อิจฉา
21:45 น.
"ทำไมพี่ไวน์กับมาเบลไม่มาสักที นี่ประมูลสร้อยเพชรชิ้นสุดท้ายแล้วนะ" รดานั่งชะเง้อหน้ามองซ้ายมองขวาหาเพื่อนสาวและพี่ชาย กระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อยเพราะจู่ๆทั้งสองก็หายไปพร้อมกัน และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายนั้นต้องออกไปตามหามาเบลแน่ๆเพราะนิสัยปกติของเขานั้นก็เป็นคนห่วงความรู้สึกคนอื่นอยู่แล้วเธอรู้ดี
"มาเบล!" รดาร้องเสียงดังออกมาเมื่อเห็นมาเบลนั้นกำลังเดินออกมาจากประตูด้านหลังของงานจากนั้นรดาก็รีบยกมือขึ้นมาโบกไหวๆเพื่อให้เพื่อนสาวเห็นเธอที่นั่งอยู่ตรงนี้ พอมาเบลเห็นดังนั้นก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาเธอที่โต๊ะทันทีก่อนที่จะค่อยๆหย่อนสะโพกลงเก้าอี้พร้อมกับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอก
"แกหายไปไหนมาฉันตามหาทั่วงานเลย"
"ฉันหายไปหาอะไรกินน่ะพอดีว่าหิว"
"แล้วพี่ไวน์ล่ะ?"
"ไม่รู้สิเขาไม่ได้อยู่กับแกหรอ" หญิงสาวตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อรดาถามถึงไวน์ทั้งๆที่ทั้งสองนั้นเพิ่งแยกกันเมื่อครู่นี้แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโกหกได้ไม่เนียนเพราะดวงตากลมโตส่อแววพิรุธออกมาให้เพื่อนสนิทอย่างรดาจับได้
"ไม่นะ..พี่ไวน์เขาบอกจะไปเข้าห้องน้ำ อ้าวมาพอดีเลย"
"พี่หายไปไหนมาเนี่ยรอตั้งนาน"
"พอดีพี่ไม่เจอเด็กที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่น่ะก็เลยเข้าไปข่มขวัญสักหน่อย"
"น่าจะหลงกับพ่อแม่!"เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่งแฝงความประชดลงไปดวงตาคมกริบแลมองสาวน้อยที่นั่งปั้นหน้านิ่งเฉยเหมือนกับว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมานั้นเธอไม่ได้ร้องไห้และคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่นั้นไม่ใช่เธอด้วย ด้วยความที่เธอเป็นคนหยิ่งยะโส อวดเก่งอวดดี ไม่เคยยอมใครและเมื่อมีกองไฟมรสุมตรงหน้าเธอก็พร้อมที่จะก้าวเข้ากองไฟเป็นคนแรกถ้าต้องแลกด้วยศักดิ์ศรี
"หรอ?" มาเบลพูดออกมาสั้นๆแถมยังเบิกตากว้างเหมือนตกใจในสิ่งที่เขาพูด ต้องบอกเลยว่าการแสดงของเธอนั้นดีเยี่ยมมากถ้าคนที่ไม่สามารถเดาใจเธอออกเนี่ยไม่มีวันรู้เลยว่าเธอแสดงอยู่ และแน่นอนคนที่อยู่กับเธอทั้งวี่ทั้งวันมาตลอดสี่ปีแบบรดาก็ต้องรู้ในทันทีว่ามาเบลนั้นคือคนที่ไวน์พูดถึงอยู่ และอีกอย่างทั้งสองก็หายไปด้วยกันเธอจึงรู้สึกโล่งใจไประดับหนึ่ง
"หึ"
"และต่อจากนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับเครื่องประดับที่หรูหราตระการตานั่นก็คือเครื่องเพชรที่มีชื่อว่าราชินีแห่งมหาสมุทรบลูไดมอนด์!!"
เมื่อสิ้นเสียงของพิธีกรพูดจบทุกชีวิตก็เพ่งไปยังจุดเดียวกันทั้งหมดรวมไปถึงทั้งสามคนด้วย พอเวลาผ่านไปประมาณครึ่งนาทีนางแบบที่สวมชุดฟินาเล่และได้รับเกียรติได้สวมใส่เครื่องเพชรบลูไดมอนด์เป็นคนแรกก็เดินออกมาบนแคทวอล์คเพื่อpresentเครื่องประดับที่ตัวเองได้รับมอบหมาย ทุกสายตาจ้องมองไปที่สร้อยเพชรแสนหรูหราด้วยแววตาแพรวพราวเพราะอยากจะได้มาไว้ครอบครองเองแต่ศึกครั้งนี้ก็ต้องเป็นคนใดคนหนึ่งที่มีเงินมากมายพอที่จะสมควรครอบครองมันเท่านั้น
"สวยมากเลย" มาเบลเอ่ยออกมาแผ่วเบาอย่างตราตรึงใจดวงตาเบิกกว้างมองสร้อยเพชรเส้นนั้นจนดวงตามันวาวยิ่งนางแบบเดินเข้ามาใกล้ๆยิ่งทำให้เธอมองสร้อยเส้นนั้นตาไม่กระพริบ มาเบลหลงไหลไปกับความงามของมันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"โคตรสวยเลยพี่ไวน์~" รดาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเหมือนกันเมื่อเห็นสร้อยเส้นนั้นราวกับว่าเป็นสร้อยที่มีมนต์วิเศษถ้าใครมองแล้วจำต้องอยากได้มาไว้ครอบครอง
"เครื่องเพชรของคุณหญิงลักขณาย่อมสวยงามและหรูหราอยู่แล้ว"
"แต่ชิ้นนี้มันสวยกว่าทุกชิ้นที่น้องเคยเห็นมาเลย" ไวน์พยายามมองดูสร้อยเพชรที่อยู่ในคอของนางแบบคนสวยเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันสวยงามอะไรขนาดนั้นสร้อยเพชรมันก็คือสร้อยเพชรที่แสนธรรมดาไม่ได้สวยงามอย่างที่สองสาวเอ่ยด้วยซ้ำ
"สร้อยเพชรอันเลอค่าชิ้นนี้นะครับเราเปิดประมูลที่ห้าล้านครับ เปิดประมูล!"
"หกล้าน!" เมื่อสิ้นเสียงของพิธีกรหนุ่มข้างเวทีก็มีเศรษฐีวัยกลางคนผู้หนึ่งยกมือขึ้นมาประมูลเป็นคนแรกทันทีโดยไม่มีรอด้วยซ้ำ
"หูย~"
"สวยนะพี่ไวน์ไม่ร่วมประมูลหน่อยหรอ"
"ดูก่อน"
"เจ็ดล้าน!"
"แปดล้าน!" เศรษฐีหนุ่มที่อยู่ในงานยกมือขึ้นประมูลสร้อยเพชรชิ้นนั้นด้วยราคาที่สูงลิ่วถึงแปดล้านจึงสร้างความฮือฮาให้กับผู้คนที่อยู่ ณ ที่นี้ได้เลย แต่คนที่ลุ้นและเหมือนใจจะขาดรอนๆก็คงจะไม่พ้นรดาสาวน้อยที่นั่งใจจดใจจ่อให้พี่ชายนั้นร่วมประมูลเหมือนคนอื่นๆบ้าง
"แปดล้าครั้งที่หนึ่ง แปดล้านครั้งที่สอง แปดล้านครั้งที่"
"สิบล้าน!" ชายวันกลางคนยกมือขึ้นประมูลสร้อยเพชรชิ้นนี้ด้วยราคาสิบล้านบาทแต่คงจะไม่ตกใจมากเท่าไหร่นักถ้าคนคนนั้นไม่ใช่บรรพตพ่อแท้ๆของมาเบล หญิงสาวเพ่งสายตาตรงดิ่งไปยังพ่อของตัวเองด้วยความตกใจเพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาพ่อของเธอก็ไม่เคยชอบของสวยๆงามๆแบบนี้เลยสักครั้ง
"โห้ เบลพ่อแกจะประมูลสร้อยเพชรไปให้ใครวะ"
"ก็คงจะเก็บไว้เป็นของขวัญเรียนจบนาบีล่ะมั้ง" หญิงสาวเอ่ยเรียบๆสีหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นไม่พอใจทันทีแต่ใครจะรู้ว่าคนที่แอบมองเธออยู่นั้นจู่ๆจะนึกอยากเอาชนะคนที่เป็นพ่อของเธอบ้าง เพราะเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาบรรพตนั้นได้ว่าเขาไว้อย่างเจ็บแสบก็ไม่แปลกที่ไวน์จะแอบโกรธเขาหน่อยๆ
"หึ"
"สิบล้านครั้งที่หนึ่ง สิบล้านคนที่สอง สิบล้านครั้งที่" ในขณะที่พิธีกรนับเลขไปตามสเต็ป ไวน์นั้นก็ได้ยืนขึ้นพร้อมกับยกมือข้างขวาชูขึ้นก่อนที่เขาจะทำเรื่องที่คนอื่นไม่คาดคิดนั่นก็คือ
"ยี่สิบล้าน!"
"โห้!!!!" เสียงผู้คนในห้องโถงใหญ่ดังลั่นขึ้นด้วยความตกใจโดยเฉพาะสองสาวที่ตากลมโตนั้นแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า แสงสปอตไลท์ทุกแสงมาส่องที่โต๊ะของเขาเป็นจุดเดียวจึงเผยให้คนในงานมองเห็นออร่าความหล่อและรวยของไวน์เต็มตานักข่าวทุกสำนักเก็บภาพทุกช๊อตเท่าที่จะทำได้
"ปิดประมูล! สร้อยเพชรราชินีแห่งมหาสมุทรบลูไดมอนด์ตกเป็นของคุณไวน์ครับ"
"หู้วว แปะๆๆ"
ชายหนุ่มค่อยๆหันหน้าไปทางบรรพตที่ตอนนี้กำลังทำตาขวางใส่เขาอย่างดุดันเพราะเขานั้นไม่พอใจไวน์เป็นอย่างมาก แต่คนเจ้าเล่ห์นั้นกลับยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและก็ไม่ลืมที่จะยักคิ้วขึ้นพร้อมกับทำหน้ายียวนกวนประประสาทแล้วทิ้งตัวนั่งลงดังเดิม
"สุดยอดเลยอะพี่ไวน์ ว่าแต่พี่จะเอาสร้อยเพชรไปทำอะไรคะ"
"เอาไปให้นาวิสค่ะ"
'นาวิส นี่มันชื่อผู้หญิงนี่นา'
มาเบลได้แต่แอบอิจฉาอยู่ในใจเมื่อได้ยินเรื่องที่สองพี่น้องคุยกันถึงเรื่องที่เขายอมเสียเงินยี่สิบล้านเพื่อประมูลเครื่องเพชรให้ผู้หญิงที่ชื่อนาวิสซึ่งมาเบลนั้นก็เข้าใจว่าเป็นแฟนของไวน์เพราะตอนที่เขาพูดถึงชื่อผู้หญิงคนนี้ดวงตาดุดันเปร่งประกายความสุขออกมาเด่นชัด ด้วยเหตุผลนี้หญิงสาวจึงแอบอิจฉาและอยากมีใครที่ให้ของขวัญล้ำค่าแบบนี้บ้าง แต่คงไม่มีวันนั้น...
"หูย อิจฉาเลยอะชักอยากจะเกิดมาเป็นแฟนพี่แล้วสิ"
"เป็นน้องก็ดีแล้วค่ะ"
อีกด้าน
"คุณไวน์นี่เขาคงรวยมากเลยนะคะคุณพ่อ" นาบีเอ่ยยิ้มๆพลางหันหน้าไปมองพ่อผู้บังเกิดเกล้าที่แสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่
"พ่อว่าผู้ชายคนนี้คงรวยได้ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็ถูกตำรวจลากเข้าคุก!"
"ทำไมคุณพ่อพูดแบบนั้นล่ะคะ"
"ก็ผู้ชายคนนั้นขายยาเสพติดน่ะสิเพราะฉะนั้นลูกอย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาดนะ"
"แต่มาเบล..."
"เบลไม่เคยเชื่อฟังพ่อเลยสักครั้งลูกก็รู้ว่าน้องเป็นคนยังไง ยิ่งเห็นว่ามันหล่อรวยนะอีกหน่อยต้องหลงเสน่ห์มันแน่นอนเลย"
"แล้วพ่อจะให้น้องโดนหลอกหรอคะ"
"ถ้ายังโง่อยู่แบบนี้พ่อก็คงช่วยอะไรไม่ได้!"
