บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ชะตาต้องกัน

โรงแรมโอเรียนน่า  เดอะแกรนด์โฮเทล ห้องผู้บริหาร

"ผู้จัดการครับนี่ครับเอกสาร"

"ขอบใจเอก อ้อแล้วลูกค้าวีไอพีเช็คอินรึยัง ผมสั่งคนให้ลงไปดูแลเป็นพิเศษคุณจัดการแล้วรึยัง"

"เรียบร้อยครับผู้จัดการ "

"เอกสารการประชุมบ่ายนี้ล่ะ จัดการอย่าให้ตกหล่นนะ  ส่วนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่จองห้องพักเอาไว้ล่วงหน้าทั้งชั้น วันมะรืนจะต้องส่งรถไปรับจากสนามบินห้ามเกิดข้อผิดพลาดเข้าใจรึเปล่า "

เลขาเอกหยิบแฟ้มออกมาเปิดให้ผู้จัดการหนุ่มอ่านทีละเล่มเพื่อลงชื่อ เขาทำงานกับเตชินมานานหลายปีรู้มือกันดีไม่เคยพลาด

"เอกวันนี้คุณต้องไปย้ำเตือนฝ่ายจองห้องพักอีกที ต้องล็อคจำนวนห้องเอาไว้ให้เรียบร้อย อย่าปล่อยห้องในชั้นนั้นไปเด็ดขาด ผมไม่อยากให้เกิดความเสียหายแบบครั้งก่อน"

"อ่าเรื่องนั้น..."

เตชินกำลังเปิดแฟ้มเอกสารตรวจทาน เป็นต้องหยุดชะงัก เพราะท่าทีกระอักกระอ่วนของเลขาเอก

"มีอะไรว่ามา"

สายตาพิฆาตทำเอาหนาว รู้ๆ กันอยู่ว่าเตชินค่อนข้างเข้มงวดเรื่องงานมากๆ หากเกิดข้อผิดพลาดมีหวังตายอย่างเขียดแน่

"คือว่า..."

แผนกฝ่ายขาย

"ตายแล้วคุณเต้มา ทำไงดีล่ะ มาได้ไงเนี่ย "

พนักงานฝ่ายขายกระสับกระส่าย นั่งไม่ติด หากไม่เกิดปัญหาจริงๆ เตชินไม่มีทางมาถึงแผนกด้วยตัวเองแน่

"สะ สวัสดีค่ะผู้จัดการใหญ่ วันนี้มีอะไรให้รับใช้คะ"

เตชินส่งสายตาดุใส่หัวหน้าแผนกที่ออกมารับหน้า ถึงจะหล่อเหลาปานเทพบุตร แต่แววตาดุอย่างกับเสือขนาดนี้ ก็ทำเอาคนมองหนาวๆ ร้อนๆ

"ใครเป็นคนเปิดห้องพักชั้น 5 ไม่มีคนบอกคุณเหรอ ชั้นนั้นทั้งชั้นถูกจองไว้ 1 สัปดาห์!"

เตชินตบโต๊ะเสียงดัง ทั้งแผนกพากันสะดุ้ง ต่างคนต่างมองหน้ากันเอง ไม่มีใครกล้าตอบ

"อ้อดีนี่สรุปว่าที่ไม่ตอบเนี่ยไม่กล้าหรือไม่รู้ หากไม่รู้เห็นทีคงต้องย้ายไปเป็นแม่บ้านแทนแล้วล่ะมั้ง"

"เอ่อ เป็น เป็นคุณโรสยาค่ะ เป็นแขกของคุณโรสยามา เธอเป็นคนเปิดห้องนั้นเพราะวิวสวยน่ะค่ะ"

"คุณไปแจ้งกับลูกค้าให้ย้ายห้อง บอกว่าเป็นความผิดพลาดของแผนกต้อนรับจองห้องผิดพลาด เอาบัตรกำนัลเลี้ยงอาหารค่ำที่ภัตตาคารของโรงแรม เป็นของสมนาคุณชดเชยให้ลูกค้า ผู้จัดการที่นี่คือผมไม่ใช่โรสยา ต่อไปถ้าใครกล้าขัดคำสั่งผมอีกผมจะไล่ออก"

เตชินกล่าวจบก็เดินออกไป เลขาเอกรีบวิ่งตาม ทั้งแผนกพากันโล่งอกนึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว

" เอกกาแฟฉันล่ะ"

"อ่าคุณหญิงบอกว่า ผู้จัดการช่วงนี้พักผ่อนน้อย ทำงานหนักเกรงจะมีผลต่อสุขภาพให้งดกาแฟครับ"

เตชินหยุดเท้าทันที เขาหันมามองหน้าเอกภพ

"นายไม่ได้ซื้อ"

"ครับไม่ได้ซื้อ..แหะ แหะ"

เอกภพพยายามยิ้มกลบเกลื่น เตชินชี้หน้าคาดโทษเลขาส่วนตัว เขาเดินออกไปจากโรงแรม ตรงไปค็อฟฟี่ช็อบร้านประจำที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่นัก

ร้านกาแฟร้านเล็กๆ นี้ เจ้าของร้านเคยเป็นบาริสต้าในร้านดังมา พอมีทุนเลยมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง รสมือที่เป็นที่ติดใจทำให้ลูกค้าแน่นร้านตลอด

โดยปกติเตชินจะให้เลขาสั่งล่วงหน้าแล้วมารับทีหลังเป็นประจำ  แต่วันนี้กลับต้องมาต่อแถวเองเพราะความยุ่งไม่เข้าเรื่องของเอกภพ

"ฮัลโหล ใช่ ผมอยู่ที่ร้าน จัดการเรียบร้อยมั้ย ดีบอกเขาย้ายวันนี้เลย เดี๋ยวถ้าโรสยาเข้ามาแล้วบอกให้เธอไปรอผมที่ออฟฟิศ อืม..ม Ok"

ระหว่างที่เตชินรับสายเลขา เขาสังเกตุเห็นบางอย่าง ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขากำลังทำอะไรบางอย่างที่ใต้กระโปรงสั้นของสาวน้อยที่อยู่ข้างหน้าถัดไป

"เอ๊ะ ไอ้หมอนี่มันพวกโรคจิตนี่"

เตชินยกกล้องมือถือขึ้นถ่ายคลิบชายโรคจิต ก่อนที่จะสะกิดไหล่ชายคนนั้นให้หันมา

เขาหันกลับมาสบตาเตชินพอดี เตชินยกยิ้มที่มุมปาก พลางชี้ให้ดูมือถือที่กำลังถ่ายพฤติกรรมเลวทรามของเขาเอาไว้

ชายโรคจิตเบิกตามองผู้จัดการหนุ่ม ด้วยท่าทีเลิ่กลั่กอยู่สัก 2-3 วินาทีแล้วตัดสอนใจใช้มือบีบก้นสาวน้อย

"กรี๊ด อะไรเนี่ย ใครจับก้นฉัน!"

สาวน้อยหันกลับมาทันที ชายโรคจิต รีบแยกออกจากแถว แล้วชี้ไปที่เตชิน

"ไอ้หมอนี่มันโรคจิตจับก้นผู้หญิง!"

"หา!?"

โดนใส่ความเอาดื้อๆ แบบนี้ มีหรือจะยอม เขาจะเข้าไปจับตัวชายโรคจิต แต่กลับถูกลูกค้าที่มาต่อแถวรุมล้อมเข้ามากันใหญ่ เปิดโอกาสให้คนร้ายตัวจริงวิ่งหนีออกจากร้าน

"หน้าตาก็ดีทำไมเป็นคนแบบนี้"

"นั่นสิแต่งตัวก็ดีดันโรคจิต"

ผู้คนเซ็งแซ่รุมต่อว่าต่อขาน ทั้งยังไม่ยอมให้เตชินหนีไปไหนได้ เขาชักเท้าถอยเพราะคนรุมเข้ามาชี้หน้า

"เดี๋ยวสิ ผมไม่ได้ทำนะ เจ้าหมอนั่นต่างหากล่ะ ผมมีหลักฐานนะ"

แก้ตัวไปคนก็ไม่เชื่อเพราะคนร้ายตัวจริงเผ่นไปแล้ว เด็กสาวยืนพับแขนเสื้อท่าทางเอาเรื่องเธอเดินเข้ามาหาเตชินแล้วเงื้อกำปั้น

"แกไอ้คนโรคจิต!"

กำปั้นของแม่สาวน้อยน่ารักแต่โหด เข้าที่ดั้งโด่งเป็นสันไปเต็มๆ จนหงายหลังล้ม

เสียงเอะอะและความวุ่ยวายที่เกิดขึ้น ทำเอาเจ้าของร้านต้องรีบแหวกไทยมุงเข้าไปดูทันที

"ตายละวา คุณเตชิน!"

สภาพนอนร้อลครางเอามือกุมดั้งจมูกดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เจ้าของร้านรีบพยุงเตชินไปนั่ง แล้วไปที่ตู้เย็นเอาน้ำแข็งมาให้เตชินประคบ เพราะเลือดกำเดาไหล

เขารีบไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ทุกคนดูกอนจะมีคนแจ้งความ อย่างน้อยหลังจากเปิดกล้องวงจรปิดให้ดูจึงพบว่าเป็นจริงอย่างที่เตชินบอก ทำให้บรรดาผู้หวังดีแยกย้าย

"ฉันขอโทษจริงๆ นะคะ ฉันไม่รู้จริงๆ นี่นา ก็มีคนตะโกนฉันก็ตกใจก็เลย"

เด็กสาวยิ้มแห้งๆ เธอก้มหัวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ เตชินไม่อยากจะพูดอะไรมาก เขาโบกมือห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ

"ถือว่าเป็นคราวซวยของฉันก็แล้วกัน ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ เลย ผู้หญิงอะไรมือหนักเป็นบ้า"

เตชินบ่นอุบอิบ พลางส่ายหน้า เจ้าของร้านได้แต่ยิ้มเจื่อน

"ว่าแต่วันนี้ทำไมวันนี้คุณเตชินมาเองได้ล่ะครับ เห็นเลขาเอกยกเลิกออเดอร์นี่ครับ"

"ก็นั่นแหละ มันดันยกเลิกกาแฟฉันน่ะสิ เดี๋ยวจะกลับไปคิดบัญชีกับมัน"

"เอ่อ เดี๋ยวฉันเลี้ยงกาแฟขอโทษก็แล้วกันนะคะ"

เด็กสาวอาสาเลี้ยงกาแฟเตชิน เขายกยิ้มแบบมีแผนการในใจ

20นาทีต่อมา.....

"อีตาบ้า! ไอ้คนใจคอคับแคบ ไหนว่าไม่อยากเอาเรื่องไงบอกจะเลี้ยงกาแฟนาย ไหงสั่งซะเยอะอย่างงี้เล่าดูสิเงินหมดเลย"

เด็กสาวบ่นอย่างหัวเสีย ก็โดนเล่นงานเข้าให้แล้ว เพราะเตชินสั่งกาแฟพร้อมของว่างถึง 10 ชุด ทำเอากระเป๋าตังเบาโหวง

เด็กสาวหยิบธนบัตรใบละ 100 ที่เหลือเพียงใบเดียวมาดูพลางก้มหน้าสลด

"หมดตัวเลยฉัน"

เอกภพรีบตรงมารับของในมือเตชินเมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาพร้อมของพะรุงพะรัง อย่างรู้สึกแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าออกไปแบบหงุดหงิดอย่างนั้นยังใจดีซื้อของเข้ามาให้อีก

"ผู้จัดการครับ โหซื้อมาเยอะเลยนะครับเนี่ย ไม่เรียกผมไปช่วยถือ"

"เอาไปที่ห้องประชุม มี10 ชุดพอดี เท่านี้ก็ไม่ต้องสั่งของว่างแล้ว"

เลขาเอกพยักหน้ารับคำ แล้วรับของทั้งหมดมาถือเอาไว้ ก่อนจะมาชะงักเมื่อเห็นหน้าผู้จัดการ

"จ..จมูกผู้จัดการ ไปโดนอะไรมาครับเนี่ย"

ว่าจะไม่โกรธแล้ว แต่ดันมาสะกิดต่อมโหดเข้าให้พอดี เตชินตบที่บ่าเอกภพไปแรงๆ เสียทีหนึ่ง

"จะว่าไปจมูกเนี่ย ต้องขอบใจนายจริง ๆ วันหลังถ้ามายุ่งกับกาแฟฉันอีก ฉันจะตัดเงินเดือน"

เอกภพยืนอ้าปากค้าง ไหงเจ็บจมูก  มาอารมณ์เสียลงที่เขาซะได้

"อะไรของเขาเนี่ยผีเข้ารึยังไง เอ้า นี่เธอเด็กฝึกงานใช่มั้ยเนี่ย"

เอกภพกล่าวเรียกเด็กสาวที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามา เขามองบัตรพนักงานชั่วคราวที่ติดอยู่ที่อกเสื้อแล้วอ่านชื่อ

"กานพลู เอ้อชื่อน่าสนใจดีนะ โบราณแต่น่าสนใจดี อยู่ฝ่ายไหนล่ะเรา"

"ฝ่ายบริการลูกค้าค่ะ"

เอกภพพยักหน้า เขามองการแต่งกายแล้วรู้สึกว่ายังใช้ไม่ได้

"วันหลังใส่กางเกงขายาวมานะ กระโปรงแบบนี้ไม่เวิร์ค ตกเป็นเป้าสายตาได้ เราไม่รู้จะเจอลูกค้าแบบไหนด้วย เดี๋ยวไปยืมชุดพนักงานที่ห้องสวัสดิการแล้วตามผมมา"

กานพลูเปลี่ยนชุดพนักงานเรียบร้อย แล้วเดินตามเอกภพไปที่ชั้นผู้บริหารตรงไปที่ห้องประชุม เขาส่งถุงขนมกับกาแฟให้กานพลูทำหน้าที่จัดเสิร์ฟ

"วันนี้ผู้จัดการใหญ่มีประชุมกับหัวหน้าแผนกต่างๆ เรื่องการต้อนรับ ลูกค้ารายใหญ่ เป็นนักลงทุนต่างชาติที่มาใช้บริการที่โรงแรมทุกปี ดังนั้นถ้าอยากผ่านโปร ได้รับการบรรจุง่ายๆ ก็รักษามารยาทดีๆ เอาขนมกับกาแฟไปเสิร์ฟให้เรียบร้อย และเงียบที่สุด และจำไว้ว่าเสิร์ฟเฉพาะหัวหน้าแผนกเท่านั้น ของผู้จัดการใหญ่ไม่ต้อง"

การพลูพยักหน้ารับคำสอนจากเอกภพ แล้วไปจัดการตามที่สั่ง

"เอ๋ ทำไมกาแฟกับของว่างพวกนี้ดูคุ้นๆ แฮะ  คงไม่มั้งสงสัยซื้อร้านเดียวกันคงบังเอิญล่ะน่า"

เธอพยายามตัดความคิดฟุ้งซ่านแล้วเดินเข้าห้องประชุม พร้อมรถเข็นใส่ของว่าง  เข้าไปในห้องประชุมเตรียมเสิร์ฟ

"เรื่องการจัดเลี้ยงล่ะ ของว่างสั่งกับร้านเดิมนะส่วนอาหารไปลิสต์รายการมาให้ผมเลือกก่อน"

เสียงผู้จัดการใหญ่ฟังดูเท่ห์ดีแต่พูดจาแข็งไปหน่อย กานพลูคิดในใจว่าผู้บริหารก็ปากเก่งแบบนี้แหละ ขี้เก็กแล้วก็ต้องวางมาด

"ผู้จัดการคะ เบเกอรี่ร้านประจำของเราขอขึ้นราคา 60% แล้วก็จะไม่ยอมส่งถ้าเราไม่ทำตามคำขอ"

"ผมไม่อนุมัติคิดราคาก็ควรจะมีเหตุผลอันสมควร เดิมเราก็ตกลงกันในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดทั่วไปอยู่แล้ว หากขึ้นราคาอีกก็เท่ากับเราเอาเปรียบลูกค้า ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะยอมเด็ดขาด คุณเตรียมหาร้านใหม่ได้เลย"

เอกภพพยักหน้าให้สัญญาณกานพลูเข็นของว่างไปเสิร์ฟ

เธอเข้าไปวางแก้วกาแฟให้พร้อมกับของว่างให้หัวหน้าแผนกต่างๆ จนครบ เธอยายามจะแอบมองหน้าผู้จัดการใหญ่ที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารการประชุม จนเขายื่นแก้วกาแฟของเขาให้เธอเอาไปเก็บ

ตาต่อตามาประสาน กานพลูเบิกตามองตื่นตะลึง

"นายโรคจิต!"

"ยัยซาดิสม์!"

โลกช่างกลมโดยแท้.....

15  นาทีต่อมา...

"คนถ่อย ใจจืดใจดำ  คนบ้าอำนาจ ใจคอคับแคบ ขอให้สำลักกาแฟตายไปเลย!"

กานพลูยืนกระทืบเท้าอยู่หน้าโรงแรมโหวกเหวกโวยวาย อย่างหงุดหงิดเป็นที่สุด เธอแทบอยากจะขยำซองขาวในมือขว้างลงพื้น ถ้ามันไม่มีเงินชดเชยอยู่ในนั้น

เธอโดนไล่ออกจากงานหน้าตาเฉย สาเหตุก็มาจากตาคนขี้เก็กที่บังเอิญเข้าใจผิดกันที่ร้านกาแฟดันเป็นผู้จัดการใหญ่ ของโรงแรมที่เธอฝึกงานอยู่

อย่างน้อยก็ยังได้เงินชดเชยหนึ่งเดือนก็ยังดี

"คุณเอกออกจะใจดีไม่น่ามีเจ้านายขี้เก็กเลย แล้วนี่ฉันจะทำไงเนี่ย นี่มันงานที่ 3 แล้วนะ"

คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ เธอตระเวณหางานทำมาเรื่อยไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงหรืออะไรกันแน่ ทำได้ไม่เท่าไหร่ก็เกิดเรื่องให้ต้องออกจากงานอย่างไม่เต็มใจ งานนี้เป็นงานที่เธอหวังมาก เพราะเงินเดือนดีที่สุดแล้ว

"ต้องเริ่มใหม่อีกแล้วสินะ ซวยจริงๆ เลย"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel