บท
ตั้งค่า

บทที่7 คนที่ต้องตา

"เต้ กลับมาแล้วเหรอลูก"

เสียงทักของแม่ทำให้เตชินหันไปมอง คุณหญิงอังคนานั่งคอยเขาอยู่ในห้องรับแขกที่โซฟาตัวยาว

เขาเดินเลี้ยวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้เดี่ยวที่อยู่ด้านซ้ายของโซฟายาว

"ทานอะไรรึยังครับแม่"

" เรียบร้อยแล้วล่ะ วันนี้คุณวัลลภเขามาทานเป็นเพื่อนแม่ มาชวนคุยนู่นนี่ทำให้แม่หายเหงาได้หน่อย"

พอแม่พูดถึงอาวัลลภแล้วเตชินรู้สึกไม่สบายใจ พ่อหม้ายคนนึงที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อแม่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน กลับไปมาหาสู่แม่ของเขาประจำหลังจากพ่อของเขาเสียไป มันก็แปลกๆอยู่

"คนๆ นี้ แม่คุยกับเขาให้น้อยหน่อยก็ดีนะครับ"

"ทำไมล่ะ กลัวแม่จะชอบเขารึไง  แม่แก่แล้ว เรื่องรักๆใคร่ๆ ของหญิงชายแม่เลิกคิดไปนานแล้ว ก็แค่เป็นเพื่อนเก่ารู้จักกันมานาน ว่าแต่แกเถอะ วันๆยุ่งขนาดนี้เมื่อไหร่จะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนแม่สักคนล่ะ"

เตชินรู้ดีว่าแม่จะพูดเรื่องอะไร

"งานผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้หรอกนะครับ"

"แกจะ 30 แล้วนะ  ไม่รีบแต่งตอนนี้จะมีลูกทันใช้รึไง"

เตชินก้มหน้าไม่อยากสบตา ท่าทางเบื่อหน่ายแบบนี้ทำเอาคุณหญิงหงุดหงิดไปเหมือนกัน

"วันๆ เห็นแกเอาแต่ทำงาน มีภรรยาจะได้มาข่วยแบ่งเบาภาระ ไม่ดีเหรออย่างน้อยก็มีเพื่อนคู่คิด แม่ก็จะได้อุ้มหลานด้วย เอางี้ถ้าแกไม่รู้จะหาใครแม่หาให้ดีมั้ย อย่างหนูโรสยาไง"

พอพูดถึงชื่อนี้ เตชินก็รู้ได้ในทันทีว่าสาเหตุที่แม่เขามาพูดเรื่องแต่งงานตอนนี้ ไม่แคล้วจะต้องเป๊นคุณอาวัลลภเสนอแน่

" ผมยังไม่คิดเรื่องแต่งงานตอนนี้หรอกครับ ต่อให้แต่งก็คงไม่ใช่โรสยา ผมเหนื่อยแล้วขอตัวก่อนนะครับ "

เตชินรีบตัดบทสนทนาแล้วรีบลาขึ้นนอน พอหลับตาลงภาพใบหน้าไร้เดียงสาเวลาหลับของกานพลูก็แล่นเข้ามาในสมอง

ภาพนั้นทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา 

"นี่เราเป็นอะไรไปนะ แค่คิดถึงเด็กนั่นเราก็ยิ้มแล้วเหรอ"

อพาร์ทเม้นท์

เสียงเคาะประตูห้องพักแต่เช้าทำให้กานพลูต้องรีบเดินกะเผลกมาเปิดประตู

ป้าเจ้าของห้องเช่ายืนยิ้มอยู่หน้าประตูหมือนมีอะไรน่ายินดีมากจะมาบอก

"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะป้า"

"ออกมาดูเร็ว แฟนหนูใจป้ำมากส่งรถมาให้แน่ะ"

ได้ยินคำนี้ถึงกับขมวดคิ้ว กานพลูนึกว่าฟังผิด

"แฟนอะไรคะป้า รถอะไรหนูไม่เข้าใจ"

ป้าแกชี้ออกไปทางระเบียง กานพลูเดินไปที่ระเบียงห้องมองลงไปข้างล่าง

รถยนต์คันเล็กสีขาว เหมาะสำหรับผู้หญิงจอดอยู่โดยมีคนขับรถของผู้จัดการ  ซึ่งเคยขับมาส่งเธอกับเตชินเมื่อวันก่อนยืนคอยอยู่ข้างรถ

เขาส่งยิ้มให้กานพลู แลัวตะโกนเรียก

"คุณกานครับ คุณชายให้ผมเอารถมาส่งลงมาดูสักหน่อยมั้ยครับ ขาดอะไรผมจะได้กลับไปรายงานคุณชายได้"

กานพลูรู้สึกช็อคนิดๆ  บ้าไปแล้วไหนว่าเอารถมอเตอร์ไซด์ไปซ่อมไหงตอนกลับมากลายเป็นสี่ล้อไปหน้าตาเฉย

เธอลงไปหาคนขับรถแล้วส่งยิ้มแห้งๆ

"อ่า คิดว่าคงเข้าใจอะไรผิดแล้วค่ะ นี่คุณเต้ให้ส่งมาหรือคะเนี่ย"

"ครับ รับรองไม่ผิดแน่ครับ คุณชายฝากบอกมาว่าให้คุณใช้รถคันนี้ขับไปทำงาน ห้ามใช้มอเตอร์ไซด์ครับมันอันตรายแล้วก็ดูไม่ดีด้วย ถือว่าเป็นรถประจำตำแหน่งแล้วกันครับ"

"ประจำตำแหน่ง ? แต่ฉันอยู่ฝ่ายขายหมู่บ้านจัดสรรนะคะ"

กานพลูย้ำเตือนอีกที แต่คนขับรถส่ายหน้า  รถสีดำคันใหญ่อีกคันขับเข้ามาจอด เลขาเอกลงจากรถพร้อมเอกสารในมือ

เขาเอาจดหมายสัญญาจ้างงานมาส่งให้กานพลูอ่าน

"เอ๋?!  ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด แผนกออกแบบและจัดงานอีเว้นท์ของโรงแรม นี่มันอะไรคะเนี่ย"

"อ่านไม่ผิดครับ ถึงจะบอกว่าเป็นผู้ข่วยฝ่ายการตลาดแต่ต้องทำงานขึ้นตรงกับคุณเต้นะครับ ผมคงต้องขอตัวกลับแล้ว หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอย่างดีนะครับ"

เลขาเอกกับคนขับรถขึ้นรถกลับไปกันหมด เหลือก็แต่กานพลูที่ยืนงงไม่รู้จะเอายังไงกับรถคันนี้

"ตายล่ะ ใบขับขี่ฉันก็ไม่มี ขับเป็นซะที่ไหนเล่า

วันต่อมา....

"เดี๋ยวๆๆๆ ช้าหน่อย ช้าหน่อย เบรคเลย!"

ธันวานั่งเกร็งจนหน้าเบ้ เพราะกานพลูขับได้น่าหวาดเสียวไม่น้อย กานพลูหันมายิ้มแห้งๆให้เขา พร้อมกับยักไหล่เหมือนจะขอโทษ แต่ไม่ช่วยให้ดีขึ้น

"ขับอย่างงี้อย่าขับดีกว่าไหม ไม่รู้เจ้านายกานคิดอะไรอยู่ ถึงเอารถมาให้กานขับเนี่ย"

กานพลูมองหน้าธันวา ทำหน้ามุ่ย เพราะนอกจากจะไม่ให้กำลังใจยังจะมาทับถมอีก

"ทำไม เราขับแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ใช่แย่มากเลย ไม่ควรขับอย่างยิ่ง"

ธันวาพยักหน้ามั่นอกมั่นใจมาก กานพลูหรี่ตามองอย่างไม่พอใจหันไปหยิกแขนธันวาซะเต็มแรง

"โอ้ยๆๆๆ หยิกเราทำไมอะกาน"

"ก็ปากเหรอนั่น ไม่คงไม่ขับมันแล้ว เดี๋ยวจะเอากุญแจรถไปคืนเขา"

กานพลูบ่นน้อยอกน้อยใจ ธันวาหน้าสลดไปเลย

"แหม ก็เราเป็นห่วงนี่นา กานขับรถไม่แข็ง ใบขับขี่ก็ไม่มีแล้วจะขับไปทำงานยังไงล่ะ เอางี้มั้ยเราไปรับไปส่งให้เอามั้ย"

กานหันมองหน้าธันวาทำสายตาเหมือนไม่แน่ใจว่าจะไปรับส่งจริง

"จะไปส่งจริงเหรอ"

"จริงสิให้เราไปส่งนะ"

"เอางั้นก็ได้"

ธันวายิ้มแก้มปริ ดีอกดีใจที่กานพลูยอมให้เขาไปรับส่ง

3 วันต่อมา

"กานพลูมาทำงานรึยัง"

จู่ๆ เตชินก็พูดขึ้นมาโดยที่ตายังมองที่เอกสารในมืออยู่เลย ทำเอาเลขาเอกไปไม่เป็นเหมือนกัน

"เอ่อ ก็คุณเต้บอกให้เธอหยุดจนกว่าจะหายนี่ครับ นี่เพิ่งผ่านไป5 วันเอง  ถ้านับตามเวลาแล้วก็น่าจะมาวันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้แหละครับ"

เลขาเอกกล่าวรายงานเตชิน แม้จะทำเป็นไม่สนใจฟังเท่าไหร่ แต่พอได้ยินเสียงรถเลี้ยวเข้ามาที่หน้าโรงแรมทีไรก็หันไปมองเรื่อย

รถกะบะเก่าๆคันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าโรงแรม เตชินมองลงไปจากพนังกระจกห้องทำงาน

กานพลูลงจากรถสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบผู้หญิง กระโปรงเข้ารูปสีดำผ่าข้างสูงเหนือเข่าเล็กน้อย เธอโบกมือลาคนขับซึ่งอยู่ในมุมที่เตชินมองไม่เห็นหน้า

เพียงเท่านี้จู่ๆ เตชินก็หงุดหงิดอย่างไม่มีสาเหตุ 

"เอกเรียกกานพลูขึ้นมาหาฉันเดี๋ยวนี้"

"หา!? กานพลูมาแล้วเหรอครับ คุณเต้รู้ได้ยังไงครับเนี่ย"

คำถามของเอกภพทำเอาเตชินมองตาเคืองๆ  เอกภพรู้ตัวถ้าไม่รีบลุกไปจัดการมีหวังโดนเตะแหง

เลขาเอกพากานพลูมารายงานตัวที่ห้องเตชิน ก่อนจะเคาะประตูห้องเขาเอียงคอมากระซิบกานพลูเตือนให้รู้ตัวก่อน

"วันนี้ผู้จัดการท่าทางหงุดหงิดนะ จะพูดอะไรระวังหน่อยแล้วกัน คุณเต้แกจะดุๆหน่อย ค่อนข้างทำงานจริงจัง อดทนนิดขยันหน่อยรับรองรุ่งแน่นอน"

กานพลูพยักหน้ารับคำแนะนำจากเลขาเอก เขาเคาะประตูห้องพร้อมรายงาน

"คุณเต้ครับ กานพลูมาแล้วครับ"

"เข้ามา"

เสียงเตชินเรียกฟังดูน่าจะหงุดหงิดอยู่จริงๆ กานพลูกลืนน้ำลาย ทำใจให้เย็นก่อนจะเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับเลขาเอก

เตชินยืนพิงหน้าโต๊ะทำงานตัวเอง ในมือถือเอกสารกำลังอ่านอยู่

กานพลูเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขาห่างกันประมานไม่เกินสองเมตร

"มีงานอะไรให้ทำก็ออกไปทำไป"

เตชินพูดขึ้นมาโดยไม่ได้เงยหน้า เลขาเอกรู้ใจเจ้านาย รีบลี้ออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้กานพลูหันมองตามหลังตาละห้อย

เธอหันกลับมามองผู้จัดการหน้าโหดกำลังอ่านเอกสารทำเป็นไม่สนใจที่เธอยืนขาแข็งอยู่ตรงนั้น

"เอ่อ  คุณเต้อยากให้ฉันทำอะไรคะ  บอกฉันได้นะคะ"

กานพลูทำใจกล้าลองถามดู เตชินปิดเอกสารแล้ววางมันลงบนโต๊ะก่อนจะยืนกอดอกมองเธอ สีหน้าจริงจัง

"รถไปไหน ทำไมไม่ขับมา"

"หา!?"

เป็นคำถามที่ไม่คิดว่าเขาจะพูดเป็นอย่างแรก กานพลูรีบหยิบกุญแจรถเดินมาที่โต๊ะแล้ววางกุญแจลงบนโต๊ะทำงานเขา

"นี่หมายความว่ายังไง ทำไมถึงคืน หรือติว่ามันคันเล็กไป"

"ม..ไม่ใช่ค่ะ คือฉันไม่มีใบขับขี่รถยนต์ อีกอย่างฉันขับไม่เป็นน่ะค่ะ"

เป็นคำแก้ตัวที่เตชินคิดไม่ถึงจริงๆ เขารีบหันไปทางอื่นทำเป็นไอกระแอมเพราะไม่อยากให้รู้ว่าเขาแอบหัวเราะเธอ

จากนั้นก็หันกลับมาเก็กหน้าดุต่อ เขาส่งสายตามองชุดที่กานพลูใส่อย่างกับเด็กฝึกงานแล้วถอนหายใจแรงทีเดียว

"นี่ชุดอะไรเนี่ย ตำแหน่งงานคุณคือเป็นออแกไนเซอร์ของกลุ่มบริษัทตระกูลอัครนันท์นะ ชุดที่ดูดีกว่านี้ไม่มีเหรอ"

กานพลูยิ้มแห้ง มันก็จริงอย่างเขาพูด 

"คุณเต้ก็รู้ว่าฉันตกงานมานาน ค่าห้องยังไม่มีแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อเสื้อผ้าล่ะคะ คุณก็ปล่อยๆ ฉันไปก่อนไม่ได้เหรอ เอาไว้เงินเดือนออกแล้วฉันสัญญาจะปรับปรุงแน่นอนค่ะ"

กานพลูแก้ตัวพลางก้มหน้า เตชินยืนส่ายหน้าในความโบ๊ะบ๊ะของเธอเสียจริง

"ตามฉันมา"

เตชินพากานพลูมาที่ร้านบูติกในห้างสรรพสินค้า เขาเดินเข้าร้านนั้นร้านนี้ดูเสื้อผ้าแบรนด์แนมราคาแพงจนกานพลูไม่กล้าจับด้วยซ้ำ

"เอาชุดนี้ ชุดนั้น นั่นด้วย ให้เธอลองดู"

เตชินสั่งพนักงาน เขาเลือกชุดทำงานหรูดูดีให้เธอหลากหลายชุด กานพลูพลิกป้ายราคาแล้วส่ายหน้า

"ไม่ไหวมังคะคุณเต้ ชุดพวกนี้แพงมากฉันจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ"

"ใครบอกให้เธอจ่ายกัน ไปใส่ให้ฉันดูเดี๋ยวนี้เร็วเข้า นี่เป็นคำสั่ง"

เขาทำตาดุใส่อีกแล้ว กานพลูเข้าไปลองสวมมาให้เขาดูทีละชุด หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นานก็ได้ชุดถูกใจจากหลายร้านมาเกือบสิบชุด

"คุณเต้คะนี่มันไม่มากไปหน่อยเหรอ แพงๆทั้งนั้นเลย ให้ฉันทำงานใช้คืนฉันคงต้องทำจนแก่แน่เลย"

"ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันซื้อให้ แล้วก็ใส่มาด้วยล่ะ ไอ้ชุดที่ใส่อยู่เนี่ยเอาไปทิ้งเลย อย่าใส่มาให้เห็นอีกนะ แล้วนี่หิวรึยังล่ะ"

"หา!  เอ่อคุณเต้หิวแล้วเหรอคะ"

กานพลูพูดไม่ทันจบ เตชินก็เดินเลี้ยวเข้าร้านชาบูตรงทางเดินเเฉยเลย

เขาสั่งอาหารมาเยอะแยะ แล้วชวนเธอกิน

"กินเยอะหน่อย ผอมแห้งอย่างกับตะเกียบ อย่างงี้จะทำงานไหวเหรอ"

"เอิ่ม  คุณเต้พูดอย่างกับจะให้ฉันไปแบกไปหามอะไรหนักๆ เลยนะคะ"

เตชินคีบเนื้อกำลังลวกถึงกับชะงัก แม่คุณก็ไม่รับมุกเอาซะเลย

"ปากน่ะมีไว้ทำงานก็พอ เถียงให้มันน้อยๆหน่อยจะดีมากเอ้านี่"

เขาว่าประชดแต่ก็ยังคีบเนื้อลวกให้เธอ กานพลูแอบยิ้มที่เขาทำให้แบบนี้

"เอ้านั่นมันคุณเตชินนี่นา สวัสดีครับ วันนี้ไหงมีเวลาว่างมาได้ล่ะครับ แหมพาสาวที่ไหนมากินข้าวครับเนี่ย นี่ไม่ใช่คุณโรสยานี่นา"

นพดลลูกชายเจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรรคู่แข่งตระกูลอัครนันท์เอ่ยทัก 

สำหรับเตชินแล้วคนๆ นี้ไม่มีค่าในสายตาเขาเพราะว่านพดลไม่เป็นโล้เป็นพาย อาศัยสมบัติพ่ออวดรวยไปวันๆ ก็เท่านั้น

"ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากเท่ากับคุณหรอกคุณนพดล ส่วนจะมากับใครขึ้นอยู่กับความพอใจของผม ผมคงไม่ต้องเรียนให้ใครทราบกระมัง"

เจอเข้ากับความปากแซ่บของเตชินถึงกับพูดไม่ออก นพดลเดินหนีไปทั้งที่อารมณ์เสีย เขาแอบถ่ายรูปทั้งสองคนส่งไปให้โรสยาดู

ภาพที่ได้พร้อมคำพูดแทงใจของนพดลทำเอาโรสยานั่งไม่ติดลุกขึ้นมาโวยวายใส่หน้าพ่อ ที่กำลังนั่งตรวจราคาหุ้นในห้องทำงาน

"เป็นอะไรอีกล่ะ โรส ใครทำอะไรให้ไม่พอใจอีกดูทำท่าเข้า"

"ก็พี่เต้สิคะ หลายวันก่อนพาผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มานอนในห้องทำงาน วันนี้เขาพานังนั่นไปเที่ยวห้าง แถมพาไปเลี้ยงข้าวกันอีกด้วย"

วัลลภหันมองหน้าลูกสาวที่ทำหน้าบึ้งตึงอย่างกับกินของบูดมาอย่างงั้น

"ผู้หญิง เตชินเนี่ยนะ แน่ใจเหรอ"

"แน่ใจสิคะ นพดลส่งมาให้ดูเป็นหลักฐานอยู่เนี่ย"

โรสยาเอามือถือให้พ่อดู วัลลภมองแล้วยิ้มไม่มีท่าทีกังวลแต่อย่างใด

"ผู้หญิงบ้านๆ ยังไงเตชินก็เป็นผู้ชาย จะมีผู้หญิงบ้างก็ไม่แปลก ไม่จำเป็นต้องห่วงหรอก ก็แค่เห่อชั่วครั้งชั่วคราวเดี๋ยวก็เบื่อ"

"ขอให้มันจริงเถอะค่ะพ่อ กลัวจะไม่ใช่น่ะสิ ปกติเขาเคยสนผู้หญิงที่ไหนกันล่ะ"

โรสยารู้สึกกังวลใจไม่น้อย เพราะเธอจีบเขาตั้งนานเขากลับไม่มีทีท่าอะไรเลย ผิดกับกานพลู

"คอยดูเถอะ คิดมายุ่งกับพี่เต้ของฉันจบไม่สวยแน่"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel