สปาเก็ตตี้คำโต
"อีเพื่อนชั่ว แล้วนี่ฉันจะคู่กับใครล่ะ" ฉันด่ามันไล่หลังไป แต่มันก็ทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินที่ฉันพูด พอได้ผู้หน้าตาดีเข้าหน่อยก็ทำเป็นลืมเพื่อน เช๊อะ! เพื่อนกันมันเป็นแบบนี้หรอวะ ฉันแอบไปเปิดงานชั้นบนแป๊บเดียว กลับไปทำความรู้จักกับพี่ปีเตอร์ซะแล้ว ฉันก็ไม่ได้หึงไม่ได้ชอบหมอนั่นหรอกนะ แค่น้อยใจที่อีหอยมันเห็นผู้ดีกว่าเพื่อน
ฉันเดินไปที่โต๊ะบาร์พร้อมกับหยิบขวดไวน์กับแก้วออกมาเปิดขวดก่อนที่จะบรรจงรินมันช้าๆเพราะกลัวหก ถ้าไม่มีปาร์ตี้ในมหาวิทยาลัยก็อย่าหวังว่าจะได้กินไวน์ชั้นเลิศแสนแพงแบบนี้ฟรีๆ
นิ้วเรียวยาวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมากระดกเข้าปากอย่างไม่ประสบอารมณ์ มันค่อยๆไหลลงคอดื่มด่ำไปกับรสชาติที่หอมหวานขมปลายลิ้นนิดหน่อย มันให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาทันตา ของแพงแพงนี่มันดีแบบนี้สินะ
จากนั้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเซลฟี่ วันนี้ฉันแต่งตัวสวยมากเลยล่ะ สวมชุดเดรสรัดรูปสีแดงขับสีผิวอมชมพูออกมาให้มีออร่าโชว์อกอวบอิ่มนิดๆ แถมยังปล่อยผมสีดำสนิทตรงยาวสลวยแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก นานๆทีจะได้แต่งตัวแบบนี้ถ้ายายอยู่ฉันคงถูกเฆี่ยนหลังลาย ในขณะที่ฉันกำลังเซลฟี่ก็เห็นใครบางคนที่กำลังนั่งดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะติดกล้องมาด้วย และฉันก็รู้ในทันทีว่าคนคนนั้นก็คือพี่ดินแดนคนที่ขโมยจูบฉันเมื่อหลายวันก่อน และฉันก็ไม่คุยกับเขาอีกเลย
"ทำไมมาปาร์ตี้ชั้นล่างวะ ทำไมไม่ไปชั้นระดับลูกหลานเศรษฐีล่ะ" หลังจากที่ฉันพูดจบเพื่อนสนิทคนที่ชื่อเมฆก็ลุกออกไปจากเขา แล้วความคิดบางอย่างมันก็ผุดขึ้นมาในสมองฉัน ตอนนี้ฉันก็ไม่มีคู่และเขาก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน ซึ่งคนรวยๆอย่างเขาคงไม่เป็นบ้ามาเล่นเกมเพื่อชิงเงินรางวัลกับฉันหรอก แต่ถ้าฉันยอมหน้าด้านสักนิด แล้วไปขอร้องอ้อนวอนเขาให้คู่กับฉัน แล้วถ้าเกิดว่าชนะขึ้นมา เงินรางวัลทั้งหมดเขาก็คงไม่เอาหรอกมั้ง เพราะเขารวยอยู่แล้วนี่นา เพราะฉะนั้นเงินทั้งหมดก็ต้องตกเป็นของฉันเพียงคนเดียว แกนี่มันฉลาดจริงๆเลยดารินเอ๊ย! หุๆๆ
"ถ้าเราเดินเข้าไปขอจับคู่ด้วยจะดูน่าเกลียดไหมวะ"
"ไม่หรอกมั้ง เพื่อเงินแสนอีดารินทำได้ทุกอย่าง"
จากนั้นฉันก็ไม่รอช้ารีบสาวเท้าก้าวยาวๆพุ่งไปยังเป้าหมาย ซึ่งตอนนี้เขากำลังหยิบแก้วไวน์ขึ้นมากระดกแล้วแสยะยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนกับคนเป็นบ้า แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเขาจะยิ้มทำไม สนใจก็แต่เงินรางวัลนับหกหลักที่กองอยู่ตรงเส้นชัยเท่านั้นและมันก็จะเป็นของฉันในไม่ช้านี้ถ้าฉันทำให้เขายอมคู่กับฉันได้
"พี่.."
"..."เขามองหน้าฉันด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
"คือ..เอ่อ.."
กรี๊ด!! แย่แล้วฉันไม่กล้าไปขอร้องเขา เพราะสายตาที่เขามองฉันในตอนนี้นั้นเหมือนกับตัวประหลาดน่าขยะแขยงยังไงก็ไม่รู้ ดารินทำไมถึงป๊อดตอนนี้วะ!!
"...มีอะไร!" ไอ้คนบ้าทำไมต้องทำเสียงแข็งใส่ฉันด้วย เห็นว่าฉันจะทำตัวไม่มีมารยาท ภายนอกเกเรเป็นเด็กกะโปโล แต่ภายในฉันก็กลัวเหมือนกันนะเว้ยถ้าทำเสียงแข็งหน้าดุแบบนี้
"คือ...ค..คู่กับฉันได้ไหม พอดีว่าฉันไม่มีคู่เล่นเกมด้วยอ่ะ"
"หึ! ทำไมฉันต้องคู่กับเธอด้วย"
"ก็คนมันไม่มีคู่นี่หว่า จะให้ทำไงวะ!"
"พูดเพราะๆหน่อย"เขายืนขึ้นพร้อมกับท้าวสะเอวบังคับให้ฉันพูดเพราะๆ
"เพราะได้แค่นี้แหละ!"
"ถ้าทำไม่ได้ก็ไปคู่กับคนอื่นซะ!"
"เออๆก็ได้" เอาวะเพื่อนเงินรางวัลฉันทำได้ทุกอย่าง
"พี่ดินแดนคนหล่อขา~คู่กับหนูได้ไหมคะ~ หนูขอร้อง~" ฉันลงทุนจีบเสียงเล็กเสียงน้อยบิดตัวไปมาเหมือนงูเขียวยกมือสองข้างขึ้นมาค้ำคางพร้อมกับทำตาปิ๊งปิ๊งเหมือนเด็กน้อยปัญญาอ่อน
"ตอแxลมาก จริงใจกว่านี้หน่อย"
"เออ! อะไรนักหนาวะ"
"พี่แดนคู่กับฉันเถอะนะ ถือว่าฉันบังคับ!" ในเมื่อพูดหวานๆแล้วไม่ชอบ ฉันก็พูดเสียงห้วนๆแบบดารินสไตล์ไปเลยสิจ๊ะ ฉันพูดดีด้วยแถมยังด่าว่าแอ๊บอีก แต่ดูเหมือนว่าหน้าเขาจะนิ่งไปเลย นะ หน้าชาละสิพ่อหนุ่ม
"...แล้วฉันต้องทำยังไงต่อ"
"เฮ้ย! พี่จะคู่กับฉันจริงๆใช่ปะ"
"..."พยักหน้า
"อั๊ย! จริงปะ!"
"เออ!! ชัดยัง"
"โอ๊ย! จะตะคอกใส่หูฉันทำไมเนี่ย"
"ก็เธอหูหนวกไง"
"จึ๊!"
00:00 น.
ตืด~
เที่ยงคืนตรงเป๊ะเสียงสัญญาณดังขึ้นซึ่งฉันก็รู้ในทันทีว่าเสียงนี้มันหมายถึงอะไรเพราะฉันเป็นคนคิดมันขึ้นมาเองแหะๆ เสียงสัญญาณดังขึ้นเพราะว่าถึงเวลาที่คู่รักคู่เพื่อนสนิททุกคู่ต้องไปประจำที่ฐานแรกให้เร็วที่สุดซึ่งใครไปไม่ตรงเวลาอาจจะถูกตัดสิทธิ์ได้
หมับ!
ฉันคว้ามือคู่รักกำมะลอของตัวเองอย่างรวดเร็วพร้อมกับออกแรงกระชากลากเขาออกมาด้านนอก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังเบลอๆอยู่คงจะไม่ได้เตรียมตัวมาเล่นเกมชิงเงินรางวัลจริงๆ แต่ว่าเขาจะชิงทำไมล่ะก็เขารวยอยู่แล้วนี่นา!
"ไปเร็วพี่"
"ไปไหน"
"มาเถอะน่า"
*ฐานที่ 1 เดทแรก
ฉันลากแขนเขามาตลอดทางจนถึงอาคารลักขณา เป็นสถานที่ที่จะให้เป็นฐานแรก ฐานนี้ฉันก็ได้จัดขึ้นมาด้วยตัวเอง เกมก็คือให้คู่รักทานปลาเส้นมัดยาวประมาณห้าเมตรโดยทั้งสองจะกินคนละฝั่งแต่เส้นเดียวกัน กินไปได้เรื่อยๆไฮไลต์มันก็จะอยู่ช่วงท้ายเพราะใกล้หมดเมื่อไหร่ใบหน้าของทั้งสองก็จะใกล้กันมากเท่านั้น เหมือนพระเอกกับนางเอกในซีรีย์เกาหลีเลยอะ~
เอ๊ะ? แต่เดี๋ยวนะ! แต่คนที่เล่นมันต้องเป็นฉันกับเขานี่หว่า นี่ฉันคิดเกมขึ้นมาแกล้งตัวเองหรอเนี่ย
"สวัสดีครับทุกคนขอต้อนรับเข้าสู่ร้านอาหารสำหรับคนรักที่ชอบมาออกเดทนะครับ และตอนนี้ขอให้คู่รักที่มากกว่าห้าสิบคู่ ที่อยู่ ณ ที่นี้นั่งลงที่โต๊ะอาหารที่เราจัดเตรียมไว้ให้ภายในหนึ่งนาที ซึ่งจะมีแค่สามสิบคู่ที่เท่าที่ได้นั่ง ใครไม่ทันถือว่าตกรอบ"
one
.
two
.
three
.
ปี๊ด!!!
พรึ่บ!
เขากระชากแขนฉันให้นั่งลงที่โต๊ะที่ใกล้ที่สุด โต๊ะแต่ละตัวจะมีเก้าอี้เพียงสองที่เท่านั้น ก็แหงละงั้นจะบอกว่าเล่นเป็นคู่หรอ
"ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ไม่มีที่นั่งด้วยนะครับ ขอเชิญคนที่ตกรอบกลับไปปาร์ตี้เหมือนเดิม เพราะวันนี้ไม่ใช่วันของพวกคุณครับ"
"โธ่! กลับเว้ยพวกเรา!"จากนั้นคนที่ไม่มีที่นั่งนับยี่สิบคู่ก็เดินคอตกออกไปจากที่นี่อย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ฉันหันหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและเป็นคู่รักกำมะลอของฉันในคืนนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อสักครู่นี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก
"ฮิๆ พี่นี่ไวจริงๆเลยนะ หาที่นั่งได้ทันด้วยเก่งจริงๆ"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
"ทุกคนคงเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้าแล้วใช่ไหมครับ"
"ไหนอ่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย /มั่วละ/นั่นน่ะสิ" เมื่อมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นว่าไม่มีอาหารที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเลยแม้แต่จานเดียว ฉันจึงรีบเพ่งมองมาที่โต๊ะของตัวเองแล้วกลับพบว่ามีสปาเก็ตตี้จานยักษ์วางอยู่พร้อมกับน้ำสีแดงหนึ่งแก้วและมีหลอดปักไว้ เราสองคนมองหน้ากันทันที อึ้งไปชั่วขณะงงว่าทำไมที่โต๊ะคนอื่นถึงไม่มีอาหารอะไรเลย แต่โต๊ะของเรากับมีเจ้าสปาเก็ตตี้จานยักษ์วางอยู่ นี่มันอะไรกัน!!
"เงียบก่อนครับอย่าเพิ่งแตกตื่น เพราะโต๊ะที่มีอาหารนั้น มีเพียงแค่สองโต๊ะเท่านั้น ซึ่งสองคู่ที่ได้ก็คือหัวหน้าทีมและต้องทานสปาเก็ตตี้น้ำหนักหนึ่งกิโลกรัมให้หมด และคู่ของตัวเองต้องเป็นคนป้อนเท่านั้นนะครับ ห้ามตักทานเองเด็ดขาด"
ฮะ! อะไรนะ? นี่ฉันฟังผิดไปหรือเปล่าเกมที่ฉันคิดไว้สามวันก่อนและฉันก็ลงมาจัดสถานที่เตรียมของทุกอย่างไว้เองกับมือ แต่ทำไมพอมาถึงวันนี้ สิ่งที่ฉันคิดมันถึงเปลี่ยนไปจากเดิมเหมือนกับว่ามีคนคิดแผนนี้มาแล้ว เพราะความคิดที่จะให้กินสปาเก็ตตี้น้ำหนักหนึ่งกิโลนี่ ไม่ใช่ความคิดของฉันอย่างแน่นอน ใครจะไปทรมานกระเพาะตัวเองขนาดนั้นวะ เพราะฉันยังต้องการที่จะโกงผู้แข่งขันคนอื่นและคิดแผนทุกอย่างทั้งหมดแล้วทำไมมันถึงเปลี่ยนไปได้ แม่งงแล้วลูก!!
"ทีนี้ทุกคู่ก็ลุกขึ้นมายืนด้านหลังเพื่อเลือกหัวหน้าทีมของตนเองได้เลยครับ"อยู่ๆฉันก็ได้เป็นหัวหน้าทีมไปโดยปริยายและมีอีกหนึ่งคู่ เป็นคู่ที่จ้ำม่ำมีน้ำมีนวลทั้งแฟนหนุ่มและแฟนสาวแถมยังหันมายิ้มเหยียดฉันอีก
ซึ่งแน่นอนดูจากขนาดตัวของฝั่งโน้นกับฝั่งฉันแล้ว คนเขาก็ต้องรีบวิ่งไปอยู่ทีมนั้นอย่างแน่นอน ใครจะมาอยู่ทีมผอมแห้งอย่างพวกฉันสองคนล่ะ แต่เกินคาดมันก็ยังมีคู่รักประมาณสิบคู่คู่วิ่งมาทางฝั่งเราอยู่ ไม่รู้ว่าเชื่อใจในการกินหรือว่าเห็นหน้าหล่อๆของคู่รักกำมะลอของฉันกันแน่ จึงรีบวิ่งมา หึ!
"พี่นี่มันเฮงซวยจริงๆเลย!!"
"ฉันจะไปรู้ไหมล่ะ ฉันไม่ได้เป็นคนคิดเกมนิ"
"พร้อมแล้วใช่ไหมครับ 1 2 3 เริ่ม!!"
"ฉันจะป้อนเธอละกันนะ"
"เฮ้ย! ได้ไงวะพี่ต้องกินสิ...อ้ำ"ในขณะที่ฉันกำลังจะเอ่ยขึ้นมา เขาก็ตักสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าคำโตยัดเข้าปากฉันทันที ทั้งๆที่ฉันนั้นยังไม่ทันตั้งตัวเลย
"เร็วๆๆๆ"กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายก็เร่งเชียร์สนั่นหวั่นไหวทั่วอาคารโดยไม่สนใจเลยว่าคนที่กินมันกำลังจะตายอยู่แล้ว คู่รักกำมะลอของฉันก็ตักยัดอย่างเดียว ยัดเข้าทั้งๆที่ฉันยังเคี้ยวไม่หมดเลย อย่าให้ถึงตาฉันบ้างนะไอ้คนบ้า!
"เปลี่ยนให้สุภาพสตรีป้อนบ้างสิครับ คุณแฟนสุดหล่อ" และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างฉัน ฉันรีบแย่งส้อมจากมือเขาทันทีพร้อมกับตะโกยสปาเก็ตตี้คำโตขึ้นมา ซึ่งคนที่กินปกติจะได้ประมาณสามคำ แต่ฉันรวมให้เป็นคำเดียวกันเลย ฉันใจดีใช่ไหมล่ะ
"นี่ มันไม่ใหญ่ไปหน่อยหรอ"
"ไม่หรอก พี่อยากแพ้หรือไง ถ้าแพ้ก็นับก่อนว่าลูกทีมมีกี่ตีน!!"
พี่ดินแดนมองซ้ายมองขวาเมื่อได้ฟังคำขู่จากฉัน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะอ้าปากเยี่ยงคนไม่มีทางสู้ ฉันก็รีบยัดมันเข้าไปทันที เขาเคี้ยวตุ้ยตุ้ยจนแก้มทั้งสองข้างป่องเหมือนกับเด็กน้อย ซึ่งหน้าตาเขาตอนนี้มันช่างตลกเหลือเกิน
"น่ารั๊กมากพี่ขา~"ฉันถือวิสาสะเอื้อมมือไปบีบแก้มเขาเบาๆด้วยความมันเขี้ยว ใบหน้าหล่อคมแปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดไม่พอใจ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจพลางยัดสปาเก็ตตี้คำโตเข้าไปอีกเป็น คำที่ 2 คำที่ 3 คำที่ 4 และคำที่ 5 จนหมดจาน
"เย้! หมดแล้วๆ!"
"สรุปก็คือทีมสาวสวยหนุ่มหล่อคู่นี้ชนะครับ!!"
"เฮ้!!!"
"เดี๋ยวผมนับก่อนว่าเข้ารอบกี่คู่ 1 2 3...9 10 11คู่ครับ อีก19คู่ที่เหลือเสียใจด้วยครับ"
"โด่วว!!!"
"ทีมที่ชนะไปที่ฐานต่อไปเลยครับ ไว้เจอกันโอกาสหน้า"
อุ๊บ! แหว๊ะ!!!!
สุดท้ายก็ไม่รอดเมื่อออกมาจากอาคารลักขณาคู่รักกำมะลอของฉันก็อ้วกแตกอ้วกแตนออกมาในทันที ฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆพร้อมกับหัวเราะคิกคักชอบใจ
"ไหวไหมพี่ อิๆๆ"
"ยังมีหน้ามาหัวเราะฉันอีก ยัดเข้ามาขนาดนี้อยากให้ติดคอฉันตายหรือไงวะ!!"
"ขอโทษ ฮ่าๆๆ"
แหว๊ะ!!!
(ชี้แจง=ปีเตอร์อายุเยอะกว่าดาริน แต่เรียนปีสี่เหมือนพระเอกนะจ๊ะ เผื่อมีคนงง????)
_______________________________
ทุกคนอยากอ่าน NC เรื่องนี้ไหมอ่ะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มเขียนยังไง ฮ่าๆ????
