ตอนที่ 2 แก๊งเพื่อน[1]
เหลืออีกสองสัปดาห์กว่าจะถึงวันเปิดภาคเรียนใหม่ ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จึงถือเป็นสิ่งมีค่าสำหรับนักศึกษาทั้งหลาย รวมไปถึงภาคินและพรฟ้าด้วย
ช่วงที่ไปออสเตรเลียเธอก็ได้ตระเวนเที่ยวมาพอสมควร ยิ่งประเทศไทยเป็นลูกรักของพระอาทิตย์อันดับต้น ๆ ตอนนี้จึงอยากอยู่แต่ในห้องไม่อยากออกไปไหน
เข็มนาฬิกาบนหน้าปัดบอกให้ทราบว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงเศษ เลยครึ่งวันมาแล้วนี่เองกระเพาะอาหารถึงได้ปวดบิดมาครู่ใหญ่ เห็นภาคินกำลังสาละวนกับหน้าจอโน้ตบุ๊ก เธอจึงลุกไปเข้าครัวเตรียมทำอาหารเผื่ออีกฝ่าย
อันที่จริงเขาไม่ใช่รูมเมตของพรฟ้า แต่เพราะอีกฝ่ายเกิดมาบนกองเงินกองทอง พอทราบว่าแม่เธอซื้อคอนโดมิเนียมโครงการไหน เขาก็ให้พี่ชายซื้อห้องชุดโครงการนั้นให้ตัวเองด้วย
ถึงจะดูเหมือนคุณชายเอาแต่ใจ แต่ที่จริงแล้วภาคินก็มีปัญหาของตัวเองเช่นกัน ถึงได้ตัดสินใจอยู่ตามลำพังตั้งแต่ตอนอายุสิบหกเหมือนกับเธอ
“เวรแล้ว” หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ เพิ่งกลับมาถึงห้องเมื่อวานยังไม่มีเวลาไปซื้อเสบียงมาตุน สำรวจทั้งตู้เก็บของและตู้เย็นก็มีแค่สาหร่าย น้ำเปล่า ชีส แล้วก็นมหมดอายุอีกหนึ่งขวด
พรฟ้าเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าใบเล็กเตรียมออกไปซื้อของข้างนอก
“อ้าว จะไปไหน” ชายหนุ่มละความสนใจออกจากจอสี่เหลี่ยมทันทีที่ได้ยินเสียงแถวทางเดินหน้าประตู
“ว่าจะไปตลาดแป๊บนึง ของมันหมดไม่มีอะไรทำกินเลย” สำหรับมื้อนี้จะใช้แอปพลิเคชันสั่งของมารับประทานก็ได้ แต่เธอมีรายการของต้องซื้อหลายอย่าง สุดท้ายก็ต้องออกไปในวันใดวันหนึ่งอยู่ดี
“เหรอ ไปด้วย ๆ” ว่าจบก็ลุกพรวดตามออกมา
“เฮ้ย ไม่ต้อง เกรงใจ” ก่อนนี้เธอไม่อยู่ก็ได้อีกฝ่ายช่วยดูแลห้องให้ “ดูหุ้นอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ”
คนภายนอกอาจมองว่าภาคินมีดีที่รูปหล่อ บ้านรวย แท้จริงแล้วมีดีมากกว่านั้นเยอะ งานอดิเรกของเขาคือการวิเคราะห์หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แถมเจ้าตัวยังเป็นนักลงทุนด้วย เรียกได้ว่าเป็นผู้ชำนาญการเทรดหุ้นที่สุดในรุ่น
“ไม่เป็นไร พักก่อนได้ เมื่อกี้ทำอะไรเสร็จไปเกือบหมดละ” ตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศต้องคอยดูอีกทีช่วงค่ำ ๆ ตอนนี้จึงปลีกตัวไปทำอย่างอื่นได้
ทั้งสองคนเลยสรุปว่าจะไปซื้อของสดด้วยกันที่ตลาด แล้วค่อยแวะห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้อื่น ๆ
“อยากกินส้มตำไก่ย่างอะ แต่ขี้เกียจย่างไก่เอง” มั่นใจได้เลยว่าคนไทยทุกคนต้องเป็น ถึงจะห่างจากบ้านเกิดไปแค่ชั่วครู่ชั่วคราว แต่ร่างกายต้องร้องหารสชาติจัดจ้าน
“วุ่นวาย ซื้อร้านในตลาดเอาเถอะง่ายดี” เขาทราบว่าเธอทำอาหารเป็นหลายอย่าง แต่บางครั้งเอาความสะดวกสบายนำไว้ก่อนก็ไม่ผิดอะไร
“ก็ได้” พรฟ้าชี้ชวนชายหนุ่มไปยังร้านขายอาหารอีสานตรงหัวมุมตลาด ดีว่าเป็นช่วงบ่ายแล้วคนในร้านจึงซาลงจากช่วงพักกลางวัน
ใช้เวลาพักใหญ่ทั้งคู่ก็ได้ฤกษ์เดินออกจากร้าน สองมือพะรุงพะรังไปด้วยถุงของสดและอาหารที่เพิ่งซื้อมาหมาด ๆ ในนั้นมีทั้งส้มตำ น้ำตก ไก่ย่าง ซุบหน่อไม้ ลาบ คอหมูย่าง ตำข้าวโพด ตับหวาน พร้อมข้าวเหนียวและขนมจีน
“เมนส์จะมาหรือปอบสิงวะ ตะบี้ตะบันสั่งซะ” พ่อรูปหล่อหิ้วถุงเต็มสองมือ ถึงปากจะบ่นแต่ตอนอีกฝ่ายสั่งก็ไม่ห้ามปราม
“แหะๆ โทษที คนกำลังหิวอะ” พรฟ้ายิ้มแห้ง “อย่าบ่นน่า เดี๋ยวกินแค่บางอย่างก็ได้ ที่เหลือก็ยัดใส่ตู้เย็น”
“ไม่ต้องหรอก โทรชวนไอ้วินกับไอ้เทมส์มามั้ยล่ะ” ภาคินกล่าวถึงเพื่อนร่วมแก๊งที่มหาวิทยาลัยอีกสองคน ยิ่งคนหลังนี่ไม่เคยจะปฏิเสธ
“เออ ดี ๆ คิดถึงพวกมันเหมือนกัน ปิดเทอมไม่ได้เจอเลย” หญิงสาวเออออห่อหมกทันที ถือโอกาสนี้จัดปาร์ตี้ข้าวเหนียวก็ไม่เลวนัก
มีสำนวนหนึ่งที่คนชอบใช้กันนั่นก็คือพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา หนึ่งในคนที่พวกเขาเพิ่งพูดถึงโผล่มาราวกับภูตผี
“ตายยากแม่งฉิบหาย” ภาคินว่าพลางพเยิดหน้านำไปยังทิศทางหนึ่งตรงนั้นพบร่างคุ้นตากำลังยืนซื้อเครื่องดื่มอยู่
