู่เบื้องหลัง
เสียงทุ้มจึงไม่รอช้าที่จะถามอีกคนออกไปถึงจุดประสงค์ที่เธอโทรมาหาเขาในวันนี้
‘อุ๊ย~ น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยดีเลยนะคะ หึ‘
ได้ยินแค่เสียงหัวเราะในลำคอ อาชาก็รู้แล้วว่าเธอคือคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้จริงๆ
“เธอเป็นคนทำสินะ” เขาพูดออกไปเสียงเข้ม แอบรู้สึกหัวเสียเล็กน้อยที่พลาดท่าให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ
เขารู้ดีว่าปรีชญาเป็นผู้หญิงที่ดื้อแค่ไหน แตาก็ไม่คิดว่าเธอจะร้ายกาจจนถึงขั้นกล้าวางยาเขาแบบนี้ สงสัยเขาคงชะล่าใจกับผู้หญิงคนนี้มากจนเกินไป
’อะไรกันคะคุณคู่หมั้น แค่นี้ต้องทำเสียงดุใส่ฉันเลยเหรอ คิคิ ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ในเมื่อคุณไม่ยอมยกเลิกงานหมั้นดีๆเอง‘
‘ถ้าไม่อยากโดนมากกว่านี้ก็ไปขอยกเลิกงานหมั้นกับพ่อฉันซะ’ จากน้ำเสียงที่ฟังดูขี้เล่น แปรเปลี่ยนไปเป็นโทนจริงจังอย่างง่ายดาย
มันไม่ใช่คำขู่แต่มันเป็นสิ่งที่เขาควรจะทำถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้
อาชาได้ยินแบบนั้นแทนที่จะกลัวแต่เขากลับรู้สึกทีความฮึกเหิมอะไรบางอย่าง เขาไม่แปลกใจว่าทำไมคู่หมั้นทั้งสามคนก่อนหน้าถึงได้ยอมยกเลิกงานหมั้นไป เธอคงคิดว่าแผนนี้มันจะได้ผลกับคนอย่างเขาสินะ
นอกจากจะไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไร หนำซ้ำอาชากลับรู้สึกว่าเขาเริ่มอยากจะ’เอาชนะ‘ผู้หญิงคนนี้เสียมากกว่า เพราะเธอจะได้รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับผิดคน เขาอยากจะสั่งสอนเธอ ว่าไม่ควรมาท้าทายคนอย่างเขา
สิ่งที่อีกคนทำมันมากเกินไป เขาไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ
“ได้ พรุ่งนี้เจอกันตอนสิบโมง“ มาเฟียหนุ่มตอบกลับโดยมีแผนการอยู่ในใจ
‘......ก็แค่นี้ ถ้าตกลงตั้งแต่เมื่อวานก็คงไม่ต้องกินยาถ่ายลงไปหรอก’ แม้จะรู้สึกแปลกใจที่คราวนี้อีกคนยอมแบบง่ายๆ แต่สุดท้ายปรีชญาก็รู้สึกโล่งใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเองคาดหวัง
โดยหารู้ไม้ว่าเธอกำลังจะถูกมาเฟียหนุ่มเอาคืน โทษฐานที่วางยาถ่ายให้เขากิน
’ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราทั้งสองจะได้เจอกัน’
สิ้นประโยคนั้นสายก็ถูกตัดไปทันที
อาชาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขากำลังขบคิดถึงแผนการของตัวเอง เขาประเมินเธอต่ำเกินไปเพราะฉนั้นคนอย่างปรีชญา....ตัองเจอกับคนแบบเขานี่แหละถึงจะสาสม
”กล้าวางยาถ่ายฉันงั้นเหรอ“
“แสบนักนะ!”
ปากหนาบ่นพึมพัมกับตัวเองด้วยความรู้สึกคาดโทษ มีผู้หญิงน้อยคนนักที่ทำให้คนอย่างอาชาอยากจะกำราบได้
คิดได้แบบนั้นมือหนาก็ไม่รอช้าที่จะกดโทรออกหาเปรมชัย เพื่อนัดคุยกันในวันพรุ่งนี้
“สวัสดีครับคุณอา“
วันต่อมา
@คฤหาสน์ดำรงเดช
”คุณอาชามาถึงแล้วค่ะคุณหนู“ เสียงของชื่นดังขึ้นทำเอาปรัชญาที่กำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากนะจกเปยยิ้มออกมาบางๆ
เธอตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อเตรียมตัวรอรับฟังข่าวดีจากว่าที่คู่หมั้นหนุ่มที่กำลังจะกลายไปเป็นอดีตด้วยความรู้สึกพึงพอใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คิดได้แบบนั้นปรัชญาก็ไม่รอช้าที่จะผุดลุกขึ้นยืนเต็มด้วยสูงกว่าร้อยหกสิบเจ็ดของเธอด้วยความมั่นใจ
“ลงไปกันเถอะค่ะป้า :)” พูดจบหญิงสาวก็เดินนำหน้าแม่บ้านสูงวัยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จนชื่นอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดวันนี้คุณหนูของนางถึงได้ดูมีความสุขขนาดนั้น
“ค่ะ“
