ไม่มีมารยาท
ตอนที่แล้ว...
"อื้อ~ อ๊อก! อ๊อก! อ๊อก!" ฉันยิ่งแนบหูเข้าไปใกล้ ฉันยังคงอ้าปากค้างไปพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของผู้หญิงที่อยู่ข้างใน มือบางเผลอไปวางที่ลูกบิดของประตูด้วยความที่ไม่รู้สึกตัว แล้วก็ต้องเบิกตากว้างออกมาทันทีเมื่อฉันสะดุดขาตัวเองล้มไปชนประตูเข้าอย่างจัง ซึ่งพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ได้ล็อคมันไว้ หลังจากนั้นก็!!....
แก่ก!!
พรึ่บ!
ฉันล้มหัวคะมำลงไปนอนกับพื้นห้องน้ำก่อนที่จะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบเข้ากับอนาคอนด้าขนาดใหญ่ห้อยโตงเตงอยู่ตรงหน้าของฉัน
"กรี๊ด!!!"
"อ๊าก!!!"หนุ่มนักศึกษาคนนั้นรีบดึงกางเกงของตัวเองขึ้น(ยังดูไม่เต็มอิ่ม????) ส่วนฝ่ายหญิงก็รีบยืนขึ้นพร้อมกับทำหน้าแตกตื่น แต่ว่าฉันนั้นไม่สามารถลุกขึ้นได้จริงๆเนื่องจากอาการค้าง ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นอนาคอนด้าที่ตัวโตมโหฬารขนาดนี้
"นี่แกเป็นใครยะ! กล้าดียังไงพังประตูเข้ามาแบบนี้" ฉันรีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำลายของตัวเองที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นทำตัวให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ค..คือ..."
"คือ...คืออะไรของเธอไม่มีมารยาท!!" ไอ้หน้าหล่ออนาคอนด้าใหญ่โตว่าฉันเป็นประโยคแรก บอกฉันว่าไม่มีมารยาทไม่ดูตัวเองเลยสักนิดที่นี่มันห้องน้ำของ klever University มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุด มันใช่เรื่องที่ไหนที่จะมาทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ อารมณ์ของฉันเริ่มฉุนเฉียวขึ้น มือบางกำหมัดแน่นเส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆอยากจะซัดหน้ามันสองคนเต็มที
"นี่นาย!! นายจะต่อว่าฉันอะไรก็ได้นะแต่นายจะมาบอกว่าฉันไม่มีมารยาทไม่ได้!! เพราะคนที่ไม่มีมารยาทก็คือตัวพวกแกสองคนนั่นแหละ นี่มันห้องน้ำมหาลัยนะโว้ย!! ไม่ใช่ม่านรูดที่จะมา อวยคม กันไม่อายผีสางในชักโครกกับที่ฉีดตูดเลยอ่ะ"
"ทำไม ฉันจะเย็xใครตรงไหนก็ได้เพราะมหาลัยนี้มันเป็นของฉัน ที่เธอมายืนด่าฉันฉอดๆแบบนี้คงไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร จำใส่สมองอันน้อยนิดของเธอไว้เลยนะ ว่าฉันคือ ดินแดน ศิริวัฒน์ไพศาล ทายาทคนเดียวของตระกูล ศิริวัฒน์ไพศาล และเป็นเจ้าของ klever University ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งฉันสามารถทำให้เธอเด้งออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ภายในวันนี้ พรุ่งนี้ เวลานี้ด้วยซ้ำ!!"
"แหม!! ถ้าวันหนึ่งแกเป็นอธิการบดีแห่ง klever University ฉันคนหนึ่งแหละที่จะไม่หอบลูกหอบหลานมาเรียนที่นี่ เพราะมีเจ้าของมหาวิทยาลัยที่โรคจิต หน้าด้าน หน้าไม่อาย แบบแก ไอ้โรคจิต ไอ้อนาคอนด้ายักษ์!" หลังจากที่ฉันด่าพวกมันสองคนชนิดที่เจ็บแสบตูดแล้ว ก็เดินออกมาจากห้องน้ำสวยๆเยี่ยงผู้ชนะ คงไม่รู้สินะว่าคนอย่างดารินหลานยายแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องปากนั้น ถ้าใครด่ามันแล้วมันด่ากลับแถมความเจ็บแสบเพิ่มทวีคูณเป็นโบนัสอีกสามเท่า
"อีรินมึงเป็นอะไรวะ ทำไมทำหน้าอมขี้แบบนั้น"เพื่อนของฉันทักทันทีหลังจากที่ฉันออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่หงุดหงิดไม่ประสบอารมณ์แต่คงจะแสดงออกเยอะไปหน่อย
"อมทุกข์เถอะย่ะ!!"
"เออๆนั่นแหละ"
"ก็เมื่อกี้สิวะ กูซวยไปเห็นคนที่กำลังอ๊อกๆกัน แถมไอ้ผู้ชายคนนั้นยังอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของ klever University ในอนาคตอีกด้วย หึ ใครเชื่อก็โง่แล้วตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นลูกของอธิการบดีเลย ป่านนี้คงจะไปเรียนเมืองนอกเมืองนานู่น"
"เจ้าของในอนาคต? มันชื่ออะไรวะ!"
"มันบอกว่าชื่อ ดินแดน ศิริวัฒน์ไพศาล กูไม่สนหรอกนะว่ามันจะเป็นใคร แต่ที่แน่ๆกูด่ามันไปน่าจะแก้วหูพังแล้วล่ะ ฮ่าๆ"
"เชี่ย! คนที่มึงมีเรื่องด้วยคือพี่แดนลูกของอธิการบดีเลยหรอวะ ไอ้เชี่ยริน!! มึงเล่นของสูงเลยหรอวะเพื่อน"
"แดน? แดนคือใคร"
อีหอยทำหน้าตาตื่นตูมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนผสมหวาดกลัว เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงรีบเอียงหัวเล็กน้อยขมวดคิ้วโก่งเข้าหากัน พร้อมกับยิงคำถามไปหามันด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่ามันจะทำสีหน้าแบบนั้นทำไม ขนาดฉันเป็นคนด่ามันแท้ๆยังไม่เห็นจะกลัวเลย ถ้าแน่จริงก็ไล่ออกเลยสิ คิดว่าฉันโง่หรือไงตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นลูกอธิการบดีแห่ง klever University เลย
"ก็พี่แดนลูกของเจ้าของ klever University แห่งนี้ในวะอีโง่!! มึงจะถูกไล่ออกก็ทีนี้แหละ"
"เชี่ยจริงหรอวะ! กูควรทำยังไงดีวะมึง!" ฉันตวาดออกมาหน้าตาตื่นด้วยความความตกใจ นี่ฉันทำอะไรลงไป ทำไมถึงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเขาไล่ฉันออกจริงๆอย่างที่เขาพูด ยายต้องไม่พอใจและต้องเฉดหัวฉันออกจากบ้านแน่ๆ แง๊~ พ่อจ๋าแม่จ๋าลูกจะทำยังไงดี
"เตรียมตัวเซ็นใบลาออกนะสิ ถามโง่ๆ!!"
"แง๊~"
อีเพื่อนตัวดีนี่ก็มีแต่จะพูดให้ฉันคิดมากกว่าเดิมอีก เพื่อนที่ดีควรจะพูดปลอบใจเพื่อนที่กำลังมีสภาพจิตใจที่แย่ไม่ใช่หรอ ไม่มีความเป็นเพื่อนที่ดีเอาซะเลย!! ขืนถ้าเป็นแบบที่มันพูดจริงๆฉันก็คงต้องยอมรับชะตากรรมคลานออกไปจาก klever University อย่างเสียไม่ได้ แง๊~
@Demon club
ไฟสปอร์ตไลท์หลากสีสาดไปมาทั่วคลับเมื่อคล้อยไปกับเสียงเพลงที่เร้าใจยิ่งทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจสมกับเป็นคลับแห่งสวรรค์จริงๆ
ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มหล่อเหล่ากำลังเอื้อมมือไปจับขาของแก้วไวน์ที่มีมูลค่าแพงที่สุดในคลับ ก่อนที่จะกระดกมันเข้าคอเหมือนกับว่ามันเป็นแค่น้ำเปล่า
"เฮ้ยไอ้แดนดูเพื่อนๆดิ เรียนจบกันไปหมดแล้ว ไอ้บาสก็เป็นหมอ กูก็เป็นครู แล้วมึงล่ะทำไมยังเป็นนักศึกษาอยู่วะ อายุมึงยี่สิบห้าแล้วนะเว้ย อีกห้าปีมึงก็สามสิบละ ในใจมึงจะเป็นนักศึกษาปีสี่ จนถึงอายุสามสิบเลยหรอวะเพื่อน"
เพื่อนสนิทของเขาเอ่ยขึ้นแถมยังเล้าโลมให้ชายหนุ่มนั้นเรียนให้จบสักทีเพราะเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองนั้นได้เรียนจบไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว และปัจจุบันพวกเขาก็มีอาชีพการงานที่มั่นคงช่างต่างจากเขาที่ทำตัวเละเทะไปวันๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้จักโต
"นั่นน่ะสิ มึงล้อเล่นกับชีวิตมากเกินไปแล้วนะเว้ย"
"แล้วไง ก็พ่อไม่ยอมปล่อยกูไปเอง ถ้าพ่อยังขืนจะให้กูแต่งานกับผู้หญิงคนนั้น แถมยังบังคับกูเป็นอธิการบดีอีก กูก็ต้องทำแบบนี้แหละ ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วพวกมึงจะให้กูทำยังไง"ชายหนุ่มไม่สนใจพลางหยิบแก้วไวน์สุดหรูกระดกเข้าคออึกเดียวหมดแก้ว
"มึงก็ตั้งใจเรียนให้จบสิวะ พอถึงตอนนั้นมึงยังดื้อด้านที่จะไม่ทำตามกฎของตระกูล พ่อมึงก็ไม่สามารถห้ามอะไรได้แล้ว"
"เออกูเห็นด้วยกับที่ไอ้บาสพูด"
"ไอ้เมฆ ตั้งแต่เกิดมากูก็ไม่เคยเห็นว่ามึงจะไม่เห็นด้วยกับไอ้บาสเลยสักครั้ง ไม่ว่ามันจะพูดอะไร มึงก็คล้อยตามมันไปหมดนั่นแหละ" ชายหนุ่มพูดค้านขึ้นมาหลังจากที่เมฆเห็นดีเห็นงามกับบาส เขาจึงพูดเบี่ยงประเด็นไปว่าเมฆนั้นเห็นด้วยกับบาสทุกเรื่อง ไม่ว่าบาสจะพูดอะไรเขาก็เชื่อไปหมด ในคำพูดลึกๆเขาก็หลอกด่าเมฆว่าเป็นคนไม่มีหัวคิดชอบตามคนอื่นไปเรื่อย
"แต่ครั้งนี้กูเห็นด้วยกับมันเป็นที่สุด มึงยอมกลั้นใจเรียนให้มันจบเถอะนะเพื่อน"
"หึ ไม่เว้ย! พวกมึงไม่รู้หรอกว่าการเป็นนักศึกษานั้นมันดีแค่ไหน!! วันนี้กูเพิ่งไปเต๊าะดาวคณะคอมพิวเตอร์มาเข้าไปได้แค่ปาก เสียดายดันมีมารผจญมาขัดขวางซะก่อน!! อึก!"
ชายหนุ่มรีบดึงสติกลับมาเข้าโหมดเรียบนิ่งทันที เมื่อพลั้งปากไปกลัวว่าเพื่อนสนิทนั้นจะรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเผลอพูด แต่เพื่อนสนิทของเขานั้นก็ช่างหูดีเหลือเกิน ทั้งๆที่ในคลับนั้นมีเสียงเพลงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว เขานั้นก็พูดออกมาเบาๆแทบจะไม่ได้ยิน แต่ทั้งสองนั้นก็ได้ยินเฉยเลยเหมือนกับว่าพวกเขามีหูทิพย์
"ใครวะช่างกล้ามาขัดความสุขมึง!!"
"กูไม่รู้แต่ที่แน่ๆหุ่นเอ็กซ์อึ่มเป็นบ้าเลย ถ้ากูเจออีกนะกูจะจับทำเมียแม่งเลย!!" เขาเอ่ยประชดประชันในขณะที่สีหน้ายังแสดงถึงความเครียดแค้นเกรี้ยวกราดไม่พอใจอยู่
"เห็น สาวๆสวยๆเป็นไม่ได้จับทำเมียตลอดเลยนะมึง ระวังสักวันหนึ่งมึงจะเป็นเอดส์ตายไอ้แดน!!"
"ว่าแต่กู มึงก็ใช่ย่อยไอ้บาส" ชายหนุ่มเถียงบาสผู้เป็นเพื่อน เขาไม่ยอมฟังคำเตือนจากเพื่อนๆเลยแม้แต่ประโยคเดียว เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ เด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรก็ทำเลย ไม่คิดที่จะลังเล จนบางครั้งเพื่อนๆก็เอื่อมระอาไม่อยากจะยื่นมือเข้าไปดึงเขาออกจากห้องแคบๆแล้วเปิดประตูออกสู่โลกภายนอก
ในขณะที่สามหนุ่มกำลังดื่มด่ำไปกับรสชาติของแอลกอฮอล์ที่หอมหวาน ก็มีหญิงสาวผมสีดำสนิทยาวสยายเต็มแผ่นหลัง เธอสวมใส่ชุดเดรสสีดำแหวกข้างสั้นจุ๊ดจู๋ โชว์เนินอกอวบนิดหน่อยเดินผ่านมา ก่อนที่จะ...
เพล้ง!
สะดุดเข้ากับขาของใครบางคนจนเผลอทำแก้วค็อกเทลสีฟ้าหล่นแตกใกล้ๆกับเท้าของชายหนุ่ม เธอรีบก้มลงไปเก็บเศษแก้ว
"ข..ขอโทษค่ะพอดีไม่ทันระวัง!!"
"ทิ้งมันไว้อย่างนั้นแหละน้องเดี๋ยวแก้วก็บาดมือหรอก น้อง!มาทำความสะอาดตรงนี้หน่อย"ดินแดนพูดออกไปเตือนเธอ พร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อเรียกให้เด็กเสิร์ฟมาเก็บกวาดเศษแก้วที่แตกเรี่ยราดพวกนี้ให้เรียบร้อย เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะเผลอสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีดำที่แฝงประกายแวววับออกมามันทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัวความร้อนเริ่มแผ่ซ่านขึ้นมากองบนพวงแก้มทั้งสองข้างจนแดงก่ำเหมือนลูกตำลึงสุก
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
'ความรู้สึกประหลาดแบบนี้มันคืออะไรกัน นี่มันไอ้อนาคอนด้ายักษ์นี่หว่า’
หญิงสาวรีบลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก ก่อนที่จะรีบสาวเท้าหนักๆเดินหนีเขาไป ขืนเธอยังอยู่ตรงนี้เขาต้องขย้ำเธอให้แหลกคามือแน่นอน เพราะเมื่อช่วงสี่โมงเย็นที่ผ่านมาเธอนั้นดันจุ้นจ้านเข้าไปขัดจังหวะเขาที่กำลังมีความสุขกับสาวนักศึกษาคนนั้น แถมยังสาดคำพูดที่แสนหยาบคายออกไปอีกพวกเขาไม่รุมตีเธอคาห้องน้ำก็ดีเท่าไหร่แล้ว
"เชรด!! หน้าตาสะสวย หุ่นดีชิบเป๋งสเป็คเลยว่ะ คืนนี้กูขอคนนี้ได้ปะ!!"
"ไม่เว้ย ใครดีใครได้สิวะ กูจะไปเต๊าะน้องเขาตอนนี้เลย!!"
"พวกมึงลบไปเลย!! คืนนี้ยัยเด็กนี่ต้องเป็นเมียกู ยัยเด็กคนนี่นี่แหละที่พังประตูเข้าไปตอนที่น้องออยกำลังอ๊อกๆให้กู"
____________________________
น้องรินหนีไปลูกเสือร้ายมันกำลังจะตะคุ่บหนูแล้ว หนีไป!!!!????????
comment มาพูดคุยกันด้วยนะจ๊ะ
