นิสัยไม่ดี
ประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์หลังใหญ่เปิดออกหลังจากที่รถลีมูซีนคันหรูนั้นจอดอยู่นานมากนับครึ่งชั่วโมง หญิงสาวในชุดราตรีสีแดงก้าวขาออกมาจากตัวบ้านอย่างสง่างามจนคนที่นั่งอยู่ในรถนั้นตกตะลึงไปกับออร่าความงามดุจเจ้าหญิง
ไวน์มองเธอที่อยู่นอกรถดวงตาสีดำสนิทแวววาวราวกับคริสตัลเขาไม่สามารถละสายตาออกจากหญิงสาวที่เดินมุ่งหน้ามาที่รถได้ เนื่องจากตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเจอหญิงสาวคนไหนที่สามารถสะกดสายตาเขาได้เหมือนกับเธอเลย
คนขับรถเดินลงไปเปิดประตูให้กับแขกคนใหม่พร้อมกับผายมือเชิญให้เธอเข้าไปนั่งที่เบาะหลังสุด มาเบลก็ก้าวขาเข้าไปข้างในรถแล้วค่อยๆหย่อนสะโพกนั่งลง ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับดวงตาดุดันที่อยู่ภายใต้แว่นของไวน์เพราะตอนนี้ได้จ้องเธอและแสดงสีหน้าไม่พอใจเธอผ่านกระจกหน้ารถ มาเบลรับรู้ถึงรังสีนี้ได้เมื่อเธอรู้สึกดังนั้นก็รีบเอ่ยขอโทษออกไปทันทีเพราะเธอก็เกรงใจอยู่ไม่น้อย
"ขอโทษคะนะที่ให้รอนาน"
"ไม่เป็นหรอกครับ แต่ถ้านานกว่านี้ก็คงจะไปเปิดงานไม่ทันแน่ๆ"
"..." มาเบลชะงักไปกับคำพูดประชดประชันของไวน์ที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวราวกับหินผาจนหญิงสาวจำต้องแอบกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอเพราะหวั่นกลัวเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ด่าหรือว่าเขาแต่อย่างใดเพราะเธอเพิ่งเจอเขาเป็นครั้งแรกจึงไม่อยากเสียมารยาทและอีกอย่างเธอก็ทำให้พวกเขาต้องรอจริงๆ
เมื่อรดาเห็นบรรยากาศภายในรถนั้นเงียบสงัดไม่ค่อยสู้ดีนักเพราะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกร้อนๆหนาวๆออกมาจากดวงตาของทั้งสองฝ่ายเธอเลยตัดสินใจ ใจดีสู้เสือ เปลี่ยนเรื่องสนทนาเพื่อกลบเกลื่อนบรรยากาศ
"เอ่อ...นี่มาเบลนะพี่ไวน์"
"เบลนี่พี่ไวน์นะ ลูกพี่ลูกน้องเราเอง"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แล้วก็ต้องขอโทษอีกครั้งด้วยที่ลงมาช้าเพราะว่า...ฉันยังทาลิปสติกไม่เสร็จ" เมื่อคนใจร้ายได้ยินคำขอโทษที่แฝงความประชดประชันดังนั้นก็ทำการขึงตาใส่เธออีกครั้งก่อนที่จะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะหญิงสาวนั้นก็ขึงตาใส่เขาอย่างไม่เกรงกลัวเหมือนกัน
'เด็กนี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆ สวยแต่รูปจูบไม่หอมจริงๆสินะ'
บรืนนนนนนนนน
รถลีมูซีนคันหรูวิ่งไปบนท้องถนนด้วยความเร็วแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในรถมีแต่ความเงียบสงัดและดูเหมือนว่าจะไม่มีใครกล้าปริปากออกมาพูดคุยกันเลยจนคนกลางอย่างรดานั้นรู้สึกอึดอัดไม่ว่าจะมาเบลผู้เป็นเพื่อนสนิทนั้นก็นั่งนิ่งเงียบราวกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต ส่วนไวน์ผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายก็นั่งเลื่อนโทรศัพท์เพลินๆไป จนในที่สุดรดาก็ทนกับความเงียบนี้ไม่ไหวจนเปิดปากออกมาถามคนข้างๆว่า
"ทำไมวันนี้พี่ไวน์ถึงมาแทนพี่เวลล่ะ พี่เวลเขาไม่ว่างหรอ"
"เมียมันเพิ่งคลอดน่ะ มันก็เลยมาไม่ได้"
"อย่างนี้นี่เอง แล้วพี่ไวน์จะอยู่ที่ไทยอีกนานไหมคะ"
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ"
"อ่า งั้นวันหยุดยาวอาทิตย์หน้าไปเที่ยวกับดาไหม ดาไปกับเบลแค่สองคนยังไม่มีเพื่อนเลย เบลอนุญาตให้พี่ชายเราไปด้วยได้ไหม" เมื่อเพื่อนสาวอย่างรดาหันหน้ามาหาเธอก่อนที่จะออกปากขออนุญาตเหมือนกับว่ามาเบลนั้นเป็นผู้ปกครองของเธอซะงั้น ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงรีบหันหน้าไปหาเพื่อนชนิดที่ว่าคอแทบเคล็ดแต่รดาก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแป้นอย่างเป็นมิตรจึงส่งผลให้คนที่เกร็งไปทั้งตัวนั้นก็คือเธอ เพราะในขณะนี้ไวน์ก็ได้หันหน้ามามองเธอเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบด้วย
"ล..แล้วแต่สิไม่เห็นต้องขออนุญาตเลยนิ"
"พี่ว่าพี่ไม่ไปขัดเวลาสนุกของสาวๆดีกว่านะ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน"
"โอเค๊~"
@โรงแรมxxx
ผู้คนมากมายนับร้อยชีวิตเต็มไปด้วยคนที่มีชื่อเสียงและตระกูลที่มีเงินมากมายก่ายกอง แฟลชจากกล้องถ่ายภาพยังคงกระพริบรัวๆเนื่องจากกำลังเก็บภาพและสัมภาษณ์ดาราจวบจนถึงไฮโซระดับแถวหน้าของเมืองไทย แต่มาเบลนั้นก็ไม่ได้ถูกคนพวกนี้รุมแต่อย่างใดเพราะชื่อของเธอนั้นไม่ได้ถูกจัดอยู่ในรายชื่อของลูกมหาเศรษฐีเพราะเธอเป็นแค่ความผิดพลาดที่เกิดมาก็เท่านั้น
"เบลจ้องไว้หรือยังว่าจะประมูลสร้อยชิ้นไหน"
"แล้วชิ้นไหนดีสุดล่ะ"
"เขาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์นะแต่น่าจะเปิดประมูลราคาค่อนข้างสูงอยู่"
"ชิ้นไหนฉันก็ไม่ประมูลทั้งนั้นแหละ ฉันว่าเราไปหาที่นั่งดีกว่านะ" พอเธอกล่าวจบก็เดินจากทั้งสองไปมุ่งหน้าไปยังโต๊ะกลมด้านหน้าแล้วปล่อยให้สองพี่น้องมึนงงไปตามๆกัน
"ปกติเพื่อนน้องดาเป็นแบบนี้หรอคะ"
"ค่ะ เบลเขาก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ถึงภายนอกเบลเขาจะเป็นคนเหวี่ยงๆเอาแต่ใจ แต่ลึกๆแล้วเธอเป็นคนที่น่าสงสารมากเลยนะคะสำหรับดา"
"ก็คงจะจริง คนที่ปกติคงจะไม่ทำนิสัยไม่ดีแบบนี้หรอก"
"ถ้าพี่ไวน์รู้ว่ามาเบลเธอต้องเจออะไรมาบ้าง พี่ไวน์จะไม่กล้าพูดแบบนี้เลยค่ะ"
"พี่ขอไม่รู้เรื่องเขาดีกว่านะ!"
หมับ!
"มาเบลมานั่งกับพี่นี่มา" นาบีใช้มือบางคว้าข้อมือเล็กๆของน้องสาวอย่างรวดเร็วเมื่อเจอตัว จนร่างเล็กนั้นแทบจะปลิวไปกับแรงดึงอันมหาศาลของพี่สาวแต่นาบีนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรงกับเธอแต่อย่างใดเพียงแต่ว่าเธอคงดีใจเกินไปหน่อยที่เห็นน้องสาว
"ไม่!"
มาเบลสลัดมือของนาบีออกจากข้อมือของเธออย่างไม่ใยดีจนใบหน้าของพี่สาวต่างแม่นั้นเจื่อนไปและเกิดรู้สึกผิดขึ้นเมื่อทำให้น้องสาวโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า
รดาผู้ที่ยืนมองเพื่อนอยู่ห่างๆก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งพุ่งไปยังเพื่อนรักทันทีเมื่อเห็นเพื่อนร่วมห้องอีกคนอยู่ตรงนั้นเพราะถ้าขืนปล่อยให้มาเบลระเบิดอารมณ์ออกมามีหวังคืนนี้ได้ออกข่าวหน้าหนึ่งเป็นแน่ ส่วนชายหนุ่มก็รีบเดินตามน้องสาวไปแต่โดยดีถึงจะยังงงอยู่บ้าง
"ทำไมล่ะ พอดีคุณพ่ออยากคุยด้วยน่ะ"
"ดามาด้วยหรอ เชิญดาด้วยนะ"
"เอ่อคือ...วันนี้เรามากับพี่ชายอะพอจะมีที่ว่างให้พี่เราบ้างไหม" นาบีชายตาแลมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อนร่วมห้องอย่างรดาพร้อมกับยิ้มแย้มออกมาอย่างเป็นมิตรตามนิสัยของเธอ ส่วนไวน์ก็ฉีกยิ้มน้อยๆให้กับหญิงสาวตรงหน้าเพื่อเป็นมารยาทเช่นกันจนสาวน้อยอีกคนอย่างมาเบลที่เห็นดังนั้นยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่
'หึ ทีกับฉันล่ะทำหน้าไม่พอใจ แต่กับนาบียิ้มหน้าบานเชียวสองมาตรฐานชัดๆ!'
"มีสิเชิญ..เอ่อ.."
"ไวน์ครับ ผมชื่อไวน์"
"ฉันชื่อนาบีนะคะเป็นพี่สาวมาเบล บีเชิญคุณไวน์ด้วยละกันค่ะ"
"ขอบคุณมากครับ"
"ไปนั่งกับคุณพ่อของเบลสักสิบนาทีก่อนก็ได้แล้วค่อยแยกย้ายอย่างน้อยก็ไม่เสียมารยาทเกินไป" รดาโน้มหน้าเข้ามากระซิบเพื่อนสาวที่ข้างหูเบาๆเมื่อเธอเห็นมาเบลเริ่มประหม่าน้อยๆรดาจึงเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้ จนชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจถึงปฏิกิริยาของมาเบลที่แปลกไป ความดื้อรั้นนิสัยเสียของเธอเมื่อครู่นี้หายไปไหน เขาจึงอดที่จะมองนาบีและมาเบลสลับกันไปมาไม่ได้
'เด็กน้อยมาเบลคนนี้คงไม่ชอบพี่สาวตัวเองสินะ สงสัยจะเป็นเด็กขี้อิจฉา'
"แต่ว่า..."
"เอาน่า...ฉันจะคอยอยู่ข้างๆแกเอง"
"..." มาเบลพยักหน้าตอบรับรดาทันทีเมื่อเธอตกลงว่าจะช่วยเธอเมื่อถูกว่ากล่าวถึงเรื่องหน้าอายของเธอต่อหน้าผู้คนสาธารณะอีกเพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นบ่อยจนเธอรู้สึกอายจนไม่กล้าออกงานกับครอบครัว
