ตอนที่ 1/1
นายคาวิน ฑัลก์หิรัญดรณ์ และ นางยูนะ ฑัลหิรัญดรณ์
นายศุภัช ฤทธิกุล และ นางชลิษา ฤทธิกุล
มีความยินดีขอเรียนเชิญท่านเพื่อเป็นเกียรติ และร่วมรับประทานอาหารเนื่องในพิธีหมั้นระหว่าง
นายคิรากร ฑัลก์หิรัญดรณ์ (คุโชว์) และ นางสาวอลิษา ฤทธิกุล (อินอิน)
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 25XX
ณ ห้องพาราไดซ์ บอลรูม โรงแรมโอลิมเปียร์ แกรนด์, กรุงเทพฯ
กำหนดการ เวลา 10.10 น. ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีหมั้น
เวลา 10.30 น. ฟังพระสวด และถวายภัตตาหาร
เวลา 11.30 น. ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร
เวลา 19.30 น. ขอเชิญร่วมงานเลี้ยงฉลองพิธีหมั้น
(ขออภัยหากไม่ได้มาเชิญด้วยตัวเอง)
‘ การ์ดเชิญงานหมั้น ’
หมั้นงั้นเหรอ
[] ก๊าซ
โมโหจนจะพ่นไฟได้อยู่แล้วให้ตายเถอะ
ฉันเดินเข้ามาในห้องชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยเซนมาร์นอฟด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ก่อนจะลากเก้าอี้ออกมานั่ง แล้วดึงการ์ดเชิญออกมาอ่านด้วยจิตใจที่เดือดระอุ
ตุบ!
เสียงทุบกำปั้นลงกับพื้นโต๊ะด้วยความโกรธสลับกับเสียงกัดฟันกรอดดังขึ้นหนึ่งที
“อุ้ย!” ลีแคลที่เดินเข้ามาในห้องพอดีทำท่าผงะตกใจเล็กน้อยเพราะเสียงทุบโต๊ะของฉัน ทำให้ฉันตวัดสายตาดุๆ ไปมองหมอนั่นอย่างไม่สบอารมณ์
“มีอะไร?”
“เปล่า เจ๊นั่นแหละเป็นอะไร =_=”
“เปล่า!” ฉันกระแทกเสียงกลับไปก่อนจะตวัดสายตาไปทางอื่นเพื่อตัดบทสนทนา
“=_= คำพูดกับการกระทำ เฮ้อ!”
หมอนั่นบ่นพึมพำพลางส่ายหน้าไปมา หน็อย! นายกำลังแสดงอารมณ์เหนื่อยหน่ายใส่ฉันใช่ไหมลีแคล อย่าอยู่เลย O หมับ! ฟ้าว! ปั่ก!
“โอ๊ย TOT อะไรของเจ๊เนี่ย” ลีแคลลูบหัวที่เพิ่งโดนปากกากระแทกไปป้อยๆ พลางจ้องหน้าฉันแววตาขุ่น
“ก็นายกวนใจฉันก่อนทำไม”
“-_-* ผมกวนเจ๊ตอนไหน แล้วเจ๊หงุดหงิดอะไรนักหนา ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไง? รีบๆ ไปซื้อยาหมอเส็งมากรอกปากด่วน”
“-O- นั่นมันยาน้ำว่านชักมดลูกไอ้เกรียน”
“ยาสตรีตราหมอเส็งก็มีนะเจ๊”
“ทำไมแกรู้ดีจังวะ”
“ป๊าผมเป็นตัวแทนจำหน่าย”
“=O=”
“เจ๊เชื่อเหรอ?”
“_ “ฮ่าๆ ดูหน้าเจ๊ดิ อย่างฮาอะ”
“ไอ้เด็กเวร” ฉันคว้าก้อนหินแกะสลักขนาดเหมาะมือขึ้นมา คงเป็นของที่ระลึกจากที่ไหนสักแห่ง ทำท่าว่าจะขว้างใส่หน้ามันให้เข็ดหลาบ คราวหลังจะได้ไม่กล้ามาลองดีกับฉันอีก
“เฮ้ย! เจ๊อย่านะ นั่นมันของจากเด็กๆ หมู่บ้านคาเมยตั้งใจทำให้ชมรมเราเลยนะ”
ฉันขมวดคิ้ว... “อะไรนะ?”
ลีแคลพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายอีกรอบ ก่อนจะเดินเข้ามาฉวยหินแกะสลักไปจากมือฉันดื้อๆ แล้วยื่นมันมาตรงหน้าฉันพร้อมกับอธิบาย
“เจ๊นี่ไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม ตั้งแต่ที่เจ๊ทิ้งชมรมแล้วหนีตามผู้ชายไปเมืองนอก”
“แกว่าใครหนีตามผู้ชาย” เส้นเลือดที่ขมับเริ่มปูดให้เห็นเด่นชัด =_=+
“เอ้อ! พูดผิด ...ตั้งแต่ที่เจ๊ไปเรียนต่อเมืองนอกหลายปี ชมรมเราก็มีการเปลี่ยนแปลงกันเล็กน้อย นอกจากจะแข่งบาสตามปกติก็มีออกค่ายไปทำประโยชน์ให้กับสังคม”
“ฮู้ว?”
“นี่เจ๊ไม่ใช่เรื่องตลกนะ อย่าทำเป็นเล่น”
“อ้าวเหรอ -O-”
“เจ๊จริงจังหน่อย”
“=_=” ไอ้นี่!
“หินเนี่ยเป็นเหมือนคำเชิญที่เด็กๆ จากหมู่บ้านห่างไกลส่งมาให้พวกเรา”
“คำเชิญ?” ฉันขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงเลือดในกายที่เดือดพล่าน
ลีแคลกระตุ้นสมองของฉันให้นึกถึงการ์ดเชิญงานหมั้นของคุโชว์กับอินอินขึ้นมา
“ใช่! เรากำลังรอให้ประธานพิจารณาเรื่องนี้อยู่”
“ท็อฟฟี่น่ะเหรอ”
“ครับ”
“...” ฉันยักไหล่ก่อนจะเดินมานั่งลงที่เดิม แล้วลีแคลก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ...
ที่นี่เป็นห้องชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยเซนมาร์นอฟ ท็อฟฟี่เป็นประธานชมรม นอกจากนั้นหมอนั่นยังควบตำแหน่งรองประธานสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยด้วย ใหญ่ซะไม่มี -*- เห็นว่าเพราะต้องคอยดูแลแฟนก็เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมมากเท่าที่ควรก็เลยชวดตำแหน่งประธานสโมฯ ไป งี่เง่าเนอะ!
เบื่อพวกมีแฟนชะมัด!
ส่วนฉันโซอี เคยเป็นผู้จัดการทีมบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยยังเรียนมัธยมอยู่ที่เซนมารีน พอเรียนจบก็ตามคุโชว์เอ๊ย! ก็บินไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียได้ปีกว่าๆ ก่อนจะโอนหน่วยกิตไปเรียนต่อที่อเมริกาอีกเกือบๆ สามปี เพิ่งจะกลับมาเนี่ยแหละ แต่ระหว่างอยู่ต่างประเทศฉันก็ไม่เคยขาดการติดต่อกับทางนี้เลย อาจจะไม่รู้เรื่องออกค่ายอาสาเลยก็จริง แต่ในการแข่งบาสนัดสำคัญๆ ฉันก็เป็นคนช่วยวางแผนการเล่นให้กับทีม อ้อ... ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ก็ยังมีผู้จัดการทีมอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือลีลาร์ น้องสาวลีแคลนั่นเอง
