บท
ตั้งค่า

เธอจะข่มขืนฉันหรอ

"ฮึก!.." เสียงสะอึกสะอื้นน้อยๆของใครบางคนที่ออกมายืนร้องไห้คนเดียวอยู่บนดาดฟ้าที่สูงที่สุดของโรงแรม สายน้ำตาไหลพร่าลงมาเป็นสายดุจแม่น้ำไหลหลาก ดวงตากลมโตมองกว้างออกไปทั่วสารทิศหลอดไฟนับล้านดวงในกรุงเทพมหานครสว่างไสวเมื่อกระทบกับแสงสว่างจากดวงจันทร์เต็มดวงแล้วยิ่งทำให้บรรยากาศในตอนกลางคืนนั้นไม่มืดมิดเลยสักนิด

"ฟู่ว~ จะร้องทำไมเนี่ยเดี๋ยวเครื่องสำอางก็ลอกอีก" มาเบลถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะกำลังพยายามสงบสติอารมณ์โกรธของตนเองลงพร้อมกับพูดเบี่ยงประเด็นออกไปทางอื่นพลางยกมือบางขึ้นมาปาดน้ำตาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าเครื่องสำอางที่เธอประโลมมาจะหลุดรุ่ยออก หญิงสาวนั้นเกลียดความอ่อนแอของตัวเองเป็นที่สุด เธอเกลียดการร้องไห้ เกลียดการเสียใจ เพราะฉะนั้นจะอ่อนแอแบบนี้บ่อยๆไม่ได้

"ตึกนี่ก็สูงชะมัดแฮะ ถ้าโดดลงไปคงหวาดเสียวน่าดู" เธอเอ่ยพร้อมกับก้มลงไปมองที่พื้นด้านล่างจากชั้นที่ห้าสิบสองอย่างน่าหวาดเสียว สายลมจากด้านบนพัดผ่านตีเข้ามาที่หน้าทำให้ผมสีดำสลวยปลิวพริ้วไหวไปตามแรงลมขาเรียวเล็กเริ่มสั่นริกๆหัวใจสั่นระรัวราวกับว่าจะขาดใจตรงนี้เสียให้ได้

"ใช่ ถ้าโดนลงไปนะไม่ใช่แค่หวาดเสียวเท่านั้นแต่สภาพศพยังเละเป็นโจ๊กหมดลุคคุณหนูอีก เลือดก็เต็มพื้นฟอร์มาลีนก็เอาไม่อยู่ร่างสวยๆก็เน่าเฟะมีหนอนชอนไช อี๊น่าเกลียด!" มาเบลรีบหันหน้าไปยังต้นเสียงทันทีเมื่อเจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นสอดใส่อารมณ์ความรังเกลียดมากับน้ำเสียงแถมยังพูดประชดประชันขึ้นมาจนเธอมีน้ำโหอีก

"ไอ้คนบ้าคุณพูดแบบนี้ได้ยังไง!"

"ก็ฉันพูดจริงนี่นา ไม่เชื่อเธอก็ลองโดดดูสิ" ไวน์ท้าเธอให้โดดลงไปยังชั้นล่างแต่มันก็เป็นเพียงการประชดเพียงเท่านั้นแต่ตอนนี้คนตัวเล็กกลับมีใบหน้าที่ซีดเซียวไร้เลือดฝาด

"จะบ้าหรอ เชิญคุณโดดคนเดียวเถอะ"

"อ้าว เห็นวิ่งร้องห่มร้องไห้ออกมาก็นึกว่าจะใจกล้าโดดตึกตายเสียอีก"

"จะตายได้ไงชาตินี้ฉันยังไม่ได้ผัวเลยนะ!" เธอพลั้งปากพูดออกไปอย่าหน้าไม่อายแต่พอมีสติเท่านั้นแหละมาเบลแทบจะมุดแผ่นดินตายไปกับสิ่งที่หลุดออกมา

"หึ คิดได้แบบนั้นก็ดีทีนี้ก็เดินมาหาฉันได้แล้ว"

"แล้วทำไมฉันต้องเดินไปหาคุณด้วยมิทราบ"

"ก็ตรงนั้นมันอันตรายถ้าเธอตกลงไปจะทำยังไง"

"ก็ตายไงถามโง่ๆ!"

"เธอก็คงจะโง่จริงๆขนาดรู้แล้วว่าตาย ยังไม่รีบเดินมาอีก!"

เธอชะงักไปขณะเมื่อถูกตอกกลับด้วยถ้อยคำแบบนี้ สิ่งที่เขาพูดมันก็คือความจริงมาเบลจึงไม่กล้าแม้แต่จะปริปากออกไปเพราะเถียงยังไงก็ไม่สู้ สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางเลือกจึงค่อยๆก้าวขาเดินออกมาจากริมแล้วเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของไวน์ดังคำสั่งของเขา

"ผ้าเช็ดหน้า" ชายหนุ่มยื่นหน้าเช็ดหน้าผืนสีฟ้าอ่อนให้กับมาเบลด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งดวงตาคมเข้มแลมองเธอเหมือนจะไร้อารมณ์ แต่กลับมีความห่วงใยแฝงไว้ในนัยต์ตาคู่นั้นอย่างบอกไปถูก

"ขอบใจ!" มือบางเอื้อมไปหวังจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าจากมือเขาแต่ไวน์กับชักกลับไป ก่อนที่จะสอดสายตาดุดันใส่เธอ

"เธอต้องบอกว่าขอบคุณต่างหาก ฉันแก่กว่าเธอเป็นสิบปีนะ" ถึงคนตรงหน้าจะทำตัววางอำนาจได้น่ากลัวแค่ไหนแต่ดูเหมือนว่ามาเบลนั้นจะไม่ได้รู้สึกกลัวคนที่วางอำนาจเลยแม้แต่น้อย เธอรีบใช้ความไวเอื้อมมือไปแย่งผ้าเช็ดหน้าที่เขาถืออยู่ทันทีโดยที่เขานั้นไม่ทันระวัง จากนั้นก็ทำการสั่งของเหลวที่อยู่ในโพรงจมูกออกมาเต็มผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นโดยไม่คำนึงถึงเลยว่าเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้จะโกรธหรือเปล่า

"พรืด!!"

ชายหนุ่มทึ่งไปกับความน่าไม่อายของเธอที่กล้าสั่งน้ำมูกต่อหน้าเขา จนจู่ๆเขาก็เกิดสงสัยขึ้นมาในใจว่าตกลงเธอเป็นคุณหนูที่นิสัยไม่ดีใจเด็ดใจกล้ากวนประสาท หรือว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆที่แสนจะขี้แยกันแน่

'นี่ฉันชักจะเดาตัวตนเธอไม่ออกแล้วนะ'

"เสียใจมากหรอที่โดนพ่อว่าแบบนั้น" เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนที่ได้รับฟังนั้นอึ้งไปในทันทีเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาสองชั่วโมงชายหนุ่มเพิ่งพูดดีกับเธอเป็นครั้งแรก ความเงียบงันเข้ามาครอบงำจนเกิดความเสียใจถาโถมเข้ามาเช่นกัน มาเบลร้องไห้ออกมาอีกครั้งแต่ก็ยังพยายามกลั้นมันไว้สุดขีดแต่ก็ไม่เป็นผล

"ฮึก..เรื่องของฉัน!"

"ฉันพูดดีๆกับเธอนะมาเบล"

"ยุ่ง!"

"ฉันเข้าใจในสิ่งที่เธอโดนนะฉันก็ถูกผู้คนว่าเหมือนกับเธอนั่นแหละ รุนแรงกว่าเธอหลายเท่าด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เราสองคนไม่เหมือนกันก็คือฉันไม่เคยเก็บเอาเรื่องไร้สาระพวกนี้มาใส่ใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว"

"ก็คุณอายุเยอะแล้วนี่ คุณก็ต้องเข้มแข็งกว่าฉันอยู่แล้วไม่เห็นแปลก"

"มันไม่เกี่ยวกันหรอกนะสาวน้อยมาเบล เธอก็เข้มแข็งเหมือนกันแค่ยังไม่มากพอ"

"ไม่ต้องมาพูดดีกับฉันหรอกนะ กลับเข้าไปในงานซะ" มาเบลออกปากไล่เขาให้กลับไป เมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ตอนนี้เธออ่อนแอเกินกว่าจะมายืนร้องไห้ให้คนตรงหน้าเห็น และอีกอย่างถ้าเขากลับเข้าไปเธอก็จะหาทางกลับบ้านคนเดียวเงียบๆเพราะเธอคงเข้างานไปแล้วทนมองหน้าทุกคนไม่ได้แล้ว

"หึ ถ้าฉันกลับเข้าไปเธอก็จะทำตัวเป็นเด็กขี้ขลาดแอบหนีกลับบ้านไปงั้นสิ"

"ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดีนี่มันเรื่องของฉัน!"

"กลับเข้าไปพร้อมกับฉัน"

"ไม่!"

หมับ!

ไวน์คว้าข้อมือเล็กๆพร้อมกับออกแรงกระชากเพียงเล็กน้อยแต่มาเบลที่สวมรองเท้าส้นสูงนั้นกลับทรงตัวไม่อยู่จึงทำให้เธอสะดุดล้มก่อนที่จะ....

พรึ่บ!

ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก

ลงไปทับร่างแกร่งกองอยู่ที่พื้น ริมฝีปากบางแตะริมฝีปากหนาเล็กน้อยดวงตาคู่สวยทั้งสองคู่มองประสานกันราวกับแม่เหล็กที่ถูกดึงดูดเข้าหากัน หัวใจทั้งสองดวงเต้นตามจังหวะแต่เป็นจังหวะที่เร็วและรัวขึ้นราวกับกลองจึงทำให้ทั้งสองนั้นได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน พวงแก้มนวลทั้งสองข้างแดงก่ำหน้าร้อนผ่าวขึ้นอย่างผิดปกติส่วนคนที่ถูกทับนั้นใบหน้าก็แดงเหมือนกับลูกตำลึงสุก

"เธอ..จะข่มขืนฉันหรอ"

"จ..จะบ้าหรือไงก็คุณนั่นแหละที่ดึงฉันล้มลงไปทับร่างอะ"

"แต่เธอเป็นคนทำขาอ่อนเองนะ"

"ฉันเปล่า"

"หึ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว" จากนั้นมาเบลก็รีบละออกจากร่างสูงก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพลางจัดเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองเพื่อแก้เขินโดยที่ไม่ยอมมองหน้าเขาเลย

หมับ!

"เข้าไปข้างในได้แล้วสาวน้อย"

"ป..ปล่อยนะ!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel